‘ทักษิณ’คุยอาการดีขึ้นตามลำดับ

แอ่วเชียงใหม่ชื่นมื่น

เลิกใส่เฝือกแขน/ปลอกคอยังอยู่

ฟิตปั๋งลุยทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน

‘บิ๊กโจ๊ก-ธรรมนัส’โผล่คอยต้อนรับ

‘เศรษฐา’เตรียมบินเข้าพบ15มี.ค.

“ทักษิณ” เปิดปากอาการดีขึ้นตามลำดับ ไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ เสริมสิริมงคลก่อนบินขึ้นเชียงใหม่ “บิ๊กโจ๊ก-ธรรมนัส-คนเสื้อแดง- ขรก.”ต้อนรับแน่นพร้อมเดินสายทำกิจกรรมตลอดวันฟื้นความหลังชมผลงานที่อนุมัติไว้สมัยเป็นนายกฯด้าน”เศรษฐา”พร้อมพบนายใหญ่

เมื่อเวลา 05.19น.วันที่ 14มีนาคม2567 ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะบุตรสาวและนายปิฎก สุขสวัสดิ์ บุตรเขย เข้ามาสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวไปไหว้บรรพบุรุษที่ จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ นายทักษิณพร้อมครอบครัวเดินทางมาด้วยรถตู้เมอร์เซเดสเบนซ์สีดำ ทะเบียน ภษ 1414 กรุงเทพมหานคร ทันทีที่ นายทักษิณ มาถึงได้เข้าประตูด้านข้างศาลหลักเมืองบริเวณถ.หลักเมือง ข้างกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าไปประกอบพิธี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจ (สน.) สำราญราษฎร์ คอยอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณโดยรอบ ขณะเดียวกัน มีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นบริเวณทางเข้าถ.หลักเมือง เพื่อไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป ขณะที่บรรดาสื่อมวลชนจำนวนมากเดินทางมาปักหลักรอทำข่าวนายทักษิณอยู่โดยรอบศาลหลักเมือง ขณะที่ช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีประชาชนเข้าไปปะปนในศาลหลักเมือง เนื่องจากจะเริ่มเปิดให้ประชาขนทั่วไปได้เข้าสักการะได้ในเวลา 06.30 น.เป็นต้นไป และเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีส.ส.หรือมวลชนมาดักรอนายทักษิณแต่อย่างใด

ใส่แมสสวมเฝือกที่คอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้นายทักษิณได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมเฝือกอ่อนดามคอพร้อมกับใส่แมสก์ แต่ไม่ได้ใส่ผ้าคล้องแขนด้านขวา และสามารถเดินได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องนั่งวีลแชร์ แต่มีน.ส.แพทองธารคอยเดินประกบและมีการประคองกันเป็นระยะ ทั้งนี้ นายทักษิณพร้อมครอบครัวได้ไหว้ศาลหลักเมืองรวม 5 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 หอพระพุทธรูป โดยมีการนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองเข้าไปสักการะ จากนั้นไปไหว้จุดที่ 2 คือองค์พระหลักเมืองจำลอง โดยใช้ผ้าสีเหลืองจีวรผูกกับองค์พระหลักเมืองจำลอง ต่อมาไปที่จุดที่ 3 องค์พระหลักเมืององค์จริง ได้ทำการบวงสรวงองค์พระหลักเมืององค์จริง จุดที่ 4 หอเทพารักษ์ทั้ง 5 ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าเจตคุปต์ และเจ้าหอกลอง และจุดที่ 5 เป็นการเติมน้ำมันตระเกียงพระประจำวันเกิด เพื่อ ความสว่างไสวในชีวิตและสะเดาะเคราะห์ เพื่อให้สิ่งไม่ดีออกไป โดย นายทักษิณ พร้อมครอบครัวทำพิธีเสร็จสิ้นในเวลา 05.45น.ใช้เวลาประกอบพิธีรวม 26 นาที จากนั้นนายทักษิณพร้อมครอบครัวได้เดินทางออกจากศาลหลักเมือง โดยสื่อมวลชนได้พยายามเรียกทักทาย สวัสดี โดย นายทักษิณ ได้หันมายกมือรับไหว้ก่อนขึ้นรถกลับบ้านพัก

มุ่งหน้าเหินฟ้าไปเชียงใหม่

ต่อมาเวลา 08.00น.นายทักษิณ เดินทางไป ที่ MJets ดอนเมือง เพื่อนั่งครื่องบินส่วนตัว เดินทางมายัง จ.เชียงใหม่ เวลา 09.28น.โดยก่อนที่นายทักษิณ รีจะเดินทางถึงอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นจุดแรกที่จะเดินทางถึง ได้มีมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งจากหลายจังหวัด อาทิ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ชลบุรี เดินทางมาให้กำลังใจ โดยแกนนำ กล่าวว่า มารอตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม เมื่อทราบว่า นายทักษิณจะเดินทางมาที่ จังหวัดเชียงใหม่ก็อยากมาให้กำลังใจ ซึ่งพวกเราต่างคนต่างมา จึงไม่ทราบว่าจะมากันกี่คน

ย้ำทักษิณนายกฯในดวงใจ

“นายกทักษิณเป็นนายกในดวงใจของพวกเรา และของประชาชนทุกคนอยู่แล้ว เมื่อท่านเดินทางกลับมาประเทศไทย พวกเราที่มีความรักต่อท่านมาตลอด 17 ปีที่รอคอย เมื่อ วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ที่ท่านเดินทางกลับมาถึงพวกเราก็ไปรับ ทราบว่าท่านไม่สบาย แต่เราก็อยากเจอท่าน อยากทักทายท่านส่วนท่านจะทักทายกลับหรือไม่ไม่สำคัญ สำคัญว่าเรามาหาได้เห็นท่าน มาเป็นกำลังใจ ถือว่าเป็นประชาชนที่ได้ประโยชน์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ถือว่าเป็นโครงการที่สุดยอด ที่ประชาชนทุกคนได้ผลประโยชน์ สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆต่อตัวนายทักษิณ พวกตนไม่ขอพูดเพราะแล้วแต่มุมมอง และส่วนตัวยึดคติที่ว่า “เลือดเปลี่ยนสีเมื่อไหร่เปลี่ยนใจเมื่อนั้น”

โจ๊ก-ธรรมนัส คอยต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.) ที่มารอให้การต้อนรับแล้ว ที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ปรากฏว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตฯ ได้มารอรับด้วยเช่นกัน

การกลับบ้านที่เชียงใหม่ครั้งนี้ นายทักษิณ ใช้รถโตโยต้าสีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร โดยทันทีที่ นายทักษิณ มาถึงอุทยานหลวงราชพฤกษ์ นายภูดิท อินสุวรรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย นำพระพุทธรูปพุทธบารมี วัดทับคล้อ หน้าตัก 9 นิ้ว มามอบให้

เยือนอุทยานหลวงราชพฤกษ์

พร้อมกันนี้นายทักษิณ ยังกล่าวทักทายคนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าการมาครั้งนี้ นายทักษิณ มีสีหน้าสดใส สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าคราม กางเกงยีนส์ รองเท้าลำลอง และเดินกุมมือกับ น.ส.แพทองธาร ตลอดเวลา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ามาเชียงใหม่ครั้งนี้ เชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือไม่ นายทักษิณ ตอบเพียงสั้นๆว่า “เหมือนเดิม”

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ร่วมต้อนรับด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะที่เดินทางมาร่วมกับนายทักษิณ ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยตลอดการเดินทางของนายทักษิณ มีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด จากนั้นคณะขึ้นรถกอล์ฟไปด้านในอุทยานหลวงฯ

“เกรียง”ร่วมคณะทักษืณ

จากนั้นนายทักษิณ เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ ครอบครัวที่ร้านช้างม่อยกาแฟ ก่อนที่เวลา 12.40 น. นายทักษิณ พร้อมคณะ เดินทางมาที่อ่างเก็บน้ำหนองเขียว ห้วยหยวก ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ใกล้กับศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย มาร่วมคณะเพิ่มเติมด้วย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เห็นการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่แล้วรู้สึกอย่างไร นายทักษิณ ไม่ตอบ โดยชี้ไปที่บอร์ดแผนโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำหนองเขียว ด้วยแววตาที่ยิ้ม ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นโครงการที่นายทักษิณอยากผลักดันใช่หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า เป็นโครงการที่ทางจังหวัดทำไว้ และตนมาดู ก่อนที่นายทักษิณ พร้อมครอบครัว ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลากว่า 30,000 ตัว ประกอบด้วยปลาบึก 15 ตัว ปลาแรด12ตัวและปลากาดำ ปลากะโห้ ปลาแก้มช้ำ และปลาจาด เป็นต้น โดยมีร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาด้วย ขณะเดียวนายทักษิณ และน.ส.แพทองธาร ยังร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้งอีกด้วย

ปล่อยพันธ์ปลา3หมื่นตัว

จากนั้นนายทักษิณได้กราบนมัสการพระเทพมังคลาจารย์ (สมาน) ฉายา กิตฺติโสภโณ วัดท่าตอน พระอารามหลวง ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าคณะได้มอบลูกประคำไม้หอมกฤษณา และสมเด็จวัดปากน้ำปี 2535 คล้องคอ รวมทั้งได้มอบกำไรประคำสีฟ้าให้กับน.ส.แพรทองธาร ก่อนที่นายทักษิณจะถวายปัจจัย 10,000 บาท เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่สวดให้พรพร้อมกล่าวว่า คาถา ที่มอบให้เป็นคาถาฮักเน้อ คนฮักคนชอบ และอวยพรว่า ขอให้อยู่กับบ้านกับเมืองไปชั่วชีวิต ไม่ต้องไปไหนแล้วประเทศนี้

เยือนหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สา

จากนั้น เวลา 13.20 น.นายทักษิณ เดินทางมายังหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สา ต.แม่สา อ.แม่ริม เพื่อตรวจเยี่ยมถึงการจัดการและการบริหารจัดการน้ำ โดยมีร.อ.ธรรมนัส และอธิบดีกรมชลประธาน รับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อธิบายถึงรายละเอียดต่างๆ ทั้งนี้ นายทักษิณ ได้รับฟังการบรรยายสรุปพร้อมแนะนำในเรื่องการนำน้ำต้นทุนมาบริหารและแจกจ่ายให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งอยากให้มีการบริหารจัดการการปลูกต้นไม้ให้มีความเขียวขจีมากกว่าที่เป็นอยู่

เผยอาการดีขึ้นตามลำดับ

โดยผู้สื่อข่าว ได้พยายามสอบถามเรื่องของอาการป่วยของนายทักษิณ อดีตนายกฯ กล่าวตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “อาการดีขึ้นตามลำดับ”ขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มชาวบ้านมาดักรอเจอระหว่างที่นายทักษิณ มาดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่ต้นน้ำแม่สา โดยชาวบ้าน ได้เข้ามาจับมือแสดงความดีใจที่ได้เจอนายทักษิณ ซึ่งนายทักษิณ ได้สอบถามชาวบ้านว่า “เดินทางมาจากไหน” ชาวบ้านจึงตอบกลับว่า “มาจากน้ำตกแม่สา ห่างจากจุดนี้ประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อมารอเจอ” ขณะที่น.ส.แพทองธาร ที่ยืนประคองนายทักษิณ พยายามบอกชาวบ้าน ที่พยายามจะเข้ามาสวมกอดและจับมือ ว่า “ให้ระวังแขน อย่าดึงแขน เพราะคุณพ่อยังเจ็บแขนอยู่” ชาวบ้านจึงขอให้นายทักษิณ สุขภาพแข็งแรง

เยือนคลองแม่ข่าอารมณ์ดี

เมื่อเวลา 14.10 น. นายทักษิณ ได้เดินทางมาถึงคลองแม่ข่า ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่กลางเมืองเชียงใหม่ โดยมีนายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และประชาชนมารอต้อนรับ ซึ่งนายทักษิณได้ทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง โดยประชาชนที่มารอต้อนรับได้กล่าวว่า “ท่านคะ ยินดีที่ได้กลับบ้านเราค่ะ” ก่อนที่นายทักษิณจะเดินไปยังบริเวณสะพาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนคนเดินคลองแม่ข่า

โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวได้อธิบายถึงบริเวณดังกล่าวว่า เป็นโอตารุเมืองไทยที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นในช่วงเย็น ซึ่งนายทักษิณ ได้สอบถามเกี่ยวกับการบริหารจัดการและการขุดลอกคลองกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้เมื่อถามถึงวัตถุประสงค์ในการลงพื้นที่ดูโครงการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายทักษิณบอกว่าเพราะเป็นโครงการพิเศษ

เศรษฐาพร้อมเฝ้าไข้’แม้ว’

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง กล่าวว่าเชียงใหม่เป็นบ้านเกิดของนายทักษิณ และอดีตนายกฯสมชาย วงศสวัสดิ์ก็อยู่ที่นั่นเป็นโอกาสดีของครัวครัวที่ต้องเสียเวลาไป 17 ปี และหลายๆคนก็อยากปเยี่ยมท่าน และตนก็ไม่ได้คิดอะไร

เมื่อถามว่า นายกฯเดินทางลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้มีโอกาสที่จะพบกับนายทักษิณหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “คิดว่าคงมีโอกาส” แต่ยังไม่ได้นัดหมายอะไร เพราะภารกิจของตนยังแน่นตลอดทั้ง วันที่15 มีนาคมและจะบินไปเชียงใหม่ตอนเย็น ไม่ได้มีการนัดหมายเป็นกิจจะลักษณะ แต่ก่อนที่จะลงเครื่องมาได้ดูบรรยากาศของวันนี้ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย รู้สึกอบอุ่นดี เสียงต่าง ๆ ก็คงมีบ้าง แต่ในความเห็นของตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีต่อรอยยิ้มในประเทศไทย ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี

‘ธรรมนัส’ยันมาราชการเลยเจอกัน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ร่วมกับนายทักษิณ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันเดียวกันนี้ ว่าพื้นที่พืชสวนโลก ตนมาตรวจราชการก็ได้พบกันและได้แลกเปลี่ยนความคิดและข้อเสนอแนะกับนายทักษิณ เมื่อถามความรู้สึกว่าเป็นอย่างไรที่ได้เดินกับนายทักษิณ และทำให้ได้คิดถึงบรรยากาศสมัยที่ได้ทำงานร่วมกัน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เรามาภารกิจของกระทรวงเกษตรฯ แต่ยอมรับว่านายทักษิณเป็นคนเก่ง ด้านพัฒนาบ้านเมือง และการลงพื้นที่ครั้งนี้ ตนไม่กลัวว่าจะถูกเชื่อมโยงประเด็นการเมือง เพราะมาภารกิจของกระทรวงเกษตรฯ ขออย่าไปเหมารวมรวมกัน เพราะถือว่าเป็นภารกิจของราชการ

เมื่อถามต่อว่า ดูนายทักษิณวันนี้แข็งแรงกว่าที่คิดไว้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็อย่างที่เห็น เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับนายทักษิณ หลังจากที่ได้รับการพักโทษ แต่จะบอกว่าเจอโดยบังเอิญก็ไม่ใช่ ในฐานะเจ้านายเก่า ตนก็ยังไม่มีเวลาพูดคุยเรื่องส่วนตัวกันเลย พร้อมกล่าวทิ้งท้ายกับสื่อมวลชนว่า อย่าไปคิดมาก ที่มาวันนี้กับนายทักษิณ

โรมชี้เป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ว่า ต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและการเดินทางกลับในครั้งนี้อาจจะส่งผลต่อการเมืองระดับท้องถิ่นการเลือกตั้ง อบจ. เร็วๆนี้รวมถึงการเลือกตั้งระดับชาติ ที่เรียกว่าการทวงคืนพื้นที่ทางการเมืองคืน ซึ่งจะต้องจับตาดูกลยุทธ์ ทางการเมือง หรือเพียงต้องการกลับบ้านเกิดซึ่งก็เป็นไปได้หมด

ส่วนข้อสงสัยของสังคมเรื่องปัญหาสุขภาพนั้น เนื่องจากได้รับข้อมูลจากทางรัฐบาลมาโดยตลอดว่านายทักษิณมีสุขภาพที่แย่ แต่เมื่อผ่านไม่กี่วันออกจากโรงพยาบาลไปอยู่บ้าน และเดินทางกลับไปเชียงใหม่จึงทำให้เกิดความคาใจว่ารัฐบาลหลอกประชาชนหรือไม่

“ถ้ารัฐบาลหลอกเรา ถ้ารัฐบาลไม่ตรงไปตรงมากับประชาชน ผมคิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ใช้ไม่ได้เท่านั้นเอง ดังนั้นถ้าเกิดว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง ผมคิดว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อประชาชน”

เต้นอวยไม่วางมือง่ายๆ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เผยว่าคงเร็วเกินไปที่จะวิเคราห์ทางการเมืองนายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า วันแบบนี้คงเร็วเกินไปที่จะมาวิเคราะห์หรือตีความกันทางการเมือง ต้องดูว่าบทบาทหลังจากนี้ของนายกฯ ทักษิณ หลังจากที่ท่านสามารถเคลื่อนไหวโดยอิสระ พ้นจากเงื่อนไขต่างๆ แล้วจะเป็นอย่างไร นั่นแหละถึงจะ ดูเป็นมิติการเมืองได้มากกว่า และชัดกว่า เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่ นายทักษิณ จะกลับมามีบทบาททางการเมืองหลังจากพ้นโทษ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า “ผมว่าท่านเป็นคนการเมือง แน่นอนการที่ท่านกลับมาคราวนี้ ในวัย 75 ปี ท่านอาจจะทำหน้าที่คุณตา คุณปู่ ผมว่านี่เป็นความจริงในใจแน่ๆ แต่ว่าช่วงเวลาอื่นๆ จะให้ท่านนายกฯ ทักษิณ วางมือจากการเมืองเสียเลย คิดว่าโดยธรรมชาติของตัวท่านคงไม่เป็นแบบนั้น แต่ทีนี้ในทัศนะส่วนตัว บทบาทของท่านจะเป็นอย่างไร คนเห็นด้วยเห็นต่างก็วิจารณ์ได้”