"ก้าวไกล"มีมติงดออกเสียง!!! แสดงจุดยืนต่อญัตติส่งศาลฯชี้ขาดแก้รธน.-ทำประชามติ เตือน"รัฐสภา"กำลังทำให้"ฝ่ายตุลาการ"กลายเป็นรัฐธรรมนูญเสียเอง-มาบีบทำให้สยบยอม เปิดช่องขยายอำนาจตัวเอง
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เข้าสู่การพิจารณาญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 31 ให้รัฐสภามีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ
โดย นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายว่า ในเรื่องนี้ตนเห็นว่ารัฐสภายังสามารถหาข้อยุติในเรื่องนี้ได้ด้วยกลไกของรัฐสภาเอง เช่น ปรึกษาหารือ แสดงความคิดเห็น หรือลงมติว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย กับดุลยพินิจของประธานรัฐสภา เมื่อมีมติอย่างไร ประธานรัฐสภาก็คงดำเนินการไปตามนั้น เราตีความอำนาจตัวเองได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร ดังนั้น เมื่อไม่มีเหตุจำเป็นต้องไปถามหรือขออนุญาตศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องที่เรามีอำนาจอยู่แล้ว ตนและพรรคก้าวไกลไม่สนับสนุน เนื่องจากจะเป็นการเปิดช่องให้ศาลฯ วินิจฉัยขยายอำนาจของตัวเอง หรือบางครั้งก็ตีความรัฐธรรมนูญเกินบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
"ปัจจุบันเราปฏิบัติต่อศาลรัฐธรรมนูญในลักษณะที่กำลังทำให้ศาลฯ กลายเป็นผู้ผูกขาดตีความรัฐธรรมนูญแต่เพียงผู้เดียวไปแล้ว ศาลฯ กำลังกลายเป็นรัฐธรรมนูญเสียเอง วินิจฉัยอย่างไรก็ได้ บางครั้งไปถามนักนิติศาสตร์ว่ามันตรงตามหลักกฎหมายหรือตรงตามรัฐธรรมนูญไม่ได้เลย แล้วก็อาศัยอำนาจอ้าง รวมถึงประธานรัฐสภาก็อ้างว่าคำวินิจฉัยศาลฯ ผูกพันทุกองค์กร บีบให้สถาบันทางการเมืองอื่นสยบยอมทั้งสิ้น ยอมจำนนกันหมด ดังนั้น หากพวกเรายังมีส่วนร่วมในการสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองแบบนี้ต่อไป ในอนาคตระบอบการเมืองที่ควรจะอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ จะกลายเป็นระบอบการเมืองที่ปกครองด้วยคำวินิจฉัยของศาลฯ ซึ่งเป็นระบอบอะไรก็ไม่รู้ การกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายไม่สำคัญเท่ากับการกระทำตามที่ศาลฯชอบ ถือเป็นเรื่องใหญ่" นายชัยธวัช กล่าว
นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า ตน และ ส.ส.พรรคก้าวไกล จึงขอสงวนความเห็นในที่ประชุมรัฐสภาแห่งนี้ ด้วยการงดออกเสียงในญัตติดังกล่าว ไม่ใช่เพราะต้องการจะขัดขวางการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และไม่ใช่การขัดขวางญัตติของนายชูศักดิ์ และคณะ เพราะตนเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ซึ่งมาจาก ส.ส.ฝั่งรัฐบาล มากพออยู่แล้ว การที่เรางดออกเสียงครั้งนี้เพื่อส่งเสียงเตือนให้รัฐสภาช่วยกันทบทวนแก้ไขระบบการเมืองในอนาคต เพื่อให้สถาบันการเมืองต่างๆ มีดุลยภาพ โดยมีอำนาจประชาชนเป็นอำนาจสูงสุด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี