ประชาธิปัตย์ยันจัดเต็ม
ถล่ม‘รบ.เศรษฐา’
ล็อกเป้าปมแจกเงิน1หมื่น
นายกฯรับคุย‘แม้ว’เรื่องศก.
ไม่สนข้อครหาผู้นำหลายคน
‘สมชาย’ปัดจูบปากกับพปชร.
“ปชป.” ยันทำให้ดีที่สุดศึกซักฟอก ม.152 “รัฐบาลเศรษฐา” กาง 3 โจทย์ล็อกเป้าถล่ม “นโยบายประกาศแล้วไม่ทำ-ดิจิทัล วอลเล็ต-ทำลายหลักนิติรัฐโยง “ทักษิณ” ปล่อยนักโทษเทวดา ข้องใจภาวะผู้นำเศรษฐา–มีนายกฯกี่คนกันแน่ ชี้หากชี้แจงไม่เคลียร์ ปชช.จะเริ่มไม่ไว้ใจ ด้าน’ก้าวไกล‘ยังไม่เคาะคัด‘ขุนพล-หัวข้อ’ถลกซักฟอก ม.152 รอหลังงบฯ 67วาระ2-3 เสร็จ เล็งถล่มปม’ทักณิษ’ ด้าน‘เศรษฐา’รับพูดคุย‘ทักษิณ’เรื่องเศรษฐกิจ ไม่กังวลหลังถูกวิจารณ์มีนายกฯ2คน ชี้ไม่ว่า‘ทักษิณ-พิธางใครลงพื้นที่แล้ว ทำให้คนมีรอยยิ้ม ถือเป็นเรื่องดี
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567 นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวันที่ 3–4 เมษายนนี้ว่าถึงแม้ว่าเวลาในการอภิปราย จะมีเพียงแค่ 2วันซึ่งไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนติดตามทวงถาม และมีเรื่องคาใจเกี่ยวกับนโยบายการบริหารงานของรัฐบาลเป็นจำนวนมาก แต่ทางฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะทำหน้าที่ในการอภิปรายฯอย่างดีที่สุด
ล็อค3เป้านโยบายประกาศแล้วไม่ทำ
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทั้งนี้ ประเด็นที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะดำเนินการอภิปรายนั้น จะมีอยู่ 3 ประเด็นหลักๆก็คือ ในเรื่องของนโยบายที่มีการประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนในคำแถลงนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งนับจากวันแถลงนโยบาย ในวันที่ 11ก.ย.2566 จนถึงตอนนี้ ผ่านไป 6 เดือนแล้ว กลับพบว่านโยบายที่เป็นเรือธงสำคัญอย่างการเติมเงิน10,000บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนั้น กลับมีความคืบหน้าเพียงแค่ซื้อเวลา เพื่อหาแพะรับบาป และที่ตนย้ำมาตลอดว่าเสียงสะท้อนจากประชาชนจริงๆนั้น พวกเขาต้องการเงินสดมากกว่าเงินในอากาศที่ต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอนกว่าที่จะใช้งานได้จริง รวมทั้ง นโยบายอื่นๆ ที่ยังล้มเหลวในทางปฏิบัติ
ชำแหละเอื้อปล่อย‘นักโทษเทวดา’
ต่อมา ในเรื่องของความเสมอภาค ที่ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐนั้น ปรากฏว่าสิ่งที่สังคมรับรู้กันทั่วไปก็คือมีการใช้อำนาจทุกรูปแบบ เพื่อเอื้อให้นักโทษคนหนึ่ง มีสิทธิพิเศษเหนือกว่านักโทษคนอื่นๆอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ซึ่งขัดกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศว่าจะดำเนินการฟื้นฟูหลักนิติธรรม (Rule of Law)ให้เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ เพราะการมีหลักนิติธรรมที่น่าเชื่อถือ เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางความคิดและสังคมที่สำคัญของประเทศ
ข้องใจภาวะผู้นำนายกฯเศรษฐา
และประเด็นที่สำคัญ ที่ตนและทางฝ่ายค้านสงสัยมากที่สุดก็คือภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน เนื่องจากเท่าที่สังเกตก็คือ ตำแหน่งสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเชื่อว่านายเศรษฐาไม่ได้เป็นคนที่คัดเลือกมาเอง แต่น่าจะเป็นโควตาของบรรดานายใหญ่ นายหญิงและนายน้อย ภายในพรรค อีกทั้ง ยังมีข้อครหาว่าการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆต่างๆนายเศรษฐาน่าจะต้องรอให้ผู้มีอำนาจตัวจริง เป็นคนสั่งการลงมา จนเป็นที่มาว่า ตกลงแล้วประเทศไทยมีนายกฯกี่คนกันแน่
ดังนั้น ฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญฯเพื่ออภิปรายสอบถามไปยังรัฐบาล โดยหวังว่ารัฐบาลจะมีคำตอบให้ทางสภาและประชาชน ได้ความกระจ่างและเป็นที่พอใจ ทั้งนี้ ยังมีประเด็นที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการสอบถามอีกมากมาย เช่นปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ขณะนี้มีความรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยไม่ใช่เป็นภัยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น
โยง‘ทักษิณ’ทำลายหลักนิติรัฐ
ประเด็นเรื่องสองมาตรฐาน ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมองว่า กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดินออกจากสนามบินจนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวออกมานั้น จำเป็นจะต้องได้รับคำตอบจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพราะการปล่อยให้นักโทษตามคำพิพากษาคนหนึ่ง มีสิทธิพิเศษเหนือกว่ามนุษย์ จนถูกเรียกเป็น ‘นักโทษเทวดา’ ถือว่า รัฐบาลเองเป็นผู้สร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำให้กับคนในสังคมที่ปฏิบัติตนตามกฎหมาย และทำลายหลักนิติรัฐอย่างชัดเจน ปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นรัฐบาลที่คิดใหญ่ทำเป็น แต่เห็นว่า บรรดากุนซือเศรษฐกิจของรัฐบาล พยายามสร้างมายาคติให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหา จึงจำเป็นต้องมาแจกเงินดิจิทัลวอลเลตเป็นต้น
ซัดแจงไม่เคลียร์ปชช.เริ่มไม่ไว้ใจ
“เพราะฉะนั้นผมจึงอยากเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีช่วยมาตอบคำถาม ที่ทางสส.พรรคฝ่ายค้านได้เตรียมการอภิปรายเอาไว้เพราะถ้าไม่มาหรือมาแล้วแต่ตอบไม่ตรงคำถามหรือได้คำตอบไม่ชัดเจน รัฐบาลก็จะต้องรับผลสะท้อนจากประชาชน ด้วยความรู้สึกที่ประชาชนเริ่มไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย” นายพิทักษ์เดช กล่าว
ก.ก.ยังไม่เคาะ‘ขุนพล’ซักฟอก
ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของพรรค ก.ก. ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ไฟนอล แต่มีราวๆ 40 คน สุดท้ายคงอภิปรายไม่ถึง 40 คน ส่วนประเด็นที่จะอภิปรายนั้น เป็นประเด็นที่ส.ส.เสนอมาเอง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะเสนอประเด็นอะไรมา แล้วเราก็จะให้เขาเจาะลึกลงไป จากนั้นก็จะเป็นการคัดเลือกในประเด็นที่เขาเสนอว่าควรจะอภิปรายหรือไม่
เมื่อถามว่าคาดว่าจะได้ไฟนอลเมื่อไหร่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่าหากเฉพาะหัวข้อตนคิดว่าจะเป็นช่วงหลังการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2567 วาระที่ 2 และ 3 เสร็จ
เล็งถล่มหลักนิติรัฐเรื่อง‘ทักษิณ’
เมื่อถามว่าทางพรรคประชาธิปัตย์อาจจะมีการอภิปรายเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯทางพรรค ก.ก.จะอภิปรายเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรื่องของนายทักษิณ เป็นเรื่องของหลักนิติรัฐ นิติธรรม ความเสมอภาคในการปฏิบัติ เราทุกคนอยากเสมอภาคกัน หากมี ก็อาจจะเป็นในแนวทางนี้
เศรษฐารับพูดคุย‘แม้ว’เรื่องเศรษฐกิจ
ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ว่าได้เจอกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและร่วมรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ที่บ้านของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ามีเรื่องใดที่ได้ปรึกษาอดีตนายกฯเป็นพิเศษหรือไม่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องเศรษฐกิจ เพราะอดีตนายกฯเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ก็มีการพูดคุยถึงการบริหารงานด้านเศรษฐกิจสมัยอดีตนายกฯทักษิณ ว่าเป็นอย่างไร
ไม่กังวลหลังถูกวิจารณ์มีนายกฯ2คน
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่กังวลที่ถูกเปรียบเทียบว่ามีนายกฯ2คน ภายหลังจากนายทักษิณ ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่เพราะไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ หรือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ที่ทำให้คนไทยมีรอยยิ้ม ส่วนนายทักษิณเองก็ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญระดับโลก มีเพื่อนเป็นผู้นำและว่าที่ผู้นำหลายๆ ประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในค่ำของวันที่15 มี.ค.ได้นัดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หารือเรื่องไฟป่าหมอกควัน ภายหลังจากจ.เชียงใหม่มีค่าฝุ่นติดอันดับ 1ของโลก จากการหารือกับประเทศเพื่อนบ้านที่ผ่านมา ก็ให้ความร่วมมือดี โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
พท.ซัด‘ศิริกัญญา’สวนรบ.ทุกเรื่อง
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยกล่าวตอบโต้กรณีน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุ สภามีอำนาจน้อย เหตุหน่วยงานใช้งบไปพลางแล้ว สงสัยตัดงบกันใหญ่วันสุดท้ายว่า ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะเลือกยืนในมุมตรงข้ามและสวนรัฐบาลทุกเรื่องไว้ก่อน ตนไม่แน่ใจว่าฝ่ายค้านไม่เข้าใจระบบงบประมาณจริงๆหรือแกล้งไม่เข้าใจเพื่อจะสร้างคอนเท้นต์ไปโปรโมทเรียกแขกให้ติดตามการอภิปรายงบประมาณ 2567 ในวาระ 2-3 หรือไม่ งบที่หน่วยรับงบประมาณใช้ไปพลางก่อนคืองบที่เป็นค่าใช้จ่ายประจำ เป็นงบดำเนินงาน ประเภทเงินเดือนข้าราชการ แต่งบครุภัณฑ์สิ่งก่อสร้าง โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ยังทำไม่ได้ ต้องรองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่าตัดงบแล้วเอาไปโปะไว้เป็นงบกลางนั้น ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะเอางบกลางไปทำอะไรก็ได้ ตัวเลขงบกลางประมาณ 8 พันล้านบาท ถูกนำไปใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญข้าราชการประมาณ 7 พันล้านบาทแล้ว ที่เหลืออีกประมาณ 1 พันล้านบาท จะเป็นงบประเภทเงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินยามจำเป็นเร่งด่วน อาทิ อุทกภัย ภัยแล้ง การที่ฝ่ายค้านต้องการสวนรัฐบาลโดยการยกมือให้ซื้อเรือฟริเกต ท่านทราบหรือยังว่าจะจัดซื้อจัดจ้างเรือจากประเทศไหน บริษัทอะไร กรอบการจัดทำงบประมาณในปีนี้ก็วางไว้ชัดตั้งแต่ต้นว่างบที่ไม่มีความชัดเจนหรือมีแนวโน้มว่าจะใช้ไม่ทันในช่วง 5 เดือนที่เหลือ ก็ตัดไปก่อน หากมีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอก็สามารถเสนอเข้ามาใหม่ในปีต่อไปได้
เฉลิมชัยตั้งรองโฆษกพรรค
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งรองโฆษกพรรคว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ได้แต่งตั้งรองโฆษก 5 คน คือ
1.นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ 2.นายพิทักษ์เดช เดชเดโช 3.นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง 4.ดร.เจนจิรา รัตนเพียร 5.นางสาวพลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์
โดยทั้ง 5 คนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีทั้งเป็น สส.คนรุ่นใหม่ ที่ได้ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรได้เป็นอย่างดี รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ได้เข้ามาช่วยงานพรรค การทำหน้าที่รองโฆษกก็จะสอดรับประสานกับการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนได้เป็นมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางพรรคก็ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาทในทางการเมืองอย่างเต็มที่
นายราเมศ กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้มีการกำหนดทิศทางเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ เน้นการทำงานอย่างสร้างสรรค์เป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน รวมถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่มีความจำเป็นต้องทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี