กล่องสุ่มไม่เอื้อแก้รธน.ฉบับใหม่! ‘ก้าวไกล’ ติง ‘ญัตติเพื่อไทย’ ส่งศาลฯวินิจฉัย ‘แก้รธน.ตั้งส.ส.ร.-ทำประชามติ2ครั้ง’ ได้หรือไม่ เป็นการยื่นดาบให้ ‘กลุ่มขวางรัฐธรรมนูญฉบับใหม่’ มาชี้ขาดแทน ยกความเห็นส่วนตน ‘5ตุลาการฯศาล’ ยันร่างฯฉบับ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ไม่ขัดคำสั่ง4/64 หวัง ‘ปธ.รัฐสภา’กระตุกทบทวนบรรจุกลับไปใหม่ เปิดทางเดินหน้ารื้อกติกาประเทศของปชช.
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติ เรื่องขอเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 31 ให้รัฐสภามีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับหน้าที่ และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 (2) ที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ
โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตนยอมรับว่าหนักใจ ที่หลายฝ่ายต้องการบรรลุเป้าหมาย ว่ารัฐสภาแห่งนี้จะต้องมาร่วมพิจารณาญัตติดังกล่าว โดยเฉพาะกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งที่เราทำคือการยื่นดาบให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ที่ถูกแต่งตั้งโดยกลุ่มคนที่ส่วนใหญ่อาจไม่อยากเห็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และให้กลุ่มคนดังกล่าวมาฟันธงชี้ขาดว่ารัฐสภาแห่งนี้ทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ ที่ผ่านมาก็มักจะเป็นเหมือนกล่องสุ่มไม่เป็นคุณต่อการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากนัก
“แต่เหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกหนักใจมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะหากเราเดินตามหลักการประชาธิปไตย และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ผมไม่คิดว่ารัฐสภาแห่งนี้จะต้องมาใช้เวลาหรือกำลังเพื่อมาพิจารณาญัตตินี้ตั้งแต่ต้นต้นตอสาเหตุที่ทำให้เรามาพิจารณาญัตติ เพราะประธานรัฐสภาตัดสินใจไม่บรรจุร่างฯแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ที่ยื่นเข้าไปเมื่อช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และร่างฯของพรรคก้าวไกล เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยอ้างว่าร่างฯดังกล่าวขัดคำวินิจฉัยของศาลฯที่ 4/2564” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันมาตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจประธานรัฐสภา เพราะไม่ถูกต้อง เนื่องจากตนไม่เห็นว่า ร่างฯของทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่มีหลักการสอดคล้องกันจะขัดกับคำวินิจฉัยศาลฯ โดยทั้ง 2 ร่างฯ มีหลักการคล้ายกันคือแก้มาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 ที่จะส่งผลให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นหากทั้ง 2 ร่างฯ ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาทั้ง 3 วาระ ก็จะต้องมีการจัดทำประชามติ หากผ่านประชามติจากความเห็นชอบของประชาชน ก็จะมีส.ส.ร.มาทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อส.ส.ร.ทำรัฐธรรมนูญฯแล้วเสร็จ ร่างฯของทั้ง 2 ได้ระบุชัด ว่าจะต้องมีการทำประชามติอีกครั้งว่าเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับหรือไม่
“สรุปคำวินิจฉัยศาลฯที่ 4/64 แบบเข้าใจง่ายคือ คำวินิจฉัยดังกล่าวพูดถึงความจำเป็นในการทำประชามติ 2 ครั้ง ก่อนและหลังมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผมจึงไม่เห็นว่าร่างฯของทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลจะขัดกับคำวินิจฉัยศาลฯผมได้รับข้อมูลว่าที่ประธานรัฐสภาไม่บรรจุร่างฯดังกล่าวทั้ง 2 ร่างฯ เพราะตีความคำว่าเสียก่อน หมายถึงการทำประชามติเสียก่อนจะมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใดๆที่เกี่ยวกับการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เข้าสู่รัฐสภา ผมเข้าใจว่าประธานรัฐสภาตัดสินใจไม่บรรจุทั้ง 2 ร่างฯจนกว่าจะมีการทำประชามติเพิ่มขึ้นมาอีก1ครั้งก่อนที่จะมีการเสนอร่างฯแก้ไขรัฐธรรมนูญใดๆเข้าสู่รัฐสภา ดังนั้นถ้าเดินตามนี้ก็จะต้องมีการทำประชามติ 3 ครั้ง” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า เราจะหาข้อสรุปอย่างไร ในเมื่อคำวินิจฉัยศาลฯ ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าจะต้องมีการทำประชามติเพิ่มอีก 1 ครั้งก่อนเสนอร่างฯ แก้รัฐธรรมนูญ ยอมรับว่าข้อความของคำวินิจฉัยศาลฯ อาจทำให้เกิดความคลุมเครือได้ ดังนั้นการแก้ปัญหานี้ไม่ยาก คือต้องไปดูคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลฯ รายบุคคลทั้ง 9 คน เพื่อให้เข้าใจความหมาย และเจตนาที่แท้จริงให้ชัดเจน แต่ตนตกใจว่ากระบวนการนี้ประธานรัฐสภายังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากตัวแทนของคณะกรรมการประสานงาน และเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของประธานรัฐสภา และประธานสภาฯ ยอมรับกับตนว่าศึกษาแค่คำวินิจฉัยกลาง ไม่ได้ศึกษาคำวินิจฉัยส่วนตนของทั้ง 9 ตุลาการศาลฯ
ทั้งนี้จากที่ตนไปสรุปคำวินิจฉัยส่วนตนของ 9 ตุลาการศาลฯ พบว่ามีถึง 5 คน ที่วินิจฉัยว่าสามารถบรรจุร่างฯทั้ง 2 ได้ ทำให้พออนุมานได้ว่า คำวินิจฉัยกลางที่ 4/64 กำลังบอกกับเราว่าประธานฯสามารถบรรจุร่างฯทั้ง 2 ได้
“การตัดสินใจของประธานรัฐสภา ในการไม่บรรจุทั้ง 2 ร่างฯแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการตัดสินใจสวนทางคำวินิจฉัยของตุลาการเสียงข้างมากของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผมหวังว่าประธานรัฐสภา จะทบทวน และตัดสินใจบรรจุร่างฯ แก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา เพื่อเดินหน้าผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนเร็วที่สุด ด้วยกระบวนการชอบธรรมทางประชาธิปไตย” นายพริษฐ์ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี