อวยกันฉ่ำ!‘เพื่อไทย’ชงกระทู้ถามในสภาฯหวานเจี๊ยบ ขอบคุณดัน‘แก้หนี้ กยศ.’ แนะประชาสัมพันธ์โครงการให้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริง ด้าน‘รมช.คลัง’แจงคืบหน้าไปมากแล้ว ‘คณะกรรมการปรับเกณฑ์ผู้กู้-ค้ำ’ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.5% แล้ว
28 มีนาคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา วันนี้ประกอบไปด้วย 3 กระทู้ โดยกระทู้แรก น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.คลัง ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยนายเศรษฐา มอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์รมช.คลัง เป็นผู้ตอบกระทู้แทน
น.ส.ลิณธิภรณ์ เริ่มต้นขอบคุณนายจุลพันธ์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ให้ชี้แจงการแก้ไขปัญหา กยศ.ที่เรื้อรังมายาวนานของระบบการศึกษาไทย ซึ่งที่ผ่านมา หนี้ กยศ. เป็นหนี้เสียสูงสุดในประวัติศาสตร์หนี้ที่ ไม่มีการชำระ สะท้อนว่าเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐบาลเองก็เห็นเป็นปัญหาเร่งด่วน จึงแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินประชาชนรายย่อย ซึ่งหนี้ กยศ.จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับการแก้ไข ปัจจุบันมีลูกหนี้กว่า 3.5 ล้านราย จำนวน 454,645 ล้านบาท จะดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็วจะทำให้ปิดบัญชีผู้มีหนี้เร็วขึ้น จึงอยากถามคณะกรรมการว่ามีหลักเกณฑ์คำนวณหนี้สินยอดใหม่อย่างไร เพื่อให้ประชาชนรับทราบแนวทางผลการดำเนินการ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นตอบว่า กล่าวขอบคุณนางสาวลิณธิภรณ์ที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน และเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้มาชี้แจง ซึ่ง กยศ. เป็นปัญหามานาน นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้ไปดูแล และมีการทำงานร่วมกับคณะกรรมการหนี้รายย่อย หลังจากนั้น ได้มีการประชุมกันต่อเนื่อง โดย กยศ. ได้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการที่รองรับกฎหมายหลายประเด็น ได้มีการออกประกาศปรับปรุงยอดหนี้ กองทุน หลักเกณฑ์วิธีการเกี่ยวกับการคืนเงิน ส่วนที่ชำระเงินที่มีการปรับปรุงใหม่ รวมถึงระเบียบกองทุนที่งดบังคับคดีชั่วคราว สำหรับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกัน
“หลังจากที่เราได้เข้าไปแล้ว สิ่งที่เราค้นพบและเตรียมเข้าไปแก้ไขตัวเลขเป็นที่น่าตกใจจริงๆ เพราะในส่วนของหนี้ที่คงค้างอยู่ในขณะนี้ 5 ล้าน 3 แสนราย ผิดนัด 49% ถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วง มีผู้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ตั้งแต่ปี จำนวน 47 5 ล้านคน” นายจุลพันธ์ กล่าว
รมช.คลัง กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีการปรับอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้ข้อมูลอาการดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี และเริ่มคำนวณดอกเบี้ยเมื่อดำเนินการกู้ นอกจากนี้ยังคิดเบี้ยปรับไม่เกินร้อยละ 0.5 ต่อปี เพื่อลดภาระให้กับผู้กู้ยืม นอกจากนี้ เมื่อก่อนกู้ได้แค่ ม.ปลายถึงอุดมศึกษาเท่านั้น แต่เกณฑ์ใหม่คือสามารถกู้ได้ในหลักสูตรอัพสกิล-รีสกิลด้วย และตัดเรื่องผู้ค้ำประกันออกไป
“วันนี้เราได้เปิดโอกาสให้กับผู้กู้ยืมปรับโครงสร้าง กฎเกณฑ์สัญญาที่มีอยู่ให้เป็นไปตามกฏหมาย ยืนยันได้ว่าเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในกลุ่มที่เป็นผู้กู้ยืมมหาศาลแน่นอน”นายจุลพันธ์ กล่าว
ต่อมาน.ส.ลิณธิภรณ์ ถามคำถามที่ 2 ว่า หลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการปรับนั้น ผ่านมา 1 ปี 2 เดือนแล้ว ยังไม่ได้บังคับใช้จริง จึงอยากถามถึงกรอบเวลาในการบังคับใช้ ทำให้นายจุลพันธ์ ตอบว่า วันที่รัฐบาลมาทำงาน กลไกในการปรับแก้ยังไม่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้ได้เดินหน้าไปพอสมควรแล้ว เช่น ลดเบี้ยปรับเป็นร้อยละ 0.5 ปรับเปลี่ยนวิธีการปรับชำระหนี้ มีการนำยอดหนี้มาคำนวณใหม่ที่ตัดเงินต้นก่อนค่อยไปตัดดอกเบี้ย ผู้กู้ยืมบางรายสามารถปิดบัญชีได้ทันที มีการคืนเงินผู้ที่ชำระเกินหลังจากปรับเกณฑ์ นอกจากนี้ กองทุนยังได้มีการเปิดลงทะเบียนปรับโครงสร้างหนี้ทั่วประเทศตั้งแต่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลา 09.00-20.00 น. มาได้ทุกวัน กลุ่มที่ยังมีหนี้เดินมาหาพวกเราได้ เริ่มที่กรุงเทพฯ ยะลา เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี เชื่อว่าจะมีผู้ได้รับประโยชน์ 3.5 ล้านคน ผู้ค้ำประกันจะได้ประโยชน์หลุดค้ำประกันทันที และเรายังเดินหน้าทำงานต่อไป
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ได้ทำหนังสือถึงทนายความทุกแห่งว่าขอให้งดบังคับใช้คดี ส่วนปัญหาเฉพาะหน้าได้มีการขอระงับการขายทอดตลาดออกไปก่อน ส่วนกรอบเวลา เรามีการแบ่งเป็นกลุ่ม 3 กลุ่ม ตามระดับของหนี้
น.ส.ลิณธิภรณ์ ขอบคุณนายจุลพันธ์อีกครั้ง ก่อนจะกล่าวว่าตนไม่มีคำถามที่ 3 เนื่องจากนายจุลพันธ์ตอบครบถ้วน ครอบคลุมแล้ว แต่มีข้อสังเกตไปถึง กยศ. ว่าจากตัวเลขคนที่ลงทะเบียนปรับโครงสร้างยังน้อยเกินไป ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐต้องประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลได้จริงจังกับการแก้ปัญหา
จากนั้นนายจุลพันธ์ จึงขอบคุณน.ส.ลิณธิภรณ์ต่อ และย้ำถึงการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล วันนี้แม้จะแก้ไขไปได้ระดับหนึ่ง แต่ยังมีเรื่องหนี้ครัวเรือนที่ต้องแก้กันต่อ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี