วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘กมธ.นิรโทษกรรม’ถกนัดแรก  เชิญ‘คณิต-โคทม’  ให้ความเห็นปรองดอง15ก.พ.นี้

‘กมธ.นิรโทษกรรม’ถกนัดแรก เชิญ‘คณิต-โคทม’ ให้ความเห็นปรองดอง15ก.พ.นี้

วันศุกร์ ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : กฎหมายนิรโทษกรรม
  •  

‘กมธ.นิรโทษกรรม’ถกนัดแรก

เชิญ‘คณิต-โคทม’

ให้ความเห็นปรองดอง15ก.พ.นี้

“กมธ.นิรโทษกรรม”ประชุมนัดแรก ยังไม่ฟันธงผลศึกษาจะต้องออก“กฎหมายนิรโทษกรรม”หรือไม่ เตรียมเชิญ “คณิต ณ นคร-โคทม อารียา” ให้ความเห็นปรองดอง 15 กุมภาพันธ์นี้“ชูศักดิ์”ย้ำต้องฟังความเห็นทุกฝ่ายอย่างรอบคอบต้องคิดครอบคลุม“ให้ใคร-ทำอะไร-ช่วงเวลาใด”ขณะที่ “สมคิด” เผยมีกรอบระยะเวลาให้ศึกษา 60 วัน หากไม่เสร็จจะขอขยายเวลาต่อ ด้าน‘ยุทธพร’เปิดประตูถก‘ม.112’ มองนิรโทษกรรมสร้างความปรองดองปลายทางเปิดพื้นที่ให้ทุกกลุ่มแสดงความคิดเห็น

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรอบการทำงานของ กมธ.ภายหลังการประชุมนัดแรก ว่า ในการประชุมครั้งหน้าคือวันที่ 15 ก.พ. เวลา 13.00น. ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิคือ นายคณิต ณ นคร และ นายโคทม อารียา ที่เคยมีประสบการณ์ ในการศึกษาเรื่องนิรโทษกรรมและการปรองดอง มาให้ความเห็นต่อกมธ.


ทั้งนี้ ในส่วนกรอบการทำงานกมธ.ได้วางเป้าหมายจะหารือพูดคุยในรายละเอียดในการประชุมครั้งต่อไป พร้อมกับอ้างอิงความเห็นของสภาผู้แทนราษฎรที่ได้อภิปรายซึ่งสะท้อนถึงความเห็นของทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม เพื่อนำไปสู่ความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งบางพรรคการเมืองมีการเสนอร่างกฎหมายออกมาแล้วแต่ปัญหาใหญ่ของ กมธ.ที่ต้องขบคิดคือเราจะนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมเพียงใด ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมและพรรคการเมืองถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ กมธ.จะต้องศึกษาตรงนี้ว่าจะครอบคลุมอะไร หรือการกระทำอะไรบ้าง หรือครอบคลุมตั้งแต่ช่วงเวลาใด กับบุคคลใดเป็นต้น อันนี้เป็นงานหนักของกมธ.

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า กมธ.จะต้องหารือให้ได้ข้อสรุปว่าในท้ายที่สุด หากเห็นตรงกันว่าควรจะนิรโทษกรรมหรือจะไปถึงขั้นการยกร่างกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเป็นภารกิจตามที่ได้มีมติตั้งกมธ.ชุดนี้ขึ้นมา เพื่อศึกษาการตรากฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญจะต้องสอบถามให้เกิดความรอบคอบเพื่อจะได้เกิดแรงร่วมใจกันในการทำงานให้สำเร็จ

เมื่อถามว่า จะมีการพิจารณาถึงการจะนิรโทษให้กลุ่มบุคคล ที่ต้องโทษคดีอาญามาตรา 112 หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องฟังความเห็นของกรรมาธิการก่อนขออย่าเพิ่งไปด่วนสรุป ประกอบกับพิจารณาสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมในขณะนี้ ซึ่งจะต้องดูให้เกิดความรอบด้านอย่าถึงขั้นฟันธงว่าจะมีหรือไม่มีอะไร ขณะเดียวกันเชื่อว่าผลการศึกษานิรโทษกรรมจากคณะกรรการต่างๆ นำมาพิจารณาศึกษาในชั้นกรรมาธิการได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องตั้งคณะอนุกมธ.ขึ้นมาเพิ่ม

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางตรากฎหมายนิรโทษกรรม เปิดเผยผลการประชุมนัดแรก ว่า มีการเลือกตำแหน่งต่างๆใน กมธ.นิรโทษกรรมฯ ซึ่งได้พูดคุยกรอบการทำงานกว้างๆ ยังไม่พิจารณาตัวร่างกฎหมาย และข้อมูลนิรโทษกรรมในอดีตที่ผ่านการคัดกรองมาแล้ว โดย กมธ.นิรโทษกรรมฯ จะประชุมทุกวันพฤหัสบดี ในเวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งที่ประชุมสภากำหนดระยะเวลาให้ศึกษา 60 วัน หากเสร็จไม่ทันก็จะขอขยายเวลา ขอขอบคุณพรรคการเมืองและนักวิชาการทุกคนที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี

นายสมคิด ยืนยันว่า จะนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทุกฉบับ มาพูดคุยและนำมาสรุปทั้งหมด รวมถึงร่างของภาคประชาชนที่จะเสนอมาด้วย เพราะแต่ละฉบับมีข้อดีข้อเสีย หากมีประเด็นเกี่ยวกับต่างประเทศ จะเชิญตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศมาให้ความเห็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมมีมติเลือกตำแหน่งต่างๆ ในกมธ. ดังนี้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นประธาน มีรองประธาน 6 คน ประกอบด้วย นายวุฒิสาร ตันไชย นายรังสิมันต์ โรม นายประดิษฐ์สังขจาย นายไพบูลน์ นิติตะวัน นายวิชัย สุดสวาสดิ์ นางอังคณา นีละไพจิตร ส่วนนายนิกร จำนง เป็น เลขานุการคณะกรรมาธิการขณะที่ตำแหน่งโฆษก กมธ. มี 5 คน ได้แก่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.เพื่อไทย และนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ

กมธ.กำหนดประชุมทุกวันพฤหัสบดี เวลา 13.00 น. ซึ่งในการประชุมครั้งที่สอง ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ที่ประชุมมีมติเชิญ นายคณิต ณ นครนายอารียา โคทม และตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ มาให้ข้อมูล

รศ.ยุทธพร อิสรชัย อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในฐานะกรรมการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม กล่าวภายหลังการประชุม กมธ.นิรโทษกรรมฯ นัดแรก มองจุดหมายปลายทางเรื่องนี้ไว้อย่างไร ว่า กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม อย่างไรก็ดี กฎหมายคือเรื่องปลายทาง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุด คือกระบวนการที่ต้องสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เราพูดถึงเรื่องการสร้างความปรองดอง และความสมานฉันท์มามากมาย แต่ปรากฏว่า ยังไม่เคยเห็นอะไรที่เป็นภาพเป็นผลชัดเจน

“เพราะฉะนั้น เราต้องปรึกษาหารือ เรามีคำตอบล่วงหน้าแล้ว จะแก้หรือไม่แก้เรื่องใด อยากให้มีหน้าตาของกฎหมายแบบไหน ตรงนี้ไม่ใช่ปัจจัยแห่งความสำเร็จแน่นอน แต่ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น คือกระบวนการพูดคุยหารือร่วมกัน ด้วยหลักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม เปิดพื้นที่ให้คนทุกกลุ่มในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมือง ช่วงความขัดแย้งร่วมสมัยในประเทศไทยที่ผ่านมา” รศ.ยุทธพร กล่าว

ส่วนจะรวมการนิรโทษกรรมคดีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยหรือไม่นั้น รศ. ยุทธพร กล่าวว่า ประเด็นเรื่อง ม.112 เป็นประเด็นที่มีความสำคัญประการหนึ่ง เพราะในระยะเวลาที่ผ่านมามีบุคคลที่ต้องคดีเหล่านี้เป็นจำนวนมาก มีกระบวนการในการใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง จึงต้องพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ มีการเปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกฝ่าย ทั้งประชาชน และฝ่ายการเมือง หรือแม้กระทั่งการหยิบยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาประกอบในการพิจารณาด้วย เพราะฉะนั้น การพูด และมองอย่างรอบด้านในประเด็นนี้ จะต้องหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน เพื่อให้สามารถคลี่คลายปมแห่งความขัดแย้งสำคัญตรงนี้ได้พอสมควร

“ผมยังเชื่อมั่นว่าการเปิดพื้นที่ทางการเมืองในครั้งนี้ เป็นการพูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรมในสมัย และบรรยากาศที่มีความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการเปิดให้คนทุกกลุ่ม ร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้อย่างกว้างขวาง อย่างมีวุฒิภาวะ” รศ.ยุทธพร กล่าว

วันเดียวกัน เว็บไซด์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายพรวิศิษฐ์ แจ่มใส ผู้สมัครสส.นครสวรรค์ เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.ณฐณณฑ์ เบญจภิญโญ ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 โดยให้ดำเนินคดีอาญาบุคคลทั้งสอง ตามมาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน รวมทั้งให้กันผู้แจ้งเหตุ สามีของผู้แจ้งเหตุ พยานที่ไต่สวนประกอบคนที่2 ถึงคนที่4คนที่ 6และคนที่8 ไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี

จากกรณีไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว ฟังได้ว่า น.ส.ณฐณณฑ์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของนายพรวิศิษฐ์ ได้มอบเงินจำนวน 10,000 บาทให้แก่ผู้แจ้งเหตุในวันที่ 4พ.ค66 เวลา11.30น.ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี ตามที่ผู้แจ้งเหตุเดินทางไปทวงเงินค่าจ้างในการไปเข้าร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ของนายพรวิศิษฐ์เมื่อวันที่ 29เม.ย.66 โดย น.ส.ณฐณณฑ์ บอกให้ผู้แจ้งเหตุนำเงินนี้ไปมอบให้กับให้บุคคลในครอบครัวของผู้แจ้งเหตุได้แก่ ผู้แจ้งเหตุ ตาและยายของสามี ผู้แจ้งเหตุ และสามีของผู้แจ้งเหตุ คนละ 500 บาท พร้อมทั้งขอให้ลงคะแนนให้แก่นายพรวิศิษฐ์ และที่เหลืออีก 4,000 บาทเป็นค่าจ้างเพื่อไม่ให้ ผู้แจ้งเหตุไปร้องเรียนต่อสำนักงานกกต.ตามที่ผู้แจ้งเหตุพูดตอนมาทวงเงิน

ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบดำใบแดงกับผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ จ.นครสวรรค์ กรณีพบการซื้อเสียงเลือกตั้ง ว่า ตนไม่สามารถจะเอ่ยได้ แต่ไม่ใช่นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ เป็นความผิดส่วนบุคคล อดีตผู้สมัครก็ต้องไปแก้ต่างด้วยตัวเอง พรรคพลังประชารัฐไม่มีนโยบายที่จะไปให้สนับสนุนผู้สมัครในการกระทำละเมิดกฎหมาย กกต.อยู่แล้วเรื่องนี้ตนจะนำไปหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรค ว่าจะมีมาตรการ และการแก้ไขปัญหาอย่างไร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พรรคประชาชนชี้ควร ตั้งคกก.กลั่นกรองคดี 112 ย้ำจุดยืนกฎหมายนิรโทษกรรม พรรคประชาชนชี้ควร ตั้งคกก.กลั่นกรองคดี 112 ย้ำจุดยืนกฎหมายนิรโทษกรรม
  • ‘เพื่อไทย’ เตรียมเสนอร่าง กม.นิรโทษกรรม ไม่รวม ม.110-ม.112 ‘เพื่อไทย’ เตรียมเสนอร่าง กม.นิรโทษกรรม ไม่รวม ม.110-ม.112
  • ’ธนกร‘ฝากวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ถกหาทางออกกฎหมายนิรโทษกรรม ’ธนกร‘ฝากวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ถกหาทางออกกฎหมายนิรโทษกรรม
  •  

Breaking News

รวบโจรเมียนมา สะเดาะกุญแจขโมยทองเพื่อน เผยได้วิชาจากบ้านเกิด

'น้าหงา'แซะนักการเมือง 'ยึดสภาหากิน' หวังให้ลูกหลานสืบทอด แต่เพื่อนกลับ'ลักตีกิน'กันเอง

'กาญจนบุรี'เจ้าภาพ จัดฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่51

ทนแรงกดดันไม่ไหว! 'รมว.แรงงานคิวบา'ประกาศลาออก เซ่นคำพูด'ประเทศนี้ไม่มีคนขอทาน'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved