‘เศรษฐา’ลั่นดึงศก.สีเทาขึ้นมาบนดิน
หนุนกาสิโนถูกก.ม.
เลิกสังคมอีแอบ-ลอบทำผิดก.ม.
ให้รัฐควบคุมดูแล/จัดเก็บภาษี
ปัดมอมเมา-โยนสภาฯแจงปชช.
ม็อบคปท.ยกพลบุกร้องคัดค้าน
นายกฯหนุนกาสิโนหรือบ่อนพนันถูกกฎหมาย ชี้ต้องยกเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมาอยู่บนดิน ทำให้ถูกกฎหมาย ให้ฝ่ายปกครอง-ฝ่ายความมั่นคงได้ดูแลความปลอดภัย รัฐบาลเก็บภาษได้ เป็นช่องทางรายได้เข้าปท. ลั่นเลิกเป็นสังคมอีแอบได้แล้ว เพราะทุกวันนี้ต้องยอมรับว่ายังมีอยู่ ด้าน “คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม” เดินเท้าบุกสภาฯยื่นหนังสือค้าน “กาสิโนเสรี”
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.….ซึ่งรวมถึงจะมีกาสิโนหรือบ่อนพนันถูกกฎหมายในประเทศไทย กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร มีความเห็นถึงข้อดีข้อเสียตรงนี้อย่างไรว่า ตนคิดว่าตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ จริงๆ แล้วเราไม่อยากให้มองเป็นเรื่องกฎหมายกาสิโน แต่ให้มองเป็นเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะรวบรวมหลายส่วน และเราทราบกันดีต้องการจะยกเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมาอยู่บนพื้นให้หมด จะได้ควบคุมกำกับดูแลเรื่องความปลอดภัย ความเหมาะสม และเก็บภาษีได้ถูกต้อง ซึ่งตนเห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีบางฝ่ายเห็นต่างจะชี้แจงอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า มีระบบสภาฯ ซึ่งก็เป็นตัวแทนของประชาชนอยู่แล้ว ก็ไปชี้แจงกันในสภาฯ ซึ่งการยกขึ้นมาให้ถูกกฎหมายก็เป็นช่องทางหนึ่งที่จะเก็บรายได้เข้าประเทศ ตนเรียนไปแล้ว ก็เป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่าจะขจัดปัญหาพวกที่เปิดบ่อนผิดกฎหมายได้ด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ตนคิดว่าอันนี้เป็นแนวทางหนึ่งที่ต้องทำได้ ถ้าทำให้ถูกกฎหมายได้ ก็จะไปทำผิดกฎหมายทำไม ใช่หรือไม่ และกฎหมายก็ออกมาว่าใครสามารถเข้าได้อย่างไร
ส่วนที่มีสังคมส่วนหนึ่งมองว่าอาจกลายเป็นการมอมเมาให้เข้าสู่เรื่องดังกล่าวง่ายขึ้นนั้น นายกฯกล่าวว่า ตนว่าถึงเวลาที่สังคมเราต้องมาดูกัน เรื่องของสังคมอีแอบ ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่แล้ว เอามากำกับดูแลให้เหมาะสมเพื่อฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครองจะได้ดูแลให้ถูกต้อง
“มันมีอยู่แล้วทุกวันนี้ต้องยอมรับและเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเราก็ต้องบริหารจัดการไปในระหว่างทาง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ากฎหมายจะผ่านเมื่อไหร่ และจะมาเปิดได้เมื่อไหร่ ก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร แต่ระหว่างนี้ยังไงก็ต้องจัดการกับที่ผิดกฎหมายไป” นายเศรษฐา กล่าว
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรมของสันติอโศกประมาณ 300 คน เดินเท้าจากเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ทำเนียบรัฐบาล มาชุมนุมยังหน้าอาคารรัฐสภา เกียกกาย เพื่อคัดค้านการออกกฎหมายกาสิโนเสรี ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร สภาผู้แทนราษฎร จะประชุมรายงานและเพื่อรับทราบผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขึ้นรถปราศรัย พร้อมเครื่องขยายเสียงต่อเนื่อง
จากนั้นตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมายังศาลาแก้ว เพื่อยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภาผ่านนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับมอบหนังสือ โดยนายใจเพชร กล้าจน ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวถึงเหตุผลที่คัดค้านการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย เพราะเห็นว่าเหตุผลที่สภาฯอ้างทำกาสิโน หรือการพนันถูกกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาและนำรายได้มาบริหารประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนนั้น จะยิ่งมีผลเสียมากกว่าผลดี และไม่ใช่การแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย มีตัวอย่างแล้วคือ แม้รัฐบาลออกหวยบนดิน แต่ก็ยังมีหวยใต้ดิน เพราะต้นเหตุการพนันผิดกฎหมายคือ นักการเมือง ข้าราชการ กลุ่มทุนชั่ว รับส่วยมีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด และหากคนไม่มีคุณธรรมมาควบคุมจะพากันทำชั่วกันหมด
“ที่มองว่ารายได้จะนำมาพัฒนา คุณภาพชีวิตประชาชนนั้น จากผลการวิจัย พบว่าการพนันคนส่วนใหญ่หมดตัว ทำให้ครอบครัวเพื่อนฝูงลำบากไปด้วย อาจก่ออาชญากรรม ค้าประเวณีส่งผลกระทบต่อสังคมต่อเนื่อง เช่น เมื่อครอบครัวหนึ่งไปเล่นการพนันถูกกฎหมายแล้วหมดเงิน 10 ล้านหรือ100ล้านบาท ต้องขายทรัพย์สินไปใช้หนี้ ทำให้ครอบครัวที่เคยอยู่เย็นเป็นสุข กลายเป็นครอบครัวที่สิ้นไร้ไม้ตอกเพียงข้ามคืน ดังนั้น ภาครัฐจะนำเงินจากครอบครัวที่ล่มสลายไปพัฒนาประเทศชาติถือว่า ใจดำมากเกินไปหรือไม่ และประเทศไทยไม่ได้ขาดงบประมาณในการบริหาร แต่ขาดคนมีคุณธรรมบริหารประเทศมากกว่า ถ้ามีคนมีคุณธรรมซื่อสัตย์สุจริตงบประมาณที่มีจำนวนมากจะบริหารประเทศไทยให้มีความสุขได้” นายใจเพชร กล่าว
วันเดียวกัน ที่อาคารรัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ ชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ หลังกรรมาธิการวิสามัญฯศึกษาประเด็นดังกล่าวเสร็จแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องท้าทายด้านหนึ่งคือ ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อประเทศ แต่อีกด้านคือ ผลกระทบต่อสังคม ที่สำคัญอันหนึ่งคือ การยกร่างกฎหมาย ที่อาจนำมาใช้บังคับ ถ้าหากประเทศจะเดินหน้าเรื่องนี้ ผลการศึกษาจากกรรมาธิการฯ ยังไม่ใช่ข้อยุติ สิ่งที่นำเสนอเป็นแค่รายงานการศึกษา เมื่อเสนอสภาฯถ้าที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดเดินหน้า และไม่ใช่จุดสุดท้าย เพราะกลไกลสภาฯเมื่อรับรายงานมา ต้องส่งคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณารายละเอียดต่อไปว่า โครงการลักษณะนี้มีความเหมาะสมกับประเทศหรือไม่ มีความเหมาะสมเดินหน้าอย่างไร เมื่อไหร่
นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า หัวใจหลักคือ กฎหมาย ที่เรานำเสนอ เป็นแค่การยกร่าง ซึ่งสมาชิกแต่ละคนอาจเห็นต่างกันในเนื้อหาแต่ละจุด ขอบคุณนายโกศล ปัทมะ ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านกฎหมาย รวมทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่มาช่วยยกร่าง ซึ่งกฎหมายนี้ยังเป็นตุ๊กตา สุดท้ายหากเดินหน้าฝ่ายบริหาร ถ้าเห็นชอบ ยังต้องส่งกลับมาให้สภาฯ พิจารณารายละเอียดกฎหมายในการกำกับควบคุม
จากนั้น สส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลได้ลุกขึ้นอภิปรายอย่างกว้างขวาง ในหลายแง่มุม เช่น ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เม็ดเงินที่ประเทศจะได้รับหากมีการเปิด Entertainment Complex เรื่องกาสิโน ก็เป็นการนำธุรกิจใต้ดินมาไว้บนดิน ควรเก็บภาษีอย่างถูกต้อง ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึง การวางมาตรการป้องกัน ไม่ควรเปิดอย่างเสรีเกินไป ต้องมีการออกกฎหมายอย่างรัดกุม ป้องกันกลุ่มมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล ต่อการทำผิดด้านการฟอกเงินและด้านต่างๆด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี