“สว.เสรี” บี้นายกฯ ต้องมาแจงซักฟอกด้วยตัวเอง ย้ำขออภิปรายเดือนกุมภาพันธ์ รับหากยื้อออกไปจะหมดสมัยประชุมก่อน เผยประเด็นมาครบ
ทั้งปมรีดสินบนอธิบดีกรมการข้าว-หมูเถื่อน-ตีนไก่ ด้านรองเลขาฯนายกฯเผยซาวเสียงครม.พร้อมรับมือศึกซักฟอกช่วงปลายกุมภาพันธ์ โว“เศรษฐา-รัฐบาล” ยินดีไม่มีปัญหา พร้อมตอบทุกข้อซักถาม ดักคอเนื้อหาอย่าซ้ำเดิม เมินเจอ’วาทกรรมสั่นคลอน’เชื่อคุยกันด้วยเหตุผล
เมื่อวันที่ 29มกราคม2567 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงความคืบหน้าหลังยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา153 ว่า ประธานวุฒิสภาได้นำญัตติดังกล่าวเข้าที่ประชุมวิปวุฒิสภา เมื่อวันที่ 25ม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด โดยมีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อที่จะดำเนินการประสานงานกับสว.ที่จะอภิปรายในญัตติดังกล่าวและรวบรวมประเด็นที่สว.แต่ละคนจะอภิปราย ซึ่งตอนนี้ได้จัดทำแบบสอบถามเพื่อที่จะได้เห็นประเด็นที่ชัดเจนขอสว.แต่ละคนที่จะอภิปราย และเพื่อจัดลำดับการอภิปรายให้ครอบคลุมประเด็นใน 7ข้อและรัฐบาลจะได้จัดรัฐมนตรีมาชี้แจง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ถ้าเป็นไปได้ขออภิปรายเดือนก.พ.ซึ่งอยู่ที่รัฐบาลจะพร้อมและแจ้งกำหนดวันที่สะดวกในวันใด ทางตนเสนอขออภิปราย 2วัน คือวันจันทร์และวันอังคาร เนื่องจากเป็นวันประชุมวุฒิสภาอยู่แล้ว
‘เสรี’ขอนายกฯตอบซักฟอกด้วยตัวเอง
ส่วนวันอังคารอาจจะมีปัญหาเนื่องจากเป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้นครม.ต้องจัดรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี จะมาชี้แจงเองก็แล้วแต่ แต่โดยเหตุผลและปัญหาแล้วนายกฯควรมาชี้แจงเองเพราะเป็นการอภิปรายและพูดกับรัฐบาลถ้าหัวหน้ารัฐบาลไม่มาก็อาจจะทำให้ความชัดเจนของเนื้อหาที่จะตอบไม่ครบถ้วนสมบูรณ์และไม่เห็นนโยบายที่แท้จริงของรัฐบาล ดังนั้นจึงหวังว่านายกฯจะมาชี้แจงด้วยตัวเอง ส่วนการกำหนดผู้อภิปรายมีสมาชิกมาแสดงความจำนงหลายคนเพียงแต่เราต้องการประเด็น และเวลาชัดเจน โดยผู้อภิปรายจะเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆและมีข้อมูลที่จะบอกกับรัฐบาลว่าควรจะต้องทำอย่างไร เช่น นายถวิล เปลี่ยนศรี นายสมชาย แสวงการ นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.เป็นต้น แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นหลักฐานเราจึงต้องทำหนังสือแบบฟอร์ม ให้สมาชิกแสดงความจำนงอภิปราย ซึ่งตอนนี้สว.ที่มาแสดงความจำนงที่จะอภิปรายมีหลายสิบคนแล้ว
ย้ำปลายก.พ.เหมาะสมเปิดอภิปราย
เมื่อถามว่า ตอนนี้ตัวญัตติยังไปไม่ถึงรัฐบาล ห่วงหรือไม่ว่าจะดึงให้ไปอภิปรายพร้อมกับช่วงที่สส.อภิปราย ซึ่งอาจจะเป็นเดือนมี.ค.หรือเม.ย.นายเสรี กล่าวว่า อยู่ที่สะดวก ความจริงใจและสุจริตใจ ในการที่จะมาร่วมกันทำหน้าที่เหล่านี้ เพราะระยะเวลาที่สภาจะครบสมัยประชุม คือวันที่ 9เม.ย.ดังนั้นควรต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนก.พ.หรือมี.ค.แต่ สว.ไม่อยากให้ชักช้า ถ้าหากอภิปรายในดือนก.พ.ได้ก็ถือว่าสะดวกและไม่ไต้องไปเสี่ยงกับช่วงที่จะหมดสมัยประชุม
ถล่ม’รีดเงินกรมข้าว-หมูเถื่อน-ตีนไก่’
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลอย่างไร ที่ล่าสุดมีคนของรัฐบาลเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์จากอธิบดีกรมการข้าว ประเด็นนี้จะนำไปสู่การอภิปรายด้วยหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ประเด็นนี้มีอยู่ในหัวข้อเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมีหลายเรื่องทั้งเรื่องหมูเถื่อน ตีนไก่ ที่เป็นการนำเข้าอย่างผิดกฎหมายและต้องยอมรับว่า การบริหาราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน แม้กระทั่งประเด็นที่นำเสนอเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐทั้งนั้น รวมถึงการาทุจริตของภาครัฐอยู่ในการตรวจสอบ ซึ่งเราต้องนำเรื่องเหล่านี้มาพูดกัน เพราะไม่ใช่มีแค่นี้ “จริงๆแล้วเรื่องรับสินบน เกิดขึ้นตลอด แม้กระทั่งในช่วงเวลานี้ ประชาชนที่สัมผัสกับหน่วยงานราชการ ที่ให้บริการประชาชนถูกเรียกเงินกันมาตลอด และการเรียกเงินเขาเรียกแบบบีบบังคับ ให้ประชาชนยอมจ่ายให้ โดยมีวิธีการที่เจ้าหน้าที่เองไม่ได้เป็นคนเรียก แต่ใช้กระบวนการในการใช้อำนาจหน้าที่แล้วให้ประชาชนยอมจ่ายให้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมาพูดกัน” นายเสรี กล่าว
ครม.พร้อมตอบสว.ปลายเดือนก.พ.
ด้าน นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี สว.จะอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา153 ว่า เรารับทราบเรื่องที่ สว. ยื่นอภิปรายแล้ว โดยผู้ใหญ่ในรัฐบาลก็มีการพูดคุยกันเบื้องต้น ว่าเมื่อไหร่ที่เราได้รับเรื่องจากวุฒิสภาแล้ว ก็จะมีการพูดคุยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งทราบจากรัฐมนตรีบางท่านว่า น่าจะมีความพร้อมในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนวันเวลาที่ชัดเจน เราต้องขอเวลาอีกสักพัก ให้มีการพูดคุยกันก่อน ทั้งนี้ รัฐบาลยินดีที่จะตอบข้อซักถามของ สว.ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่ทำให้รัฐบาลบอกนโยบายว่าเราทำอะไรมาบ้าง ในระยะเวลา 4-5 เดือนที่ผ่านมา และจะไปต่ออย่างไร
ยันเน้นเรื่องเนื้อหา-วันเวลาไม่สำคัญ
“ขอบคุณที่ สว.หากสอบถามอย่างไรมาก็เชื่อว่ารัฐบาลไม่มีปัญหาที่จะตอบ อย่างไรก็ตาม ปกตินายกฯจะมาตอบเองอยู่แล้ว ท่านไม่มีปัญหาอะไรกับสภาฯ พร้อมตอบทุกปัญหา ส่วนวันเวลาจะเป็นช่วงใดนั้นอยู่ที่เนื้อหา ขอให้เอาเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมาอภิปราย และขออย่ากังวลว่าจะมีเรื่องวาทกรรม หากพูดคุยด้วยเหตุผล ผมเชื่อว่าไม่มีปัญหา” นายสมคิด กล่าว
‘วราวุธ’พร้อมตอบสว.เปิดอภิปราย
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สว.ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติ ตาม ม.153 ซึ่งมีประเด็นสังคมด้วยนั้น ตนคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่กระทรวง พม.ตนจะสามารถชี้แจงให้สมาชิกวุฒิสภารับฟังได้ว่า ตลอด4เดือนที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง หรือในทางกลับกันหากสมาชิกวุฒิสภามีข้อมูลที่จะมาตั้งข้อสังเกต หรือ ส่งเสริมต่อการทำงานของกระทรวง พม.เรายินดีน้อมรับนำไปปรับปรุงแก้ไข เพราะท้ายที่สุดแล้ว ข้อสังเกตหรือการอภิปรายของสว.เชื่อว่า เป็นประโยชน์ในการทำงานของรัฐบาลและรัฐบาลยินดีที่จะให้คำชี้แจง และเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ชี้แจงกับพี่น้องประชาชนด้วยเช่นกัน
‘สนธิญา’ร้องสอบตั้ง’ธนาธร’นั่งกมธ.
ที่รัฐสภา นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นหนังสือต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบการแต่งตั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนหน้าที่การให้บริการไฟฟ้าที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง โดย นายสนธิญา กล่าวว่า นายธนาธร ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5ปี ขณะนี้ยังไม่ครบกําหนดและยังเป็นผู้ต้องหาคดีรุกป่า รวมถึงคดีมาตรา 112 โดยตนจะยื่นให้ นายวันนอร์ พิจารณาว่า การแต่งตั้งนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือเป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยเรื่องจริยธรรม ปี2563 ที่ใช้บังคับกับสส.และกมธ.หรือไม่
สงสัยขัดรธน.เรื่องจริยธรรมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งบุคคลภายนอกมาเป็นกมธ.ถือเป็นเรื่องปกติ นายสนธิญา กล่าวว่า คนที่จะมาเป็นกมธ.ชุดใดก็ตาม บุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1.ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2.ไม่ขัดต่อกระบวนการจริยธรรม ปี2563 ทั้งนี้ ตนไม่ได้บอกว่า นายธนาธร ขัดคุณสมบัติดังกล่าว แต่อยากให้ นายวันนอร์ พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับ นายธนาธร ว่า ขัดหรือไม่ แต่ตนเห็นว่า มีหลายเรื่องที่ขัดต่อจริยธรรม นอกจากนี้ ตนขอถามนายวันนอร์ ผ่านไปยัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จากกรณีที่ตนมีส่วนร่วมในการกระตุ้นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องการถือหุ้นไอทีวีให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่ง นายพิธาและพรรคก้าวไกล ระบุว่า เสียเวลาไป 6เดือน พร้อมถามหาความรับผิดชอบนั้น ตนขอเรียนว่า ตอนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเคยยื่นให้ตีความกรณีการดำรงตำแหน่งครบ 8ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯซึ่งศาลใช้เวลาพิจารณา 1เดือนครึ่ง ขอถามกลับว่าใครจะรับผิดชอบ ทั้งนี้ กรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบที่กว้างไกลและการตีความเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งก็เห็นชัดอยู่แล้วว่า ครบหรือไม่ ดังนั้นจึงแตกต่างจากกรณีของ นายพิธา ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุว่า ที่ล่าช้าเพราะ นายพิธา ขอผัดไปเอง 2เดือน
’พิธา’จะรับเงินย้อนหลัง1.4ล้านหรือไม่
นอกจากนี้ ตนขอถาม นายพิธา ว่า เงินเดือนสส.ของนายพิธา รวมถึงเงินสำหรับผู้ช่วย ผู้ชำนาญการ และผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ทั้งหมด 6 เดือน เป็นจำนวนเงิน 1.4ล้านบาท นายพิธา จะรับหรือไม่ เพราะไม่ทราบว่าตลอดเวลา 6 เดือน ได้ทํางานหรือไม่ และควรสร้างบรรทัดฐานใหม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนและขอถามอีกว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปพรรคฝ่ายค้านจะไม่ทำให้สภาล่มอีกใช่หรือไม่ รวมถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่สภา มีการนำเยาวชนอายุต่ำกว่า18ปี ที่มีคดีมาตรา112และหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ มารวมในกฎหมายด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ในวันที่ 31ม.ค.ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติอย่างไร ตนก็พร้อมจะเดินหน้าตรวจสอบในอีกหลายประเด็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี