"กกต.ใหม่"เปิดใจ!!! ไม่กดดันพิจารณาคดีร้อน"ยุบพรรค" เผยห่วงใยการเลือกสว.ให้ได้คนดีตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงกรณีการเข้ารับตำแหน่ง กกต.ว่า มีความหนักใจหรือไม่ เนื่องจากเข้ามรรับตำแหน่งในช่วงที่กำลังมีการพิจารณาเรื่องของการยุบพรรคการเมือง ว่าตอนที่ตนไปแสดงวิสัยทัศน์ต่อกรรมาธิการวุฒิสภาก็ถูกถามว่ามาเป็น กกต.อยากจะทำอะไรบ้าง ซึ่งตอนคิดว่าภารกิจหลักสำคัญของ กกต.คือทำอย่างไรจะคัดคนดีคนเก่งคนมีความรู้ความสามารถเข้ามาเราเน้นที่คนดีเพราะคนดีจะครอบคลุมหมดทุกอย่างทั้งซื่อสัตย์สุจริตฉลาดมีความรู้มีความตั้งใจให้เข้าสู่ระบบการเมืองเป็นผู้บริหารประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นเป้าหมาย กกต.ที่ต้องทำให้ได้ ต้องนำคนดีๆ เข้ามาสู่ระบบการเมือง ถ้าเราตั้งธงไว้อย่างนี้แล้วการยุบพรรคการให้ใบเหลือง ใบแดงมันก็จะต้องมีว่าคนนั้นดีไม่ดี ทำผิดจริงหรือไม่ต้องยึดหลักกฎหมายเป็นหลัก แล้วต้องให้ความเป็นธรรมเที่ยงธรรมเหมือนสโลแกนของ กกต.เราต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าเราสามารถช่วยคัดเลือกคนดีให้เขาได้
"แต่ปัญหาที่เราประสบอยู่ ณ เวลานี้อย่างการเลือกสว.ที่เป็นระบบใหม่ หลีกหนีระบบปกติที่ให้ประชาชนเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าผู้ร่างมีเจตนาที่ดีที่ให้บ้านเมืองพัฒนาได้คนที่มีคุณสมบัติมีคุณวุฒิที่ดีเข้ามากลั่นกรองกฎหมายที่ผ่านจากสภาผู้แทนราษฎร หรือกลั่นกรองผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ จึงให้เลือกเป็นกลุ่มอาชีพโดยกลุ่มอาชีพเลือกกันเองตามที่มีการสมัคร ซึ่งการเลือกกันเองและการเลือกไขว้ระหว่างอาชีพเพื่อนำไปสู่ สว.ระดับประเทศ 200 คน จากที่มีคนสมัครเป็นแสนคนตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ของ กกต.ตอนคิดว่าระบบไม่เคยใช้มาก่อน จุดอ่อนก็คือสิ่งที่เหลือคิดไว้ล่วงหน้าว่าอะไรคือจุดอ่อนของระบบนี้ มันจะจัดสรรได้จริงหรือไม่" นายสุทธิโชติ กล่าว
และว่า "โดยเราต้องเข้าใจว่าคนที่ลงสมัครก็ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะพาตัวเองเข้าไปสู่รอบลึกๆ ได้ และทำอย่างไรที่จะให้คนมาเลือกเขาเป็นตัวแทนของสาขาอาชีพนั้น ซึ่งเราก็กลัวว่าถ้าเข้ามากันเป็นแบบจัดตั้งเยอะๆ เราก็จะได้ระบบจัดตั้งเข้ามาแต่ถ้าเข้ามาด้วยความที่ทุกคนอยากเป็น สว.เหมือนกันหมดมาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ และที่สุดก็มาเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ ก็จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งคิดว่าเป็นข้อห่วงใยของ กกต.ทุกคนในขณะนี้ว่าทำอย่างไรให้การเลือก สว.บรรลุวัตถุประสงค์ และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญให้ดีที่สุด เราพยายามคิดว่าทำอย่างไรเราจะเข้าไปรู้สถานการณ์ต่างๆ เหล่านั้นได้เพื่อที่จะเอาคนไม่ดีออกไปแล้วให้คนดีได้เข้าไปจริงๆ"
เมื่อถามว่า จุดอ่อน กกต.คือเรื่องของการอ่อนการสื่อสารต่อประชาชน นายสิทธิโชติ กล่าวว่า ตนยอมรับเพราะตอนที่อยู่ข้างนอกก็ฟังมาเยอะว่าทำไม กกต.ทำช้า ทำไมทำแบบนี้แบบนั้น แต่พอเราอยู่ข้างในจะรู้ว่า กกต.ทำตามขั้นตอนตามกฎหมายโดยไม่ได้สนใจกระแสว่าบีบไปทางไหน แต่สิ่งที่ทำก็ไม่ได้สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ วิธีการทำงานเป็นอย่างไร ฉะนั้นการสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจคิดว่าสำนักงาน กกต.น่าจะต้องคิดวิธีการใหม่ นอกเหนือจากการให้สัมภาษณ์หรือการออกเอกสาร ตรงนี้ต้องหาวิธีการเสนอให้ประชาชนทราบโดยไม่น่าเบื่อ ส่วนหนึ่งคิดว่าการมีส่วนร่วมของพรรคการเมืองและภาคประชาชนที่เข้ามาทำกิจกรรมร่วมกับ กกต.และ กกต.ได้เผยแพร่ให้ความรู้ไปว่า ณ เวลานี้เป็นอย่างไร ซึ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความคิดแต่ก็อยากรับฟังข้อเสนอแนะจากสื่อว่า กกต.ควรจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งอยากให้ช่วยกัน เพราะการที่สื่อมวลชนแนะนำมาก็ถือว่าเป็นการมีส่วนร่วมซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่า กกต.คงจะไม่นิ่งเฉยในเรื่องนี้และคงจะต้องมีการพัฒนาอย่างแน่นอน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี