"ภูมิธรรม"มอบแนวทาง"กมธ.งบฯ"เน้นทำงานร่วมกัน ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก แนะตัดงบอิงสถานการณ์ปัจจุบัน ปัดตั้งอนุฯหวังปกป้องงบฯกระทรวง ตั้งเป้าทำให้เสร็จภายใน 90 วัน
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม กมธ.งบฯ ว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 9 ชุด ชุดละ 10 คน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย และในวันนี้ได้ให้อนุกรรมการต่างๆ เริ่มประชุม พร้อมขอให้คณะอนุฯ เข้าประชุม กมธ.งบชุดใหญ่ ด้วย ทั้งนี้ ตนอยากขอบคุณการร่วมมือกันของคณะอนุต่างๆ ซึ่งมีทั้งบุคคลจากพรรคและบุคคลภายนอก
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการประชุมวันนี้ได้ให้แนวทางว่า การพิจารณางบนั้นควรจะเป็นกรอบเดียว และหาข้อสรุปร่วมกัน และได้บอกกับสมาชิกว่า เราไม่ได้ทำงานให้กับพรรคทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล แต่ทำงานเป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศ เพื่อจะได้ร่วมมือกันทำงานด้วยดี แต่ยอมรับว่ามีความเห็นที่แตกต่าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาในการทำงาน เพราะระบอบประชาธิปไตยต้องเคารพความเห็นที่แตกต่าง และทำให้เรามองประเด็นได้รอบด้านมากขึ้น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนมองว่าหากมีความเห็นที่แตกต่างในที่ประชุม ก็ไม่อยากให้ใช้วิธียกมือเอาความคิดใดเป็นหลัก อยากให้คุยหาข้อสรุป เข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่า ให้ยึดเรื่องนี้เป็นแนวทาง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามีการเชิญข้าราชการ กระทรวง และกรมต่างๆ มา ซึ่งล้วนมีความอาวุโสและมีประสบการณ์ ดังนั้น คำถามต่างๆ ต้องสั้นกระชับ และได้ใจความตรงประเด็น รวมถึงให้เกียรติทุกคนในการถามคำถามเพื่อเข้าถึงข้อมูล สิ่งสำคัญคือ เรามีหน้าที่ดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุด เราทำงานกับงบปี 67 ในภาวะที่ไม่ปกติ จึงอยากให้รีบทำ เพราะรัฐบาลได้ทำโครงสร้างพื้นฐานประกอบคิดไว้แล้ว หากใช้งบส่วนนี้ได้เร็วก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ในส่วนการปรับลดงบประมาณ ได้กำชับให้ดูว่าโครงการที่เสนอมาสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แม้จะเป็นโครงการที่คิดมาดีแล้ว แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนก็สามารถปรับลดงบประมาณลงได้ และย้ำว่า การพิจารณานั้นต้องเคร่งครัดกับกรอบกฎหมายโดยรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ต้องไม่ไปก้าวล่วงหรือเกี่ยวข้อง
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า วันนี้เราใช้วิธีการใหม่ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เดิมเราใช้แบ่งภาพรวม ซึ่งทำให้มีปัญหาว่าหน่วยราชการทำงานหนักต้องวิ่งไปวิ่งมาจนลำบาก จึงใช้วิธีรวมเป็นรายมาตรา ทำให้แต่ละกระทรวงสามารถชี้แจงจบได้ภายใน 1 - 2 วัน หากได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็จะเป็นแนวทางในอนาคต เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพเร็วที่สุด แต่หากไม่เป็นอย่างที่หวัง ก็พร้อมที่จะกลับไปใช้ระบบเดิม
เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งคณะอนุ กมธ.ตามรายกระทรวงนั้น เป็นการปกป้องงบของกระทรวงตนเอง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปกป้องไม่ได้ เพราะคณะกรรมการวิสามัญชุดใหญ่ มาจากทุกภาคส่วนทางการเมือง สุดท้ายแม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง คณะกรรมการวิสามัญชุดใหญ่ก็ต้องเป็นผู้ตัดสินใจอยู่ดี อย่ากังวลเกินไป การที่เราเชิญบุคคลภายนอกมาก็ดี หรือตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองก็ดี ล้วนช่วยให้การดำเนินงานคล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น หากตั้งใจจะทำเพื่อเอื้อประโยชน์เช่นนั้น อยู่ตรงไหนก็ทำได้ เจตนาแบบนี้สามารถแฝงไปได้ทั้งนั้น วันนี้เราเปิดเผยต่อสาธารณะ เปิดเผยต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่เป็นตัวแทนมาจากทุกพรรคการเมืองอยู่แล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ขณะนี้เราดำเนินการมา 17 วัน ภายในกรอบระยะเวลา 105 วัน เราพยายามจะทำให้เสร็จก่อนอย่างน้อย 15 วัน หรืออาจเร็วกว่านั้นหากทุกอย่างเดินไปด้วยดี เพราะหากรีบทำให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด เราจะมีงบประมาณ เพื่อไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้เร็วที่สุด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี