‘หมอชลน่าน’ชี้คำสัมภาษณ์‘นายกฯ’เป็นมุมมอง ย้ำคำแถลงนโยบาย‘กัญชาเพื่อการแพทย์ -ศก.’เท่านั้น เผยรอชงกฎหมายเข้าครม.เพื่อควบคุม ชี้ดึงกลับบัญชียาเสพติดส่อวุ่น
เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศถึงความเป็นไปได้ที่อาจนำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด ว่า เรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นมุมมองของนายกรัฐมนตรี เพราะนโยบายที่รัฐบาล แถลงต่อรัฐสภา มีความชัดเจนว่า กัญชาหากจะนำมาใช้ต้องเป็นประโยชน์เพื่อการแพทย์หรือสุขภาพ และในมิติทางเศรษฐกิจ ก็จะต้องเป็นไปเพื่อทางการแพทย์ หรือสุขภาพ ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาและต้องปฏิบัติตาม
ส่วนข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ในขณะนี้นั้น นายแพทย์ชลน่าน ย้ำว่า กัญชาเป็นสารเสพติดเฉพาะสารสกัด ที่มีค่า THC 0.2% โดยน้ำหนักเท่านั้น นอกจากเหนือจากนั้น ไม่ถือเป็นยาเสพติด แต่หากการนำกัญชากลับมาเป็นสารเสพติด ก็จะต้องมีการแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่เคยประกาศถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และให้เพียงสารสกัดจากกัญชาเป็นเพียงยาเสพติดก่อน ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับนโยบายของนายกรัฐมนตรีว่า จะดำเนินการอย่างไร และกฎหมายควบคุมกัญชาขณะนี้ ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนการเตรียมการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว เพื่อรองรับต่อนโยบายกัญชา ที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา เพราะเมื่อกัญชาในปัจจุบัน ไม่ใช่ยาเสพติด ก็จะต้องมีกฎหมายควบคุม ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาที่ว่าด้วยเรื่องยาเสพติดระหว่างประเทศ ที่ระบุว่า หากประเทศใดไม่กำหนดให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติด จะต้องมีกฎหมายควบคุม และบังคับใช้ในลักษณะที่ไม่น้อยกว่าการเป็นยาเสพติด ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการในแนวทางนี้ และรัฐบาล จะมีกฎหมายกัญชง-กัญชามาใช้ควบคุมกัญชา นอกเหนือจากส่วนสารสกัด 0.2 %
นายแพทย์ชลน่าน ยังชี้แจงด้วยว่า กฎหมายกัญชง-กัญชาที่รัฐบาลกำลังจะออก หากใครจะนำกัญชง-กัญชามาใช้ ไม่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ หรือสุขภาพ ถือว่าเป็นการใช้ผิดประเภท
เมื่อถามว่าหากจะนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดน่าจะยากใช่หรือไม่นั้น นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า รัฐบาลมองประเด็นเรื่องผลกระทบ ซึ่งหากมีกฎหมายควบคุม ที่ไม่แตกต่างจากประกาศยาเสพติด ข้อกังวลถึงมิติสุขภาพ และการนำไปใช้ผิดประเภท ก็เป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังวล แต่หากจะนำกลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ก็จะต้องมีการรื้อระบบใหม่ และจะมีผลกระทบมากจากการที่ปล่อยให้ถูกกฎหมายไปก่อนหน้านี้ ทั้งเอกชน ร้านกัญชา และอื่น ๆ เช่น ผู้ที่ปลูกต้นกัญชา 1 ต้นในบ้าน ก็จะผิดกฎหมาย แต่กฎหมายใหม่ที่จะออกมาควบคุมนั้น การปลูก การผลิต จะต้องได้รับอนุญาต ร้านกัญชาที่เปิดอยู่จะผิดทั้งหมด เพราะร้านกัญชาที่เปิดอยู่ขณะนี้ ได้รับอนุญาตตามกฎหมายภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชาได้
อย่างไรก็ตาม แต่ตรงนี้ก็มีข้อที่เราเป็นห่วง เช่น การนำช่อดอกไปจำหน่าย จริงอยู่ว่า ช่อดอก ไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นสารเสพติด แต่การนำช่อดอกไปสกัด ก็สามารถสันนิษฐานได้ว่า มีปริมาณ THC เกิด 0.2% แน่นอน ดังนั้น กฎหมายใหม่ที่จะออก จะต้องมาควบคุมตรงนี้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี