กรมคุมประพฤติเปิดเงื่อนไขพักโทษ‘ทักษิณ’ อาจไม่ต้องติดกำไลอีเอ็ม-ออกทีวีได้
13 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงขั้นตอนและวิธีการรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรมราชทัณฑ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพักโทษ ภายใต้การกำกับดูแลของกรมคุมประพฤติ ว่า ภายหลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการพักโทษเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปและเจ็บป่วย ซึ่งหากนับตามวันที่และเวลาที่อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าสู่กระบวนการรับโทษมาแล้วก่อนหน้านี้ คิดเป็น 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน เท่ากับ180 วัน จะทำให้ในวันที่ 18 ก.พ. นี้ นายทักษิณ ก็จะเข้าสู่กระบวนการพักโทษทันที
อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูใบแจ้งการพักโทษก่อนว่ามีรายละเอียดอย่างไร และผู้ได้รับการพักโทษไม่ว่าจะเป็นการพักโทษแบบกรณีปกติ หรือแบบกรณีมีเหตุพิเศษ ทุกรายมีเวลา 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการพักโทษ ในการเข้าพบและรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ
“ในกรณีของนายทักษิณ หรือบุคคลใดก็ตามซึ่งเป็นผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปและมีอาการเจ็บป่วยนั้น ตามมาตรฐานการปฏิบัติ ทางกรมคุมประพฤติ จะเป็นฝ่ายเดินทางเข้าพบด้วยตัวเองภายใน 3 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-วันที่ 21 ก.พ. ณ สถานที่พักโทษของแต่ละราย หรือสถานที่ที่ได้นัดหมาย เพื่อชี้แจงถึงกระบวนการพักโทษ เงื่อนไขการคุมความประพฤติ การปฐมนิเทศ และการดำเนินการเบื้องต้น แต่ก่อนจะเข้าพบ เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติต้องได้รับการประสานยินยอมจากเจ้าตัวและญาติก่อนว่าสะดวกช่วงเวลาใด เราต้องเผื่อเวลาการให้การรักษาของแพทย์ด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกที่สุด ในกรณีการพักโทษแบบปกติ ผู้ได้รับการพักโทษจะต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานคุมประพฤติด้วยตัวเอง ภายใน 3 วันเช่นเดียวกัน” พ.ต.ท.มนตรี กล่าว
พ.ต.ท.มนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าพบผู้ได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษโดยเฉพาะบุคคลนั้น เป็นผู้เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง หรือเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ ทางอธิบดีกรมคุมประพฤติจะมีการมอบหมายให้มีผู้บริหารระดับสูงเข้าพบพร้อมๆ กับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติด้วย และกระบวนการแจ้งเงื่อนไขการพักโทษต่างๆ จะเป็นไปตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการคุมความประพฤติ พ.ศ. 2560 อาทิ การรับคดี เมื่อสำนักงานคุมประพฤติได้รับคำสั่งให้คุมความประพฤติผู้ถูกคุมความประพฤติที่เป็นผู้ใหญ่จากศาล ให้เจ้าหน้าที่ธุรการดำเนินการ เบื้องต้น ดังนี้
1.จัดทำทะเบียนคดี และตรวจสอบข้อมูลบุคคล (ขั้นตอนนี้ดำเนินการที่สำนักงานคุมความประพฤติได้)
2.ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิด
3.จัดทำสำนวนคดีโดยการรวบรวมเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน
4.นำเข้าข้อมูลในระบบสารสนเทศ และสารบบคดีของสำนักงานคุมประพฤติ
5.ดำเนินการอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น
พ.ต.ท.มนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการติดหรือไม่ติดกำไล EM นั้น จะเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการพักการลงโทษที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งในกรณีของนายทักษิณ ถือว่าเป็นผู้ได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากสูงอายุ มีอายุ 74 ปี และเจ็บป่วย ดังนั้น ตามหลักเกณฑ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ มักจะไม่ให้ได้รับการติดกำไล EM เพราะต้องคำนึงถึงปัญหาเรื่องสุขภาพและอัตราความเสี่ยงน้อยที่จะไปก่อเหตุกระทำผิดซ้ำได้
ส่วนเรื่องเงื่อนไขพิเศษสำหรับกรณีที่นายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังจากคดีทุจริตคอรัปชั่น เจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะมีการสืบเสาะข้อมูลมาอย่างครบถ้วนแล้ว และประเมินว่าหากได้รับการพักโทษ มีผู้อุปการะคือใคร บุคคลที่อุปการะหรือในภาษาปากอาจเรียกว่าผู้ค้ำประกัน มีอาชีพหรือมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอย่างไรบ้าง และนายทักษิณเมื่อได้รับการพักโทษจะมีอาชีพอะไร ไปพักโทษยังสถานที่ใด มีเงินสำหรับดำรงชีพหรือไม่ และให้ความช่วยเหลือตัวเองได้หรือไม่ ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงที่ได้จากการสืบเสาะข้อมูลพบว่าไม่มีความสะดวกเพียงพอในด้านใดก็ตาม เจ้าหน้าที่คุมประพฤติก็ประเมินได้ว่าอาจไปก่อเหตุซ้ำได้ หรือทุจริตคอรัปชั่นได้ นี่เป็นหลักพื้นฐานสำหรับการสืบเสาะข้อเท็จจริง
พ.ต.ท.มนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นการรายงานตัวของนายทักษิณหลังได้รับการพักโทษ ปกติแล้วไม่ว่าผู้ได้รับการพักโทษจากกรณีปกติหรือแบบพิเศษฯ ก็จะต้องรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุกๆ เดือน ไปจนถึง 4 เดือน แต่หลังจาก 4 เดือน ถ้ามีการรายงานตัวตามปกติก็สามารถผ่อนปรนเป็นรายงานตัวทุก ๆ 2 เดือนได้ และถ้าผู้ได้รับการพักโทษยังมีอาการเจ็บป่วยไม่หายดี เจ้าหน้าที่คุมประพฤติก็จะเป็นฝ่ายเดินทางไปเข้าพบเช่นเดิม นอกจากนี้ แม้ระหว่างการพักโทษของผู้ที่ติดกำไล EM อยู่จะมีอาการปกติแต่ถ้ามีอาการเจ็บป่วยในภายหลัง เจ้าหน้าที่คุมประพฤติก็ต้องเดินทางไปพบเองเช่นกัน เราจะไม่ให้กระทบต่อเรื่องสุขภาพของผู้ได้รับการพักโทษเด็ดขาด และจะอนุมัติชงเรื่องให้ได้รับการถอดกำไล EM จากคณะกรรมการพักการลงโทษ
เมื่อถามถึงเรื่องเงื่อนไขหลังได้พักโทษไปแล้วนั้น พ.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า หากสถานที่พักโทษอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หากจะเดินทางข้ามเขตพื้นที่ไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องออกนอกพื้นที่เขตก็ให้แจ้งพนักงานคุมประพฤติ ซึ่งการออกนอกพื้นที่เขตชั่วครั้งชั่วคราวสามารถทำได้ ส่วนการเดินทางออกต่างประเทศจะไม่สามารถทำได้ และการออกรายงานทีวีต่างๆสามารถกระทำได้ และไม่ต้องแจ้งแก่เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ เพียงเจ้าตัวต้องดูว่าเนื้อหาที่จะไปพูดนั้นจะกระทบอะไรหรือไม่ หรือสร้างความเสียหายหรือไม่
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในประเด็นบ้านที่พักของนายทักษิณ จะเป็นบ้านจันทร์ส่องหล้าใช่หรือไม่ ว่า ใช่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมบ้านและทำความสะอาดบ้านไว้แล้ว เพราะบ้านนั้นไม่มีใครอยู่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี