‘เพื่อไทย’ปัดข่าวซูเอี๋ย‘ก้าวไกล’
ไม่ซักฟอกรัฐบาล
เตือนไม่สมศักดิ์ศรีจะเสียคน
ไม่หวั่นไล่ขยี้พักโทษ‘ทักษิณ’
‘ธนกร’แนะฝ่ายค้านอย่าฝืน
กลางปี-ปลายปีค่อยชำแหละ
“เพื่อไทย” อัด “ฝ่ายค้าน” อย่าปิดหูปิดตาดันทุรังดิสเครดิตปมพักโทษ“ทักษิณ”โว รบ.มีผลงานเพียบ พิสูจน์ฝีมือรบ.ไม่ใช้งบ’67 สักบาทเดียว “ครูมานิตย์” รองปธ.วิปรัฐบาล สอนมารยาท “หมออ๋อง” ลั่นมีที่ไหนรองประธานสภาฯทำตัวเป็นฝ่ายค้านปัดซูเอี๋ย’ก้าวไกล’ไม่ซักฟอกรัฐบาล บอกแค่ไม่มีข้อมูลเพียงพอ‘สมคิด’ติง‘ปดิพัทธ์’บุกทำเนียบ อัดไม่มีใครทำกัน เตือนอย่าใช้อารมณ์รุกไล่ฝ่ายบริหาร ลั่น‘เศรษฐา’ไม่เคยดองกม.ย้ำกฎหมายการเงินต้องรอหลายหน่วยงานรับรอง แซะกลับเบี้ยผู้สูงอายุปีละแสนล้านให้หาเงินมาจากไหน ‘ธนกร’ แนะ ฝ่ายค้านอย่าฝืน หากข้อมูลไม่พอเปิดซักฟอก ควรให้เวลานายกฯ-รัฐบาล ทำงานเต็มที่ก่อน เหตุยังไม่ได้ใช้งบฯจึงไม่พบทุจริต กลาง-ปลายปีไม่สายให้พิสูจน์ฝีมือ
เมื่อวันที่ 29กุมภาพันธ์2567 น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 ระบุว่า มีปัญหาเยอะว่า ปัญหาที่ นายชัยธวัช อ้างว่าเยอะนั้น ไม่น่าใช่ของรัฐบาลเศรษฐา แต่เป็นมุมมองของฝ่ายค้านที่ปิดหูปิดตาต่อข้อเท็จจริงที่ว่า พรรคเพื่อไทยสามารถนำประเทศ ผ่านพ้นสุญญากาศหลังการเลือกตั้งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล บริหารในสภาวะวิกฤตมาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกว่า 6เดือน โดยไม่ได้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2567แม้แต่บาทเดียว ในทางกลับกันรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยกลับบริหารจัดการประเทศผ่านทักษะการเจรจาและขอความร่วมมือทุกภาคส่วน จนมีผลความคืบหน้าทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 3,035,296คน ที่มาเยือนประเทศไทยในห้วงเดือนแรกปี67 ซึ่งโตกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเมื่อเทียบกับปี2566 โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ยังไม่รวมถึงนักท่องเที่ยวจากอีกหลายชาติทั่วโลก ความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลจากความร่วมมือ ยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) และการปรับภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยรัฐบาลในช่วง 6เดือนที่ผ่านมา
โวรบ.ผลงานเพียบ-สินค้าเกษตรราคาพุ่ง
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่รัฐบาลบริหารประเทศมา ราคาสินค้าการเกษตรในภาพรวมทุกตัวปรับขึ้น ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และยางพารา ทุกรายการมีราคาขยับขึ้นเฉลี่ย 8-45% และยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยการผลักดันส่งออกที่รัฐบาลได้เน้นการจับมือภาคเอกชนในการทำตลาด ทั้งเร่งเจรจากับประเทศคู่ค้า มุ่งยกระดับเพิ่มผลิตผลสินค้าเกษตร ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”และวางแผนบริหารจัดการเชิงรุกในทุกสินค้า
พักโทษปัดเอื้อ’แม้ว’-ทำตามกม.ทั้งหมด
รองเลขาธิการพรรค พท.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี นายชัยธวัช กล่าวเตือนว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบหากมีการเอื้อประโยชน์ต่อการพักโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยอ้างกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยงข้องนั้น เหมือน นายชัยธวัช ไม่เคารพกฎหมาย ทั้งที่รัฐบาลยืนยันมาตลอดว่า กรณีการพักโทษ นายทักษิณ เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยชอบทุกประการ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์มีการแถลง ตลอดจนสื่อมวลชนมีการรายงานข่าวมาอย่างต่อเนื่องและชัดเจนว่า คุณสมบัติและหลักเกณฑ์ทั่วไปของนายทักษิณ ครบตามที่กำหนดไว้ในประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70ปีขึ้นไป ลงวันที่ 28ต.ค.2563
“ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐบาลสมัยรัฐบาลที่แล้ว จึงไม่อาจเป็นการเอื้อประโยชน์อย่างที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลดันทุรังกล่าวหา ในลักษณะดิสเครดิตโดยปราศจากน้ำหนัก พรรคก้าวไกล เคยร่วมเป็นฝ่ายค้านกับพรรคเพื่อไทยในสมัยที่แล้ว ไม่น่าลืมว่าฝ่ายค้านสร้างสรรค์เป็นอย่างไร ไม่ใช่ดันทุรังดิสเครดิตโดยปราศจากพื้นฐานข้อเท็จจริงที่มีน้ำหนักเพียงพอ รัฐบาลพร้อมให้ตรวจสอบการทำงานเสมอ เพราะประเทศจะเจริญได้ก็ด้วยการลงมือทำงาน ให้คนทำงานมีโอกาสทำงาน หากมือไม่พายอย่าเท้าราน้ำ เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร”น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว
“ครูมานิตย์”งงปธ.สภาฯทำตัวเป็นฝ่ายค้าน
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม รองประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ กรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง จะเดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อเร่งรัดนายกฯให้ลงนามรับรองกฎหมายการเงินเข้าสู่สภาว่า มันไม่ใช่หน้าที่ นายปดิพัทธ์ เล่นเกินบทบาท ทำตัวเป็นประธานที่อยู่กับฝ่ายค้าน หากตัวเองอยู่ข้างล่างไม่มีปัญหา แต่นี่ทำหน้าที่อยู่บนบัลลังก์อย่าให้คนมองว่า เป็นประธานที่เลือกข้าง ต้องแสดงความเป็นกลางตนไม่เคยเห็นประวัติศาสตร์ที่รองประธานสภาฯลงมาแถลงข่าวต่อว่ารัฐบาลอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเรื่องกฎหมายที่ค้างสภาฯ พรรค ก.ก.มีเวลามากเลยทำกฎหมายเข้าสภาฯได้มากกว่าปกติ แต่ในส่วนของรัฐบาลการทำกฎหมายต้องให้กฤษฎีกาดูก่อน มันต้องรอบคอบ ยิ่งกฎหมายเกี่ยวกับการเงินยิ่งต้องรอบคอบ
ปมพักโทษเชื่อ’รมว.ยุติธรรม’ตอบได้
นายครูมานิตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ นายปดิพัทธ์ ออกมาท้วงติงการไม่ไปตอบกระทู้ของรัฐบาลนั้น ตนมองว่ามันเป็นหน้าที่ของประธานวิปฝ่ายค้านและการไปตอบกระทู้ของรัฐบาลนั้น ก็ยอมรับว่ารัฐมนตรีบางคนก็ต้องทบทวน แต่ถ้าเป็นกระทู้สด บางทีมันก็อาจเป็นการกลั่นแกล้งกันได้ เช่น รู้ว่ารัฐมนตรีไม่อยู่ๆก็ยื่นกระทู้เข้ามา ตอนรัฐมนตรีอยู่ก็ไม่ถาม เมื่อถามถึงกรณีสว.จะยื่นอภิปรายมาตรา153 วันที่ 25มี.ค.รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมอย่างไรว่า ความจริงไม่ต้องเตรียมความพร้อมอะไร เพราะโดยข้อเท็จจริงรัฐบาลยังไม่มีเงินมาบริหารประเทศ ตอนนี้ร่างพรบ.งบประมาณฯยังอยู่ในสภาฯอยู่เลย เมื่อถามว่า การอภิปรายของสว.มีการตั้งข้อสังเกตว่า จะอภิปรายไปถึงประเด็นที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้รับการพักโทษด้วย นายครูมานิตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของราชทัณฑ์ ซึ่งตนเชื่อว่า รมว.ยุติธรรม จะชี้แจงได้
ไม่มีซูเอี๋ยก.ก.-แต่ไม่มีประเด็นให้ซักฟอก
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าที่พรรคก้าวไกลไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะยังไม่มีข้อมูล นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ตนถึงถามว่าจะเอาข้อมูลอะไรมาอภิปราย เพราะการอภิปรายครั้งแรกก็ควรให้สมศักดิ์ศรีหน่อย ส่วนที่ออกมาวิจารณ์เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จะนำไปอภิปรายได้หรือไม่นั้น ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวจะไปทำอะไรรัฐบาลได้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหนังสือมาก็มีการตั้งคณะกรรมการให้รอบคอบ ให้ทุกอย่างเรียบร้อย เรื่องนี้ตอนแรกก็ไม่มีปัญหา แต่พอจะทำคนนั้นก็ไม่เห็นด้วย คนนี้ก็ไม่เห็นด้วย จึงจำเป็นต้องหาความรอบคอบจนกว่าจะตกผลึก วันนี้อาจไม่ได้ให้100% ทั้งหมดแล้วเพราะนายกฯฟังเหตุผล
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการซูเอี๋ยกันหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า “ไม่มี เชื่อผมเถอะว่าไม่มี แต่มันไม่มีประเด็น การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้งเป็นเรื่องใหญ่ของฝ่ายค้าน ถ้ามีประเด็นไม่พอ ข้อมูลไม่พอ มีหลักฐานไม่พอจะเสียคน วันนี้ยังไม่มีงบประมาณมาให้ทำงาน ทาง สว.เองเขาก็ยังไม่มีประเด็นยังยอมรับว่าจืดชืด”
‘สมคิด’ติงบุกทำเนียบไม่มีใครทำกัน
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวกรณีที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่หนึ่ง จะเดินทางมาทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย เหตุร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินถูกดอง เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ไม่ยอมลงนามรับรอง ว่า ในฐานะที่ตนดูแลงานของสภา รวมทั้งเรื่องงานกฎหมายนั้น ไม่เข้าใจว่า ทำไมฝ่ายนิติบัญญัติจะมารุกไล่ฝ่ายบริหารแบบนี้ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครทำแบบนี้ ยืนยันว่านายกฯ ไม่เคยดองกฎหมาย เพราะกฎหมายไม่ใช่หน่อไม้เลยไม่รู้ว่าจะดองทำไม แต่กฎหมายโดยเฉพาะกฎหมายการเงินต้องได้รับการพิจารณาจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าทำได้หรือไม่ หากทำไม่ได้นายกฯก็ไม่ลงนามรับรอง ถือเป็นอำนาจฝ่ายบริหาร อย่างนโยบายเงินผู้สูงอายุของพรรคก.ก.เดือนละ3พันบาทถามว่า จะเอางบประมาณปีละเกือบแสนล้านมาจากไหน นอกจากการขึ้นภาษี20% เขียนมาแต่ก็ปฏิบัติไม่ได้ ดังนั้นหาก นายปดิพัทธ์ จะบุกมาที่ทำเนียบจริง ก็ไม่ขัด เพียงแต่ไม่มีใครเขาทำกัน หากท่านไม่พอใจสามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ ไม่ใช่ใช้อารมณ์บุกมาแบบนี้ ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ ดังนั้นอย่ามารุกล้ำกัน ยืนยันว่าไม่เคยมีรองประธานสภาคนไหนทำแบบนี้
‘ธนกร’แนะฝ่ายค้านอย่าฝืนข้อมูลไม่พอ
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้าน เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติ คาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนนั้น ว่า จากการที่รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน เข้าสู่เดือนที่ 6 นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ได้ประกาศวิสัยทัศน์ยกระดับศักยภาพประเทศ 8 ด้านให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค โดยเน้นเรื่องการท่องเที่ยวมาก่อน แต่หลายโครงการที่เตรียมขับเคลื่อนเศรษฐกิจยังต้องรอขั้นตอนสภาผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯก่อน จึงยังไม่ได้เริ่มเบิกจ่ายงบ ดังนั้นเรื่องการทุจริตจึงยังไม่มี เพราะยังไม่ได้ใช้เงินเลย หากฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจมองว่า ข้อมูลยังไม่เพียงพอ ไม่ครบถ้วนรอบด้าน ดังนั้นจึงควรให้เวลานายกฯและรัฐบาล ได้ทำงานให้เต็มที่ก่อน
กลางปี-ปลายปี2567ยังเปิดซักฟอกได้
เมื่อถามว่าช่วงเวลาใดที่เหมาะสมในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐบาล นายธนกร กล่าวว่า อยู่ที่ว่าฝ่ายค้านมีข้อมูลหลักฐานมากน้อยเพียงพอแค่ไหน หากไม่ทันสมัยประชุมนี้ ตนคิดว่าช่วงกลางปีถึงปลายปี ในสมัยประชุมหน้าก็ยังไม่สาย เห็นควรว่า ต้องให้เวลาและให้โอกาส รัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน สามารถเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 67 ใช้ในโครงการต่างๆที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลสักระยะก่อน เมื่อถึงเวลานั้น หากพบการบริหารที่ผิดพลาด พบการทุจริต ฝ่ายค้านก็สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติได้เลยทันที ก็ไม่สาย และจะยิ่งดีที่ฝ่ายค้านจะได้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ด้วย
“มองว่าหากข้อมูลยังไม่มากพอที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ฝ่ายค้านควรให้เวลาผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ ไปก่อนเพื่อให้นายกฯได้บริหารงบประมาณ แสดงผลงานอย่างเต็มที่ อาจจะไม่ทันสมัยประชุมนี้ก็ตาม เมื่อถึงเวลานั้น หากมีข้อมูลแน่นหนาเพียงพอ ก็สามารถขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติได้เลย เพราะการที่รัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบ แต่ฝ่ายค้านกลับยื่นซักฟอก จะกลายเป็นแค่การทำพิธีกรรมในสภาฯเท่านั้น พูดแตะๆลอยๆ ไม่มีข้อมูลหลักฐานอ้างอิง จะพาลให้ประชาชนผิดหวังต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ อาจถูกเปรียบเปรยว่าเป็นการ ลูบหน้าปะจมูก ไม่เด็ดขาดจริงจัง ซึ่งไม่เป็นผลดี” นายธนกร ระบุ
‘สามารถ’เย้ยเสียงไม่ครบ100ชวด151
ด้าน นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก.ก.ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านว่า หลังจาที่โดนตนบ่นไปว่า จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านที่อัปยศที่สุดถ้าไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชัยธวัชจึงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะยอมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในช่วงต้นเดือเมษายน เหมือนที่ สว.ได้ยื่นอภิปราย เพราะไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้แค่อภิปรายทั่วไปสอบถามรัฐบาล วันนี้เรามาดูสิ่งที่นายชัยธวัชพูด ต้องมองให้ออกอ่านให้ออก
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน บอกว่า ไม่น่าจะอภิปรายรัฐบาลตามมาตรา 151 ได้ เพราะรัฐบาลยังไม่ใช้งบ วันนี้นายปกรณ์วุฒิพูดในสภาฯว่า ตั้งกระทู้สดถามก็ไม่มาตอบ ตั้งกระทู้ทั่วไป ซึ่งรู้ล่วงหน้าก็ไม่มาตอบ วันนี้ตนเห็นพรรคก้าวไกลไม่ต่ำกว่า 4 คน ออกมาบ่นเรื่องนี้ บางคนไปชูป้ายตามหาคนหายเรื่องแบบนี้ไร้สาระสิ้นดี
“ต้องอ่านให้ออกว่า สิ่งที่พรรคก.ก.กำลังทำอยู่แบบว่า รู้ตัวว่ากำลังจะถูกยุบพรรค คนในพรรคจึงไม่ลงชื่อด้วย ญัตติ151อภิปรายไม่ไว้วางใจคือ การลงชื่ออย่างน้อยต้องหนึ่งในห้าของ สส.ที่มีอยู่ซึ่ง สส.มี 500 คน หนึ่งในห้าก็คือ 100คน แปลว่าวันนี้ สส.ที่จะอยู่กับ นายชัยธวัชและนายพิธา มีไม่ถึง100 พูดง่าย ๆ คือ ถ้าถูกยุบพรรค จะมี สส.ตาม นายพิธา ไปไม่ถึง 100คน ผมว่ามีไม่ถึง 50คน ส่วนกระแสว่า ที่มีดีลนั้น ไม่จริง อาจจะไม่มีดีลแล้ว คุณทักษิณ เขาอาจเปลี่ยนดีล นายชัยธวัช ถึงแม้อยากจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใจจะขาด แต่หาคนลงชื่อให้ถึง 100 คนไม่ได้ มันก็เลยเปิดอภิปรายไม่ได้ ที่นายชัยธวัชบอกว่า จะยื่นต้นเดือนเมษายน มันจะมีงบประมาณเข้าสภาและสภาจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 9เม.ย.ฉะนั้นท่านดูไทม์ไลน์ให้ดี ไม่เช่นนั้นท่านจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านคนแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่อัปยศที่สุด”นายสามารถ กล่าว
จับตาเมษายน2567เปลี่ยนตัวนายกฯ
นายสามารถ กล่าวต่อว่า แต่ต้องเห็นใจ เพราะวันนี้ สส.พรรคก้าวไกล เขารู้ทิศทางลมแล้ว เขารู้ว่าถ้ายุบพรรคเขาควรไปอยู่ที่ไหน เขาควรไปกับใคร เขาควรไปอยู่พรรคอะไร มันก็เลยกลายเป็นว่านายชัยธวัชจะใช้ญัตติ 152 แทนคือลงชื่อหนึ่งใน 10 ก็คือเพียง 50 คน เอาพรรคประขาธิปัตย์ไป 25 คน นายชัยธวัชและนายพิธาเหลืออยู่ 25 คน ไม่ขาดไม่เกิน พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคที่จะมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ถ้าถูกยุบพรรคไปแล้วนายชัยธวัช และนายพิธา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง คนที่จะตามไปแถว 2-3 ที่บอกว่าเยอะแน่ มีไม่เกิน50คน ต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลไม่มีศักยภาพ สส.หน้าใหม่ หน้าเก่า ทำงานกันสะเปะสะปะ สส.100คนของพรรคก้าวไกลไปจับมือกับพรรคไหนเปลี่ยนรัฐบาลแน่นอน ถ้าไปยกมือให้ใครเป็นนายก คนนั้นก็ได้เป็น นั่นคือสมการการเมืองที่ผมพูดว่า จะเปลี่ยนนายกฯในเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นจริงอย่างแน่นอน มันไม่มีบิ๊กดีลอะไรแล้ว แต่ก่อนที่เคยบอกว่า มีดีลลับฮ่องกง เมื่อก่อนเขาคงมีดีลจริง แต่วันนี้ผมว่าคุณทักษิณเขาคงรูัทัน และเขามองว่าสมการการเมืองมันเปลี่ยนแน่”ถ้ายังใช้พรรคก้าวไกลอยู่แบบนี้ อาจมีการรัฐประหารแทน ดังนั้นจึงปล่อยเทพรรคก้าวไกลแบบนี้
ฝ่ายค้านสัญจรเชียงใหม่แก้PM2.5-มลพิษ
ที่โรงแรมดวงตะวัน จ.เชียงใหม่ ฝ่ายค้านจัดเสวนา แนวทางและเครื่องมือ สำหรับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศ โดยเป็นหนึ่งในโครงการผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ นักศึกษาและประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศ ซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันการแก้ไขทั้งในด้านนโยบาย ด้านกฎหมาย และการดำเนินการตามกระบวนการนิติบัญญัติต่อไป นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกลในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
พร้อมด้วยวิทยากรจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้แก่ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม นางศนิวาร บัวบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก.ก., นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก.ก.,นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคใหม่, นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย, นายฐิติวุฒิ อรุณศิโรจน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน โดยมีกำหนดการตั้งแต่เวลา 08.00-15.00น.จากนั้นจะเดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานการณ์ไฟป่า ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะจากเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี