‘เศรษฐา’กระแทกอยากให้หน่วยงานอื่นได้ยินด้วย
ถูกทวงเงินดิจิทัล
แจง‘แม้ว’ยังไม่ขอเป็นที่ปรึกษา
ขอรักษาตัว-อยู่กับครอบครัวก่อน
‘ภูมิธรรม’เมินฝ่ายค้านยื่นอภิปราย
ซักฟอกแบบไหนรัฐบาลพร้อมสู้
“ภูมิธรรม”เหน็บฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายแบบเอาที่สบายใจ พร้อมแจงทุกแบบเพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ขณะที่“จุรินทร์”กระตุกก้าวไกลเอาให้ชัดในการซักฟอกรัฐบาล นิด้าโพลยก ‘ทักษิณ’ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง ขณะที่นายกฯเศรษฐา บอกยังไม่เชิญมาป็นที่ปรึกษา วอนหน่วยงานอื่นรับฟังเรื่องเงินดิจิทัล หลังชาวบ้านตามทวงทุกเวที
เมื่อเวลา 14.20น.วันที่ 3มีนาคม2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ในระยะหลังที่พบว่า มีประชาชนถือป้าย ฮักทักษิณ ควบคู่กับการทวงถามเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1หมื่นบาท ซึ่งถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่จะเชิญ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษา ว่า เรื่องป้ายฮักคุณทักษิณ จริงๆแล้วตนได้เรียนไปในหลายเวที ไม่ปฏิเสธเลย แล้วเข้าใจว่าท่านเป็นนายกฯที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุดคนหนึ่งในประเทศไทย ฉะนั้น เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนรักท่าน จริงๆ แล้วมีการรักใคร ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ประเทศชาติมีความรักมันก็ดีอยู่แล้ว ส่วนการจะเชิญท่านมาหรือไม่นั้น ท่านยังไม่ได้แสดงเจตจำนงว่าจะเป็นที่ปรึกษาหรือเปล่าเลย อย่างสัปดาห์ที่แล้วตนได้เข้าไปหาท่าน ท่านก็ยังโฟกัสเรื่องการรักษาตัวเองให้ดี ท่านจากประเทศไทยมา 17-18 ปีใช่หรือไม่ ตนคิดว่าท่านอยากจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือพี่น้องพรรคพวกเพื่อนฝูงที่สนิทกัน และดูแลรักษาตัวเองให้ดี หลังจากนั้นแล้วค่อยว่ากันดีกว่า ตนโอเพ่น อย่างเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้พบกับนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี มีการเสนอแนะหลายๆ เรื่องมา ซึ่งตนได้ชี้แจงในหลายๆ เรื่อง ที่บางทีท่านอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่บางเรื่องที่ท่านเสนอแนะมาตนก็น้อมรับไปปฏิบัติและสั่งการทีมงานไปเรียบร้อยแล้ว
ได้ยินแล้วชาวบ้านทวง1หมื่น
เมื่อถามว่า เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1หมื่นบาท แม้นายกฯเคยตอบคำถามบ่อยในเรื่องของกรอบเวลา แต่ประชาชนยังอยากฟังประชาชนพูดบ่อยๆ ถึงความคืบหน้า นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจ เพราะทุกคนก็มีความประสงค์ และอันนี้เป็นจุดหนึ่งที่สะท้อน ตนได้ยินแล้ว แต่หน่วยงานอื่นก็อยากให้ได้ยินด้วยเหมือนกัน ซึ่งตนเองกำลังคอยข้อมูลอยู่ และได้มีการตั้งคณะกรรมการไปเรียบร้อยแล้ว กำลังคอยข้อมูลจากหน่วยงานที่เราสอบถามไป ส่วนรายละเอียดนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะเป็นผู้แถลงเอง
เมื่อถามว่า คิดว่าผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะได้ยินเสียงประชาชนตะโกนตรงนี้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ หากอยากทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านี้ เดี๋ยวนายจุลพันธ์จะเป็นคนแถลง ซึ่งคนตระหนักดีถึงความต้องการอยู่แล้ว
บอกทุกอย่างจะดีขึ้น
เมื่อถามถึงกรณี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าฯธปท. ออกมาระบุว่าการที่นายกฯเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย จะมีผลทำให้เงินทุนไหลออก นายเศรษฐา กล่าวว่า มันก็มีทั้งบวกและลบหลายๆ อย่าง ท่านเองเป็นอดีตผู้ว่าฯธปท.มา และเป็นอดีตรองนายกฯที่ดูแลเศรษฐกิจมา ท่านพูดอะไรตนก็รับฟัง แต่ก็มีมุมมองหนึ่ง ถ้าเงินทุนไหลออกในปริมาณที่เหมาะสมของเงินทุนไหลออก ก็ทำให้บาทอ่อน แล้วบาทอ่อนส่งออกดีหรือไม่ เราพึ่งการส่งออก 60% ของจีดีพี บาทอ่อนคนเข้ามาท่องเที่ยวเยอะขึ้นหรือไม่ ก็น่าจะเยอะขึ้น ใช่หรือไม่ ก็ดี 1 ดอลลาร์ของเขากลายเป็น 36-37 บาท เขาก็มีเงินเยอะขึ้นในกระเป๋ามาจับจ่ายใช้สอย ซื้อผลิตภัณฑ์จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น ไปเที่ยวเมืองรองมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งดี มันก็มีหลายมุมมอง เพราะจริงๆ แล้วเศรษฐศาสตร์ก็เป็นศาสตร์อันหนึ่งซึ่งมีความหลากหลาย มันไม่ใช่ตัวเลข 1+1 เป็น 2 ซึ่งก็รับฟังท่าน
นายกฯกำชับรมต.ไปตอบกระทู้สด
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงหลังประชุม ครม.อีกว่า ได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องการตอบกระทู้ของรัฐมนตรีที่ได้รับการประสานไว้ ขอให้ไปตอบกระทู้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนในสัปดาห์ที่ผ่านมา หากรัฐมนตรีคนใดติดภารกิจขอให้มอบหมายรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปตอบแทน เพื่อให้เกิดการประสานงานที่ดี ระหว่างฝ่ายบริหารและให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ พร้อมกำชับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงท่องเที่ยว ดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ปฏิบัติตามกฎหมายไทย ไม่อยากให้กรณีที่ จ.ภูเก็ต เป็นปัญหาบานปลาย ส่วนปัญหาไฟป่าได้อนุมัติงบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ พร้อมจัดทีมรับไฟป่า เพื่อแก้ปัญหาไฟป่า PM 2.5 และหมอกควันได้อย่างรวดเร็ว
การจะเชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาหรือไม่ ต้องดูว่านายทักษิณมีความประสงค์อย่างไร เบื้องต้นที่ได้ไปพบก็เห็นว่านายทักษิณจะรักษาตัวเอง อยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง และการที่นางสาวแพทองธาร จะเดินทางไปกัมพูชาก็เป็นเรื่องที่ดี ถ้าดูถึงความสัมพันธ์ในมิติต่างๆ
การปฏิบัติภารกิจต่างประเทศกว่า 10วัน นายกรัฐมนตรีเชื่อว่ารัฐมนตรีทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกำชับหรือฝากงานอะไรเป็นพิเศษ เพราะทุกคนมีงานล้นมือและต่างมีวุฒิภาวะ โดยในที่ประชุม ครม.ได้มีการสั่งงานกันเป็นปกติอยู่แล้ว พร้อมสนับสนุนที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จะลงพื้นที่ถนนพระราม2 ในวันที่ 4มีนาคมนี้ เพื่อไปแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
‘พัชรวาท’ เมินตอบสื่อกระทู้ในสภาฯ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินออกจากตึกบัญชาการภายหลังจบการประชุม ครม.ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงการเข้าไปตอบกระทู้ในสภาฯ ว่า รอบหน้าจะมาตอบหรือไม่ แต่ พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ตอบคำถาม และเดินลงบันไดทันที ผู้สื่อข่าวจึงพยายามถามย้ำว่าจะเคลียร์ตารางงานไปตอบหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีก็กำชับไว้แล้ว แต่ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ไม่ตอบคำถามอีกเช่นกันและเดินขึ้นรถกลับไปทันที
เตรียมไปประชุมต่างประเทศ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 4- 6มีนาคม2567 ออกเดินทางเวลา08.30น.วันที่ 4มีนาคม2567
กวักมือฝ่ายค้านรีบยื่นอภิปราย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปราย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เรื่องนี้ต้องถามฝ่ายค้าน เพราะรัฐบาลไม่ได้รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร เราทำงาน ฝ่ายค้านจะยื่นหรือไม่ยื่น เราก็ทำงาน ฝ่ายค้านจะยุติก็ดี เราจะได้ทำงานสะดวกสบายขึ้น ฝ่ายค้านจะยื่นก็ดี ข้อคลางแคลงใจ ทำให้สาธารณะรับรู้ เราก็พร้อมชี้แจง วันนี้การทำงานอยู่ในมือพวกเรา เรากำลังทำงาน ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจเราจะได้ชี้แจง จะยื่นหรือไม่ยื่นไม่ใช่ประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ตอนนี้รัฐบาลเดินหน้าทำงาน
ส่วนประเด็นที่จะอภิปรายอาจจะไม่ได้เจาะจงไปที่เรื่องงบประมาณ แต่เจาะจงไปที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่ฝ่ายค้านว่าเขาให้ความสำคัญกับอะไร “ให้ความสำคัญกับประชาชนที่กำลังเดือดร้อนหรือไม่ หรือให้ความสำคัญกับประเด็นการเมืองที่จะหยิบขึ้นมาแล้วให้ตัวเองได้แสดงทัศนะความเห็นหรือไม่ อย่างไร ตนไม่ทราบ ต้องถามเขา” นายภูมิธรรม กล่าว
ปชป.เหน็บรมต.หนีตอบกระทู้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไม่ไปตอบกระทู้ถามในสภาฯ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า โดยข้อเท็จจริงหากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีติดภารกิจสำคัญจนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ก็สามารถเลื่อนการตอบกระทู้ถามของสมาชิกได้ แต่ข้อเท็จจริงหลายครั้ง หลายกรณีที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ก็คือรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ถามด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น รัฐมนตรีบางท่านไม่เคยมาตอบกระทู้ถามสดของสมาชิก บางท่านแม้เป็นกระทู้ถามทั่วไปที่รู้ล่วงหน้ามาหลายเดือน ก็ยังไม่มาตอบก็มี
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับความจริงว่ารัฐบาลชุดนี้ทำงานไม่ทันฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเฉพาะทำงานไม่ทันฝ่ายค้าน ที่ให้ความสำคัญกับการใช้เวทีของสภาเป็นเวทีในการเสนอกฎหมาย สะท้อนปัญหาประชาชนและตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งนอกจากตัวอย่างรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้แล้ว ที่สำคัญก็คือกฎหมายหลายฉบับที่ฝ่ายค้านเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาและบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระแล้ว แต่ไม่สามารถพิจารณาตามวาระได้ เพราะรัฐบาลเสนอกฎหมายตามประกบไม่ทัน ทำให้รัฐบาลต้องรับกฎหมายหลายฉบับไปพิจารณาก่อนรับหลักการหรือที่เรียกกันเป็นภาษาการเมืองว่าต้องขอ“อุ้ม”กฎหมายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือของฝ่ายนิติบัญญัติ เอาไปดองไว้ที่ทำเนียบก่อนระยะเวลาหนึ่ง จนกว่ารัฐบาลจะเสนอร่างของรัฐบาลมาประกบได้ทันในภายหลัง ทำให้กฎหมายที่ถูกรัฐบาลอุ้มเกิดความล่าช้า ประชาชนต้องเสียประโยชน์ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเอาเวลาที่ใช้กับการเดินทัวร์มาให้ความสำคัญกับการออกกฎหมายซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารประเทศของรัฐบาลเองกับงานในสภาให้มากขึ้น กว่านี้
ยุพรรคก้าวไกลนำศึกซักฟอก
เมื่อถามถึงการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านในสมัยประชุมนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกลเป็นหลัก ว่าจะดำเนินการในรูปแบบใดหรือไม่ และถ้าจะมีการอภิปราย จะอภิปรายในรูปแบบของการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ซึ่งต้องใช้เสียง 50 เสียงขึ้นไป หรือในรูปของการอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม มาตรา151 ซึ่งต้องใช้เสียงอย่างน้อย 100เสียง ซึ่งประชาธิปัตย์มีเสียงไม่พอ จึงไม่สามารถดำเนินการแต่เพียงลำพังพรรคเดียวได้ จึงต้องอาศัยเสียงของพรรคก้าวไกลเป็นหลัก
ปิ๊กป้อม ท้ากก.ไปหาที่บ้าน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสส.ฝ่ายค้าน ระบุไม่เจอ พล.อ.ประวิตร ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกคุณ ผมจะไปหรือไม่ไป มันผิดหรือเปล่า” เมื่อถามย้ำว่า สส.พรรคก้าวไกล ประกาศถามหาพล.อ.ประวิตร กลางสภา พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า “ถามหาทำไม ถ้าอยากมาหา ก็มาหาที่บ้านสิ”
ลุยหนองคาบแฟนคลับแน่น
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะ ยังจัดกิจกรรม พปชร.สัญจรพบชาวบ้านครั้งที่ 2 ที่ รร.ฮั่วเคียวกงฮัก อ.เมือง จ.หนองคาย โดย พล.อ.ประวิตร เดินชมผลงานการแก้ปัญหาในพื้นที่ทั้งเรื่องที่ดิน น้ำ และชมการลงทะเบียนเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อเกษตรกรรม มีนายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ ส.ส.หนองคาย พรรค พปชร.และประชาชนที่มาร่วมงานกว่า 200 คน รอต้อนรับ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อเชิ้ตขาว สวมด้วยแจ๊กเก็ตพรรค พปชร.และกางเกงสแล็คดำ มาร่วมงาน ท่ามกลางฝนที่ตกเทกระหน่ำรับก่อนเริ่มงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค ไม่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เนื่องจากมีภารกิจประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
รับฟังเสียงของประชาชน
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กิจกรรม พปชร.สัญจร ครั้งที่ 2 มีนายกระแสร์ เป็นผู้ประสานงาน และขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ จ.หนองคาย มีศักยภาพสูง สามารถพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าในหลายด้าน ทั้งเกษตกร การคมนาคม การค้าและการท่องเที่ยว พรรค พปชร.เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลบริหารงานใน 2กระทรวงหลัก คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และกระทรวงเกษตรฯ ที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนั้นการมารับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนโดยตรงในแต่ละภูมิภาค ทั้งรับฟังคำแนะนำและปัญหา เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อจัดทำเป็นยุทธศาสตร์ของพรรค พร้อมกับชี้แจงผลการทำงานของพรรคให้กับประชาชนได้รับทราบถึงการแก้ปัญหาที่ถูกต้องของประชาชนที่เราได้ดำเนินการมาแล้ว ส่วนปัญหาเอกสารสิทธิในที่ดิน ปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ที่เป็นปัญหาใหญ่ของประชาชนทั่วประเทศ และปัญหาอื่นใน จ.หนองคาย จะนำไปสะท้อนต่อสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาล ให้ดูแลและแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน
ข้ามฝั่งสร้างมิตรภาพที่ลาว
“ขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนพรรค พปชร.สานต่อแนวทางและนโยบายของพรรค ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ ขอยืนยันจุดยืนของพรรคที่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ และขจัดปัญหาความยากจน จะยืนหยัด เคียงข้างประชาชน และขออวยพรให้ประชาชนชาวหนองคาย มีแต่ความสุขสำเร็จ สมหวัง ตามที่ได้ตั้งใจไว้ ทุกประการ”
จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมผู้บริหารพรรค ถ่ายรูปหมู่กับประชาชน เป็นที่ระลึก หลังจบภารกิจ พปชร.สัญจร พล.อ.ประวิตร มีภารกิจส่วนตัวพบกับนายกฯ สปป.ลาว ที่ฝั่งเวียงจันทน์ เป็นการส่วนตัว
‘เทวดาทักษิณ’คือผู้ทรงอิทธิพล
ด้านศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ผู้ทรงอิทธิพล ทางการเมืองกับผู้น่าเห็นใจทางการเมือง” ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 27-29 ก.พ.2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองกับผู้น่าเห็นใจทางการเมือง บุคคลที่ประชาชนคิดว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง (สามารถเลือกตอบได้ไม่เกิน 3 รายชื่อ) พบว่า ร้อยละ 42.90 ระบุว่าเป็น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 21.91 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 17.40 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 15.11 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 10.15 ระบุว่าไม่มีผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไทย
“ชัยธวัช”ไม่ค่อยมีอิทธิพล
ร้อยละ 9.01 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 6.11 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 4.27 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 3.28 ระบุว่าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร้อยละ 3.21 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายชาดา ไทยเศรษฐ์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายภูมิธรรม เวชยชัย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายชัยธวัช ตุลาธน นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายเนวิน ชิดชอบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส และร้อยละ 5.50 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
“พิธา”นำโด่งบุคคลน่าเห็นใจ
ส่วนบุคคลที่ประชาชนคิดว่าเป็นผู้ที่น่าเห็นใจทางการเมือง (สามารถเลือกตอบได้ไม่เกิน 3 รายชื่อ) พบว่าร้อยละ 46.79 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 17.86 ระบุว่า ไม่มีใครที่น่าเห็นใจทางการเมือง ร้อยละ 11.45 ระบุว่าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร้อยละ 10.46 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ร้อยละ 8.55 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ร้อยละ 8.09 ระบุว่าเป็น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯร้อยละ 1.91 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 1.37 ระบุว่าเป็น นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 1.22 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ร้อยละ 2.98 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ น.ส.พรรณิการ์ วานิช นายชวน หลีกภัย นายภูมิธรรม เวชยชัย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกัณวีร์ สืบแสง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และร้อยละ 6.34 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี