“ปานปรีย์” ยัน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด หลัง ชาวเมียนแห่มาขอวีซ่าเข้าไทยกว่า 1,000 คน หนีกฎหมายบังคับเกณฑ์ทหาร
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของนครเบรเมิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีชาวเมียนมาจำนวนกว่า 1,000 คน แห่ไปยัง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง เพื่อรอยื่นขอวีซ่ามายังประเทศไทย ภายหลังจากที่รัฐบาลเมียนมา ประกาศว่าจะใช้กฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารแก่พลเรือนชายช่วงอายุ 18-35 ปี และพลเรือนหญิงช่วงอายุ 18-27 ปี เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี ว่า ตามปกติแล้วไทยจะยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือ ฟรีวีซ่าให้กับทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ แต่ในกรณีของเมียนมา หากประสงค์จะเดินทางมาไทยสามารถเข้าได้เลย โดยไม่ต้องขอวีซ่า เว้นแต่กรณีที่พำนักอยู่ในไทยเกิน 14 วัน ที่จะต้องดำเนินการเรื่องวีซ่า
ดังนั้นเมื่อมีคำขอวีซ่าเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง จึงต้องกำหนดโควต้าในแต่ละวันไว้ประมาณ 300-400 คน เพราะเจ้าหน้าที่มีจำกัด และ ต้องตรวจสอบประวัติให้ละเอียด ป้องกันการเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย ปัจจุบันจึงได้เปิดให้จองคิวแบบออนไลน์แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวเมียนมาที่ประสงค์จะเข้ามาในไทยเกิน 14 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี