กมธ.ที่ดินฯบี้สอบส.ป.ก.โคราช
เร่งออกเอกสารสิทธิ
ให้ผู้ครอบครอง 5 รายเร็วผิดปกติ
ไม่เช็คแนวเขตทับที่อุทยานฯ
ซัดกระบวนการยังมีช่องโหว่
“ภูมิธรรม”ชี้ปมพิพาท “ส.ป.ก.-กรมอุทยานฯ”ดีขึ้น ย้ำเรื่องที่ดินส.ป.ก.ต้องสะสาง โดยใช้วันแมป เป็นมาตรฐานกลาง ต้องแก้ปัญหาแบบยืดหยุ่น ดูความเป็นจริง ส่วนกมธ.ที่ดินสงสัยส.ป.ก.โคราชเร่งออกส.ป.ก. ไม่ตรวจแนวเขต ทั้งที่มีคนคัดค้านถึง 2 ครั้ง และเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ เล็งเช็ค 5 ผู้ครอบครอง มีคุณสมบัติตรงหรือไม่ โดยเรียกขอเอกสารมาตรวจสอบ ชี้กระบวนการส.ป.ก.มีช่องโหว่มาก ปูดมีอีก 59 แปลงจัดรูปที่ดินให้ครอบคลุมทุกแปลงที่ส.ป.ก.จัดสรรออกไปแล้ว ประสานจนท.ส่งรายละเอียดทุกแปลง นำเข้าถกในกมธ.ที่ดิน 6 มีค.
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชว่า เรื่องนี้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดยวันที่ 4 มีนาคม ตนประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งได้แจกสิทธิทำกินให้กับประชาชนในเขตลุ่มน้ำ ตามกฎระเบียบกฎหมายประมาณ 8 แสนกว่าไร่ ใน 50 จังหวัด
“ส่วนเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. เป็นเรื่องเก่าที่ต้องสะสาง เพราะมีหน่วยราชการรับผิดชอบหลายหน่วย อีกทั้งมีแผนที่ที่มองไม่ตรงกัน จึงได้แก้ปัญหาในการจัดทำแผนที่วันแมป ให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมพูดคุยกัน ซึ่งทุกคนต่างยอมที่จะใช้วันแมป 1:4,000 ให้เป็นมาตรฐานกลาง” นายภูมิธรรมกล่าว
และว่า เรื่องนี้ต้องแก้ปัญหาแบบยืดหยุ่น ต้องดูความเป็นจริง ยกตัวอย่างว่าก่อนหน้านี้ตนไปดูแหล่งปลูกกาแฟที่จ.น่าน ซึ่งเป็นอันดับต้นๆของโลก โดยมีชนเผ่าเมี่ยน เป็นผู้มีสิทธิทำกินในพื้นที่ดังกล่าว และอยู่ประเทศไทยมาแล้วประมาณ 200 ปี แต่พอรัฐบาลประกาศเขตไปทับซ้อนพื้นที่พวกเขาก็เกิดปัญหา คทช. จึงไปคืนสิทธิให้พวกเขาทำกิน แต่สินทรัพย์ต้องเป็นสินทรัพย์กลาง พร้อมมีเงื่อนไขให้พื้นที่ต้องปลูกต้นไม้ เพื่อจะทำให้พวกเขาอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งไม่อยากใช้คำว่าเป็นอาชญากร หรือเป็นคนทำผิดกฎหมาย เพราะพวกเขาอยู่มาก่อนหน้านั้น และรัฐบาลประกาศเขตทับซ้อนพื้นที่เขา จึงต้องคืนสิทธิทำกินให้พวกเขา ยกเว้นกับคนที่มีสิทธิจริงๆ ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องไปเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเคร่งครัด อย่าไปอำนวยประโยชน์ให้ใคร ซึ่งใครที่มีปัญหาต้องจัดการกันตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิไปคุ้มครองได้ จึงอยากให้ดูตามความเป็นจริง ส่วนปัญหาที่ไม่ยอมรับแผนที่วันแมป นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้คิดว่าดีขึ้นแล้ว เพราะที่ประชุม คทช.พูดคุยกับหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นส.ป.ก. เขตอุทยาน เขตอุทยานชายฝั่งและกรมที่ดิน ซึ่งตนพยายามให้ทุกฝ่ายได้คุยกัน และขณะนี้ในคณะกรรมการ คทช.เข้าใจกันมากขึ้น ส่วนเรื่องนี้จะมีคนผิดหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าเราอยากให้มีคนผิดหรืออยากให้มีคนถูก หากข้อเท็จจริงถูก ก็ต้องว่าถูก
ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎรนำคณะ ลงพื้นที่ติดตามปัญหาข้อพิพาทที่ดินทับซ้อนในอ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งได้หารือร่วมกับนายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางแก้ปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิที่ดินในจ.นครราชสีมา พร้อมลงพื้นที่ศึกษาดูงานเกี่ยวกับปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิที่ดินในอ.เมืองนครราชสีมา ก่อนเดินทางกลับ
โดยนายอภิชาต ศิริสุนทร เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการลงพื้นที่แก้ปัญหาเขตปฏิรูปที่ดิน ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า แต่ละหน่วยงานต่างอ้างกฤษฎีกาของตนในการปักหมุด ต้องไปคุยกันระดับนโยบาย เรื่องแนวเขตที่ทั้งสองหน่วยงานไม่ยอมรับแนวเขตซึ่งกันและกัน ว่าควรออกแนวไหน ถ้าเป็นแนว One Map ต้องเร่งรีบทำ เพื่อเป็นข้อสรุปให้ได้
นายอภิชาตกล่าวต่อว่า ตอนนี้ต้องดูรายละเอียด ทำไม ส.ป.ก.นครราชสีมา ต้องเร่งออกแบบรวดเร็ว ไม่มีการตรวจสอบแนวเขต ทั้งที่มีการคัดค้านถึงสองครั้ง รวมถึงยังเป็นพื้นที่ป่า ที่ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ เป็นพื้นที่ที่ไม่สมควรออก เพราะเป็นป่าสมบูรณ์ เมื่อเร่งรีบออก ส.ป.ก.แล้วจัดสรรให้ใคร ต้องดูชื่อผู้ครอบครองทั้ง 5 ราย มีคุณสมบัติหรือไม่ เอื้อต่อใครหรือไม่ กระบวนการของ ส.ป.ก.มีช่องโหว่มาก มีการเอื้อหรือทุจริตหรือไม่
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯได้เรียกขอเอกสารว่า 5 รายนี้เป็นใคร มีวิธีสอบสิทธิ์อย่างไร ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ล่าสุดตอนนี้ได้ขอเอกสารเพิ่มเติมจาก ส.ป.ก.นครราชสีมา ซึ่งนอกจากเอกสารการจัดรูปแปลงให้เกษตรกร 5 รายแล้ว ที่ได้ขอไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังพบว่ามีการจัดรูปแปลงที่ดินทั้งหมด 59 แปลง เพื่อให้ครอบคลุมกับทุกแปลงที่ ส.ป.ก.ได้จัดสรรออกไปแล้ว เพื่อดูรายละเอียดข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานงานขอเอกสารการจัดรูปแปลงที่ดิน พร้อมทั้งชื่อบุคคลที่ถือครองที่ดินทั้งหมด เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการที่ดิน ในวันที่ 6 มีนาคม ซึ่งเป็นการประชุมร่วมระหว่าง กมธ.การที่ดินฯ และ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์และการปฏิรูป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี