‘ภูมิใจไทย’ ชงถาม ‘นายกฯ’ สารพัดปัญหา ‘ยาเสพติด-PM 2.5-ส่งเสริมท่องเที่ยว’ ด้าน ‘เศรษฐา’ ยันจับได้เพียบแต่ความต้องการยังสูงมาก เร่งหยุดสกัดตามแนวชายแดน หลังทราบเพื่อนบ้านเจอปัญหาร้อนเงิน รับไม่รู้ ‘น้ำกระท่อม’ ขายตามสี่แยก
เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายโสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ถามนายกรัฐมนตรีว่า ได้ดำเนินการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างไรบ้าง เพราะถือเป็นภัยร้ายแรงต่อประเทศ และเศรษฐกิจ หากเรายังมองโลกสวยก็แก้ไม่ได้ เพราะวันนี้หากเป็นผู้ป่วยก็ถือว่าโคม่าแล้ว ต้องปฏิรูปทั้งองค์กรในการแก้ปัญหายาเสพติดที่ขณะนี้ทวีความรุนแรงอย่างน่ากลัว ที่ลงลึกไปถึงนักเรียน และเยาวชน ปัญหายาเสพติดทุกวันนี้ไม่ใช่เฉพาะยาบ้าอย่างเดียว แต่ที่กำลังระบาดเป็นแฟชั่น เป็นน้องใหม่แต่น่ากลัวคือกระท่อม สี่คูณร้อย บุหรี่ไฟฟ้า ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะยาเสพติดมีหลายประเภท และหาง่าย ราคาถูก แต่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง และกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ไม่เอื้อต่อผู้ปฏิบัติจริงๆ
นายโสภณ กล่าวต่อว่า ขอทราบนโยบายการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทั้งระยะเร่งด่วน และระยะยาว เพราะไม่ได้มีฝุ่นเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้นแต่กระจายในตามจังหวัดต่างๆ แล้ว รวมทั้งขอทราบเรื่องการที่นายกฯ ได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ได้มีการการดำเนินการอย่างไร มีนโยบายบายกระจายการท่องเที่ยวไปสู่ภูมิภาคอย่างไร
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องหลักนอกจากเรื่องเศรษฐกิจ โดยตั้งแต่ปลายปี 2566 จับผู้ค้ารายย่อยเพิ่มมากกว่าปีก่อน 40 เปอร์เซ็น จำนวน 32,000 เคส ยาบ้าจับได้มากกว่าปีก่อน 2 เท่า กว่า 250 ล้านเม็ด เราเน้นจับรายใหญ่ไม่ให้ไปกระจายต่อ รายใหญ่ที่ขาย 5 แสนเม็ดขึ้นไป จับได้กว่า 62 เคส ยึดทรัพย์มาแล้วกว่า 2,500 ล้านบาท เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตัวเลข ซึ่งตนเชื่อว่าหากดูในแง่ดี ก็ดี แต่หากดูในเรื่องที่ดีๆ แล้วพยายามไม่พูดถึงปัญหาจริงๆ ที่มีอยู่ ก็ต้องยอมรับว่าถึงแม้จะจับเยอะขนาดไหนก็ตาม ยังไม่น่าสบายใจ เพราะราคายาบ้าก็ไม่เพิ่มขึ้น ถ้าเราจับได้เยอะจริงๆ อุปทานหายไปราคาก็น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
“การบ้านของรัฐบาลก็ยังมีอีกเยอะ ยอมรับว่าปัญหายาเสพติดรากเหง้ามาจากปัญหาเศรษฐกิจ การที่ประชาชนต้องประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจรายจ่ายสูง รายได้น้อย อาจเกิดความหมดหวัง ที่มีมานานแล้ว และรัฐบาลนี้ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเราตระหนักดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้นมา ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่สังคมสงสัยคือยาที่จับไปแล้วใช้เวลานานในการทำลาย ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่าเราพยายามจะจับพิสูจน์ทราบให้ได้ และเก็บตัวอย่างเล็กน้อยไว้ ที่เหลือจะทำลายโดยเร็ว เพื่อตัดปัญหาที่สังคมสงสัยว่าอาจจะมีการรั่วไหล” นายเศรษฐา กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องน้ำกระท่อมถือเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ และแพร่กระจายไปเร็ว ซึ่งตนไปพบ สส.อุบลราชธานี มีการชี้แจงว่าน้ำกระท่อมตามสี่แยกมีอย่างแพร่หลาย ยอมรับว่าตนไม่เคยทราบ จึงได้เรียกผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย) มาเพื่อให้ไปสั่งการผู้การจังหวัดให้มีการกวาดล้างโดยเร็ว สามารถกำจัดได้ภายใน 1 สัปดาห์ และพยายามกระจายไปทำจังหวัดต่างๆ หากสส.มีปัญหาในพื้นที่ขอให้แจ้งมาเพื่อจะช่วยจัดการอย่างทันควัน
ทั้งนี้ปัญหายาเสพติดต้องโยงไปถึงปัญหาของเพื่อนบ้านด้วย และต้องยอมรับว่าประเทศที่มีปัญหาภายในเยอะมากคือเมียนมา ปัจจุบันยาเสพติดทะลักเข้ามาตามชายแดนเยอะมาก แต่กองทัพบก โดยแม่ทัพภาคที่ 3 ได้มีการสกัดการนำเข้า และจับได้ดีมาก เราพยายามทำตรงนี้ เพราะปัญหาในประเทศเพื่อนบ้าน เงินเป็นสิ่งสำคัญ เขาต้องการเงิน ในที่สุดเขาก็ต้องผลิตยาเสพติดแล้วส่งขายมาในประเทศเรา เราจึงไม่ยอม โดยได้ชี้แจงให้ประเทศมหาอำนาจ 2 ประเทศ ทราบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เรามีส่วนได้เสียอย่างมาก ซึ่งผู้นำทั้ง 2 ประเทศก็เข้าใจ และรับไปปฏิบัติ
ส่วนในอนาคตเราต้องให้ความสำคัญไม่ว่าจำเป็นเรื่องการสกัดการเข้ามาของยาเสพติดตามชายแดน ที่ปัจจุบันทางภาคเหนือทำได้ดีแล้ว แต่ยาเสพติดก็ไปโผล่ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี ซึ่งด่านนี้มีปัญญาเยอะ เราก็ต้องสู้กันไป ส่วนเรื่องการบำบัดเปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วยเพื่อให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ คืนสู่อ้อมแขนของครอบครัว รัฐบาลจะทำอย่างต่อเนื่อง
นายเศรษฐา ยังชี้แจงถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า เป็นปัญหาที่มาจากรากเหง้าเศรษฐกิจ เพราะการใช้ไม้ขีดก้านเดียวที่ราคาถูกมากในการเผาตอข้าว ซังข้าวโพด ฉะนั้น เป็นเรื่องที่เราต้องดูแลให้ดี ไม่ให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น โดยให้เป็นเรื่องของการไถกลบ และองค์ความรู้ ซึ่งฝ่ายนิติบัญญติมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาดอยู่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะปลูกพืชผลทางการเกษตรเหมือนกัน จึงมีความเข้าใจผิดในการกำจัดซากวัชพืช
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนได้สั่งการรัฐมนตรี ไปดูเกี่ยวกับการเผาป่า หากเกษตรกรรายใดยังมีการเผาอยู่ก็อาจจะถูกตัดสิทธิ์ในการช่วยเหลือจากรัฐบาล ใครที่ทำผิดกฎหมายก็จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้เป็นที่น่ายินดีว่าตัวเลขที่ผ่านมาการเผาวัชพืชดีขึ้น เพราะทางภาคเหนือจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว หากมีเรื่องของฝุ่นควันก็อาจทำร้ายการท่องเที่ยวได้
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการกระตุ้นการท่องเที่ยว รัฐบาลนี้ลงทุนเยอะมากในการออกนโยบายต่างๆ ถือว่าเป็นผลประโยชน์ระยะยาวที่ชัดเจนที่สุด ว่าประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวดีมาก ไม่ใช่แค่ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน หรือกรุงเทพฯ อย่างเดียว แต่ยังมีเมืองรองอื่นๆ ด้วย เราอยากสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวกระจายตัวไปเที่ยวตามเมืองรอง เพื่อเป็นการกระจายรายได้ โดยเรื่องเหล่านี้ผ่านโครงการซอฟต์พาวเวอร์ โดยมีการทำนิทรรศการต่างๆ ทั้งปี ไม่ใช่แค่เดือนมกราคมหรือธันวาคมอย่างเดียว
“รัฐบาลมีแผนที่จะยกระดับสนามบินทั้งประเทศเพื่อรองรับการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่เมืองรองได้ ยืนยันว่าไม่ได้ให้ความสำคัญแค่จังหวัดใหญ่ๆ อย่างเดียว เพราะผมเดินทางไปมาทั่วประเทศแล้วเข้าใจถึงวัฒนธรรมที่สามารถนำเสนอให้นักท่องเที่ยวได้” นายกฯ กล่าว
----017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี