นายกฯลุยตรวจบ้านพัก ทร.ย้ำปรับปรุงทุกเหล่าให้เท่าเทียม ยกระดับชีวิตทหารผู้น้อยให้ดีขึ้น ด้าน ผบ.ทร.ปลื้ม นายกฯใส่ใจ กำลังพลแฮปปี้ กมธ.งบฯ พิจารณาเสร็จเร็วขึ้น 3 สัปดาห์ พร้อมตอบศึกซักฟอกฝ่ายค้าน ชี้เป็นหน้าที่ฝ่ายบริหาร ด้าน “เทพไท” ชื่นชมสไตล์การทำงานถึงลูกถึงคนของ‘เศรษฐา’เว้นแต่เรื่อง‘ทักษิณ’‘หมอวรงค์’ข้องใจนิยามคำว่า‘ประชาชน’ของเศรษฐา หรือแค่คนที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
เมื่อวันที่ 26กุมภาพันธ์2567 ที่ซอยอรุณอมรินทร์ 35 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลงพื้นที่ตรวจที่พักข้าราชการทร.(กบพ.) ภายในซอยอรุณอมรินทร์ 35 โดยมี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. , พล.ร.อ.โกวิทย์ อินทร์พรหม ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการบ้านพักข้าราชการ ทร. (กบพ.) , พล.ร.ต.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ หัวหน้าฝ่ายแผน กบพ.ให้การต้อนรับ
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์หลังตรวจเยี่ยมบ้านพักทหารเรือ ว่า การดูแลเรื่องบ้านพักเป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ หลังจากไปดูที่พักแฟลตตำรวจและที่ทหารบกส่วนกลางแล้ว ต้องไปดูให้ครบทุกเหล่าทัพ มาดูความเป็นอยู่ของนายทหารและตำรวจชั้นประทวน เพราะอย่างที่ทุกคนเห็น ต้องดูแลความปลอดภัย ดูความแออัด เนื่องจากและสภาพบ้านที่เก่าหลายสิบปี จะพยายามปรับปรุงแก้ไข โดยพื้นที่ทหารตรงนี้เป็นบ้านพักชั้นเดียวจะสร้างเป็นให้เป็นตึกเท่าที่สามารถทำได้เพราะพื้นที่เล็ก โดย ผบ.ทร.ระบุว่า พื้นที่ตรงนี้ มีความต้องการสูง เพราะอยู่ใจกลางเมือง
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะทำบ้านพักที่อื่นคู่ขนาน เช่น ป้อมพระจุลจอมเกล้า จ.สมุทรปราการ โดยจะทยอยทำ เพราะเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของทหารชั้นประทวนเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนทุกระดับทุกหมู่เหล่า ทหารเป็นรั้วของชาติ จึงอยากให้ประชาชนทราบว่า ถ้าสมัครใจเกณฑ์ทหารแล้ว กองทัพทุกกองทัพจะดูแลเป็นอย่างดี โดยจะบรรจุเข้าไปในงบประมาณแต่ละปี จะ 3ปี 5ปี 7ปี หรือ10ปีค่อยมาว่ากัน ขึ้นอยู่กับกำลังพลและกำลังเงิน โดยผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพก็เห็นด้วยว่า ควรต้องทำ ทั้งนี้ ได้ฝากปลัดกระทรวงกลาโหม เรื่องการแยกขยะเพราะเราอยู่ด้วยกันในโลกสมัยใหม่ ทางปลัดกระทรวงกลาโหมบอกว่า ดีและจะสั่งการเพื่อให้ทุกเหล่าทัพดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่และเหล่าทัพ มีความต้องการเรื่องบ้านพัก มากน้อยแค่ไหน นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกเหล่าทัพบ้านพักเก่าทั้งนั้นเก่าจริงๆ ตนไปที่ จ.กาญจนบุรี พบว่าเก่า สภาพ ใกล้เคียงกับที่นี่หรืออาจจะแย่กว่าเพราะสร้างมาตั้งแต่ปี 2505 สภาพแวดล้อมก็แย่ ส่วนจะทำได้เร็วเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับผังเมืองและการขออนุญาต สำหรับงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการถ้าทันปีงบประมาณ2567 ก็จะจัดการให้ แต่ถ้าไม่ทันจะต้องพิจารณาจากงบกลางเพื่อใช้ดำเนินการ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เราอยากมีแม่แบบของการที่อยู่อาศัย อาจจะเป็น1 ,2หรือ3ห้องนอนของทุกเหล่าทัพ รวมทั้งตำรวจด้วย จะใช้วิธีก็อปปี้แบบเพื่อไปดำเนินการจะได้เร็ว เพราะดูรูปแบบการอยู่อาศัยของแต่ละที่ ปรับเปลี่ยนไปเยอะ เช่นแฟลตตำรวจไม่มีที่ชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนแฟลตที่มีผู้อยู่อาศัย 100-120 ครอบครัว เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีห้องออกกำลังกายหรือห้องสันทนาการ เพราะสิ่งเหล่านี้ปรับชีวิตความเป็นอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้เงินมาก
ด้าน พล.ร.อ.อะดุง ให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณนายกฯ ที่ลงมาตรวจเยี่ยมบ้านพักข้าราชการทหารเรือ โดยจุดแรก จะพัฒนาบ้านพักของทหารเรือ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนรูปแบบจะพยายามสร้างให้มีจำนวนชั้นสูงที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ และข้าราชการชั้นประทวนทุกคนดีใจที่นายกฯเห็นความสำคัญกับทหารชั้นผู้น้อย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านพักข้าราชการกองทัพเรือแห่งนี้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2511อายุ 56ปี มีจำนวน 15 หลัง มีผู้พักอาศัยประมาณ 50คน โดยเป็นบ้านพักของหน่วยกรมพลาธิการทหารเรือ และกองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการงบประมาณ ได้พิจารณางบประมาณปี 2567 เสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 3สัปดาห์ว่า ตนคิดว่าดี ที่ตนได้ไปพูดในเวทีดังกล่าวว่าเรายังไม่มีการใช้งบประมาณเลย แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากทุกทุกฝ่าย ประมาณวันที่ 2 เมษายน ก็คาดว่าน่าจะจบได้ คาดว่าจะใช้งบประมาณได้เร็วขึ้น ก็หวังว่าจะเป็นจริง เมื่อถามว่า ได้เผื่อเวลาไว้หรือไม่ หากฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ รวมถึงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ว่ากันไปตามกฎ ถ้ายื่นมาก็มีหน้าที่ตอบ ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ตอบ ฝ่ายนิติบัญญัติก็มีหน้าที่ออกกฎหมายหรือตรวจสอบ ยืนยันไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ทำงานกันต่อไป
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เทพไท – คุยการเมือง เรื่อง “เชียร์ เศรษฐา ตรวจงาน ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า” ระบุว่า ผมบอกตรงๆ เห็นข่าวคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้ถูกใจผมมาก และผมก็พูดหลายครั้งแล้วว่า ชอบสไตล์การทำงานของคุณเศรษฐาแบบถึงลูกถึงคน เกาะติดทุกปัญหา เหมือนการเป็นซีอีโอ ของบริษัทภาคเอกชน ถ้าจะมีที่ไม่ถูกใจอยู่บ้างก็น่าจะมีเพียงเรื่องเดียว คือกรณีของคุณทักษิณเท่านั้น ที่คุณเศรษฐาทำเมินเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ โบ้ยไปให้กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งตอนนี้ได้รับการพักโทษไปแล้ว ก็ไม่ว่ากัน ผมไม่ได้มีอะไรกับคุณเศรษฐาเป็นการส่วนตัวเลย ทำดีก็บอกว่าดี ทำไม่ดีก็วิพากษ์วิจารณ์ เพราะตอนนี้ผมเป็นนักการเมืองอิสระ ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด และไม่ได้อยู่ฝ่ายใด ยึดเอาความถูกต้องเป็นหลัก ก่อนหน้านี้คุณเศรษฐาได้ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิมาครั้งหนึ่งแล้วก็ถูกใจ และเห็นภาพไปตรวจเยี่ยมแฟลตตำรวจ แฟลตทหารที่เกียกกาย ก็ยิ่งถูกใจมากขึ้น
ผมสนับสนุนวิธีการทำงานของผู้บริหารทุกคน ในลักษณะเช่นนี้ การลงพื้นที่ไปตรวจดูงานไม่จำเป็นต้องบอกล่วงหน้า ซึ่งจะได้เนื้องานมากกว่าการแจ้งข่าวล่วงหน้า เพราะการตรวจงานแบบมีนัดหมายจะไม่เจอสภาพความเป็นจริง จะพบแต่การเตรียมต้อนรับ การสร้างภาพ จัดฉากแบบผักชีโรยหน้ามากกว่า
อยากให้คุณเศรษฐาได้มีโอกาสไปเยี่ยมหน่วยงานอื่นๆ ที่เป็นหน่วยงานเกี่ยวข้องกับการบริการประชาชน โดยไม่จำเป็นต้องบอกล่วงหน้า และการลงพื้นที่แต่ละครั้ง ผมเห็นด้วยกับดำริของคุณเศรษฐา ที่ต้องการกระชับขนาดของคณะผู้ติดตาม ให้กระทัดรัดพอเหมาะพอควร กับการลงพื้นที่ ซึ่งจะไม่เป็นภาระของฝ่ายต้อนรับและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก“วรงค์ เดชกิจวิกรม’หัวข้อ’คำว่าประชาชนของเศรษฐา’ระบุว่า คำว่าประชาชนของเศรษฐา ถ้าเราได้ติดตามปัญหา ระหว่างรัฐบาลกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย โดยที่รัฐบาลพยายามโยนปัญหาเศรษฐกิจประเทศ ไปให้ทางธนาคารชาติ และเรียกร้องให้ทางธนาคารชาติลดดอกเบี้ย คำชี้แจงจากผู้ว่าธนาคารชาติได้ชี้แจง ได้อย่างน่ารับฟังนั่นคือ “ถ้าเราลดอัตราดอกเบี้ยลง ก็จะไม่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนจับจ่ายมากขึ้น หรือทำให้บริษัทจีนนำเข้าปิโตรเคมีจากไทยมากขึ้น หรือทำให้รัฐบาลต้องกระจายงบประมาณเร็วขึ้น และนั่นคือ 3ปัจจัยหลักที่รองรับการเติบโตที่ช้า”
ซึ่งทั้งหมดคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ก็ได้รับการชี้แจงสวนกลับของนายเศรษฐา โดยเฉพาะประโยค“ที่ผู้ว่าฯ ธปท.ระบุมา 3ข้อไม่มีเรื่องประชาชนเลย สิ่งที่ต้องบอกนายเศรษฐา คุณพูดมาได้อย่างไรว่า ไม่มีเรื่องประชาชน เพราะสิ่งที่ทางธนาคารชาติชี้แจง มันคือปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน ล้วนเป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลต้องแก้ไข เพราะถ้าแก้ไขได้ มีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ทุกอย่างก็จะมีผลดีต่อประชาชน หรือคุณคิดว่า คำว่าประชาชนของคุณคือคนอาศัยอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี