"กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ"เตรียมดึง"ธรรมนัส"ลงพื้นที่"ด่านเจดีย์สามองค์" 4-5 มี.ค.นี้ ตามติดปัญหายางพาราเถื่อน หลังพบข้อมูลนำผ่านแดนจากเมียนมาไปมาเลเซีย "โรม"แฉผิดกฎหมาย-มีการสวมสิทธิ์เป็นยางไทย ส่อกลิ่นทุจริตคอร์รัปชั่น ลามถึงขั้นมีข่มขู่ขรก.ในพื้นที่ โวยศุลกากรให้ความร่วมมือน้อยสุด จี้"นายกฯ"ในฐานะกำกับดูแลเข้าแจงข้อมูล
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีการตรวจสอบกระบวนการลักลอบขนยางพาราเถื่อนผ่านแนวชายแดนไทย ว่า กมธ.ฯ ได้มีการประชุมครั้งสำคัญเกี่ยวกับเรื่องยางพาราผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้า ผ่านมาทางด่านเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมียางที่ นำผ่านแดนจากฝั่งเมียนมาไปด่านสะเดาและส่งต่อไปยังมาเลเซีย และมีการนำยางที่ผิดกฎหมาย เข้ามาสวมสิทธิ์เป็นยางไทยเพื่อมาใช้ในประเทศ ซึ่งอาจเป็นอย่างคุณภาพต่ำและเกิดปัญหาเรื่องโรค ซึ่งเป็นปัญหาส่งผลกระทบสำคัญคือ ทำให้ราคายางพาราไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง เพราะนํายางจากเพื่อนบ้านเข้ามา โดยประเด็นที่กรรมาธิการให้น้ำหนักมากที่สุดคือ ให้ความสำคัญกับการส่งยางผ่านแดนจากเมียนมาไปมาเลเซีย เพราะพบตัวเลขจากข้อมูลของศุลกากรมียางผ่านแดนสูงมากกว่า 51,000 ตัน แต่จากข้อมูลในพื้นที่ พบตัวเลขยางสูงกว่า 140,000 ตัน ซึ่งเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งการสร้างผลกระทบในพื้นที่ หากมีการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ด่านเจดีย์สามองค์ จะพบปัญหาส่งกลิ่นเหม็น เพราะยังไม่ใช่คุณภาพ จึงไม่อยากมีใครไปท่องเที่ยวและส่งผลกระทบเชิงระบบนิเวศ อีกทั้งเส้นทางถนนการเดินทาง ไปอำเภอสังขละบุรีค่อนข้างยากอยู่แล้ว นอกจากนี้ ด่านเจดีย์สามองค์เป็นด่านเพื่อการท่องเที่ยว แต่ในฝั่งพม่าปิดด่านอยู่
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ พบว่ากรมศุลกากร ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความร่วมมือน้อยที่สุด เช่นส่งคนที่ไม่สามารถตัดสินใจได้เชิงนโยบายมาร่วมประชุมทำให้กรรมาธิการต้องเชิญออกนอกห้อง ก็เคยมีมาแล้ว และไม่พยายามนำไปสู่การแก้ปัญหา ทั้งนี้ กรรมาธิการได้ข้อสรุปสำคัญ คือ การนำยางผ่านแดนจากสังขละบุรีไปอำเภอสะเดา ตามกฎหมายไม่สามารถทำได้ หมายความว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาการนำยางดังกล่าวผ่านด่านประเทศไทย โดยเสียค่าธรรมเนียมศุลกากร 500 บาท โดยมีรถพ่วงหลายสิบคันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เกิดขึ้นมาประมาณร่วม 1 ปี จึงเป็นความเสียหายที่ร้ายแรง ทางกรรมาธิการพยายามหาข้อมูลจากหลายฝ่าย แล้วต้องให้เครดิต ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะสกัดกั้นและปราบปรามยางพาราที่ผิดกฎหมาย ที่เข้าผ่านแดนเข้ามา และได้หารือกับอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และได้มีการพูดคุยด้วยวาจากับรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งถือเป็นข่าวดีว่าต่อไปนี้สามารถตั้งความหวัง ว่าอย่างที่จะผ่านแดนจากฝั่งเมียนมาจะไม่เกิดขึ้นอีกและจะมีการสกัดกั้นอย่างจริงจังโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยวันพฤหัสบดีหน้ากรรมการจะหารือเรื่องนี้อีกครั้ง และติดตามความคืบหน้า ก่อนที่วันที่ 4 - 5 มี.ค.นี้ จะลงพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และทำหนังสือเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมลงพื้นที่ด้วย เพื่อติดตามว่ามีการนำข้อแนะนำของกรรมาธิการไปปฏิบัติอย่างไรหรือไม่ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นสำคัญในการแก้ปัญหายางพาราที่ถูกละเลย และเกิดปัญหาราคายางตกต่ำมาโดยตลอด และเคยพูดหลายครั้งว่าปัญหาสำคัญคือเรื่องยางพาราเถื่อน แต่ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตร ทำให้มีหนทางในการแก้ปัญหายางพาราเถื่อน และนำไปสู่การยกระดับราคายางพาราในประเทศต่อไป เพราะบางครั้งก็มีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามากับยางพาราเถื่อนด้วย ซึ่งน่าเป็นห่วงกับการกระทำที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดน
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า มีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรไปประจำอยู่ถูกข่มขู่มีรถติดตาม ซึ่งอาจเป็นเขตอิทธิพล ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี กรรมาธิการจึงขอร้องให้กองทัพไปดูแลเรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นพื้นที่ชายแดน ซึ่งได้รับความร่วมมือที่ดี หวังว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ และขณะนี้ศุลกากรเป็นด่านหน้าที่จะต้องรับผิดชอบ ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมาให้ผ่านได้อย่างไร อีกทั้งศุลกากรไม่ได้ความร่วมมือกับกรรมาธิการที่เชิญมาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่ผู้รับผิดชอบโดยตรงไม่มา กรรมาธิการจึงจำเป็นต้องฟังข้อมูลในส่วนที่เหลือจากหน่วยงานอื่นๆ ทุกคนให้ข้อมูลที่ตรงกันหมดว่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากด่านศุลกากรที่ประจำอยู่สังขละบุรี ส่วนใครจะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปกรรมาธิการคงต้องแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน แต่ก็เชื่อว่าเรื่องนี้มีทั้งพูดที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์คงหาได้ไม่ยาก
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การประชุมกรรมาธิการฯ ครั้งถัดไปจะทำหนังสือเชิญนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มาให้ข้อมูลด้วย เพราะสิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือการแก้ไขปัญหาการทุจริตในกรมศุลกากร ทั้งนี้ คิดว่าจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ จะทำหนังสือถึง ป.ป.ช.แนบผลการประชุมต่างๆ ที่เคยทำมา เพื่อรับลูกไปดำเนินการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นต่อไป โดยคาดหวังให้ได้ข้อสรุปเรื่องปัญหาทุจริตคอรัปชั่นโดยเร็ว เพราะมีการกระทำต่อให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น ส่วนจะมีใครรู้เห็นขนาดไหนหรือมีการตีความกฎหมายเข้าใจผิดอย่างไรเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.จะไปดำเนินการ
นายรังสิมันต์ ระบุว่า นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กองทัพบก กระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขา สมช. อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และเลขา ป.ป.ช.เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งส่วนของยางที่ผิดกฎหมายต้องสกัดกั้น และสัปดาห์หน้าจะเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอีกครั้ง
ด้าน นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.ฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าการที่ กมธ.ฯ จับเรื่องนี้ไม่ได้มีอคติ แต่ตั้งใจต้องการแก้ปัญหา และด่านที่อำเภอสังขละบุรีเพื่อการท่องเที่ยวไม่ใช่ด่านการค้า ซึ่งกรรมาธิการเป็นห่วง และอยากให้ดำเนินการนโยบายของรัฐบูรณาการหน่วยงานกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เพื่อให้เข้าใจ ว่าเป็นเรื่องกฎหมายและประชาชนได้รับผลกระทบ
ขณะที่ นายชุติพงษ์ พิภพภิญโญ ส.ส.ระยอง พรรคก้าวไกล ในฐานะเลขานุการกรรมาธิการ กล่าวว่า ฝากบอกไปยังนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ว่า ประเด็นนี้เป็นหนึ่งในปัญหาที่อยู่ในความรับผิดชอบของท่าน มีอะไรสีเทาอยู่เยอะมาก แล้วตั้งข้อสังเกตว่ามีความแปลกในการนำกฎกระทรวงอื่นและอาจมีอะไรบางอย่างอยู่ จึงอยากให้นายกฯ ในฐานะรมว.คลัง มาชี้แจงต่อ กมธ.ฯ ด้วยตนเอง หรือให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ให้ความสำคัญเรื่องการข่มขู่ในพื้นที่ เพื่อรู้ว่าความผิดที่เกิดขึ้นเป็นความรับผิดชอบของใครกันแน่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี