"นายกฯ"หารือ"รมว.ท่องเที่ยวฯ" หนุนเปิดวีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวหลายประเทศ ก่อนเปลี่ยนทางออกเลี่ยงม็อบปักหลักข้างทำเนียบฯ
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ภาพประชุมหารือร่วมกับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ที่ปรึกษารมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมข้อความผ่าน X โดยมีข้อความระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำทีมมารายงานผลหลังจากที่ได้ไปประชุมเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคมา ผมเลยขอเอาผลการประชุมเอามาเล่าให้ทุกคนรู้ด้วย
1.นโยบายใช้ Visa ร่วมกับประเทศไทย และกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) และ Malaysia ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ใน CLMV เช่น นักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวกัมพูชา และมี visa กัมพูชาแล้วเมื่อเครื่องบินลงที่ไทยก่อน นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวที่ไทยได้เลยโดยใช้ Visa ของกัมพูชาที่มีอยู่ คล้ายๆ กับ เชงเก้นวีซ่าของยุโรปซึ่งสามารถเดินทางเข้าได้หลายประเทศในยุโรปได้ 2.มอบหมายให้รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ ไปหารือกับกระทรวงต่างประเทศ เรื่อง Visa Free เพื่ออำนวยความสะดวกให้ กับนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ อย่างที่เราทำสำเร็จกับประเทศจีนมาแล้ว ซึ่งมีหลายประเทศให้ความสนใจครับ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.45 น.นายกฯ เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยขบวนรถนายกฯ ได้ใช้ประตูทางออกสะพานอรทัย เนื่องจากบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล มีกลุ่มผู้ชุมนุม คือ กลุ่มเครือข่ายนักเรียนประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) มาปักหลักชุมนุมค้างคืน จึงทำให้นายกฯ ต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางออกจากทำเนียบรัฐบาลจากเดิมที่ใช้ประตู 1 มาเป็นประตูอรทัย แทน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี