เคลมผลงานยื้อเวลาปฏิรูปทหาร!!! "วิโรจน์"หยัน"รัฐบาลเศรษฐา" เอานโยบาย"ยุคลุงตู่"มาปัดฝุ่น จวกตัดงบซื้อเรือฟริเกต เหมือนตัดโอกาสประเทศ
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152
โดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า นโยบายรัฐบาลการปฏิรูปกองทัพ นายกฯ เคยให้คำสัญญาไว้ว่าจะเปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารให้เป็นรูปแบบสมัครใจ จะลดจำนวนนายพลลง และลดการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงจะเอาพื้นที่ที่เกินจำเป็นของกองทัพมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นแค่การสมยอมกับกองทัพ เพื่อปรุงแต่ง ตบตาประชาชน นโยบายที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำแล้ว ทำอยู่ มาทำต่อ แล้วใช้คำโฆษณาให้ประชาชนหลงเชื่อว่า นี่คือการปฏิรูปกองทัพแล้ว แม้รัฐบาลจะอ้างถึงยอดสมัครทหารออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อนำมารวมกับยอดสมัครแบบวอล์กอินแล้ว กลับมีแนวโน้มลดลง ส่วนการลดจำนวนความต้องการกำลังพลนั้นก็ไม่มีอะไรใหม่ แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ทำอยู่แล้ว คือ การบรรจุกำลังพล 70% ของความต้องการจริง การลดกำลังพลแบบต้วมเตี้ยมเช่นนี้ เป็นเพียงการซื้อเวลาการปฏิรูปกองทัพออกไป
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า จริงๆ โรงเรียนเตรียมทหารรับนักเรียนลดลงอยู่แล้ว 150 คนต่อรุ่นอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ควรฉกฉวยจำนวนดังกล่าวมาเคลมเป็นผลงาน เช่นเดียวกับโครงการ Early Retire ที่ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ตั้งแต่ปี 2563 สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แบบตั้งคำถามว่าหากโครงการนี้สำเร็จงบประมาณของกองทัพจะลดลงหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ดินราชพัสดุ 12 ล้านไร่ ถูกครอบครองโดยกองทัพถึง 6.25 ล้านไร่ มีที่ดินรกร้างหรือใช้ประโยชน์ไม่เต็มประสิทธิภาพ ที่ดินบางส่วนนำไปใช้ทำสวัสดิการธุรกิจ ทั้งสนามกอล์ฟ สถานพักตากอากาศ สนามมวย โดยไม่มีความโปร่งใส และกิจการของผู้กองทัพมีกำไรเพียงน้อยนิด ขณะที่ภาคเกษตรกำลังขาดที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง รัฐบาลเศรษฐาตั้งโครงการนำที่ดินของกองทัพมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ โดยตั้งชื่อว่า โครงการรัฐเอื้อราษฎร์ หรือ หนองวัวซอโมเดล แต่แท้จริงไม่ใช่โครงการใหม่ แต่ทำมาตั้งแต่ 2547 แทนที่รัฐบาลจะเร่งพิสูจน์สิทธิ์ให้ประชาชนที่ยืนยันว่าครอบครองที่ดินมาก่อนจะมีกฎหมายต่างๆ ด้วยซ้ำ กลับเอาโครงการเก่ามาปัดฝุ่นเปลี่ยนชื่อ แล้วบีบให้ประชาชนมาเช่าที่ดิน
"ควรพอได้แล้วกับการนำภาษีของประชาชนไปแลกอาวุธมาดื้อๆ แต่รัฐบาลควรมีข้อแลกเปลี่ยน หรือชดเชยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชน แต่เรือฟริเกต วงเงิน 1.7 หมื่นล้าน ที่กองทัพเรือขอจัดซื้อแต่ถูกตัดงบทิ้ง ทั้งที่เรือฟริเกตมีความจำเป็นในการคุ้มครองความมั่นคงทางทะเลมาก แล้วเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านตอนนี้กองทัพเรือของไทยมีประสิทธิภาพต่ำกว่าที่ควร การตัดงบประมาณเรือฟริเกตลำนี้ เป็นการตัดโอกาสการพัฒนาของประเทศ ตัดโอกาสด้านวิศวกรรมการต่อเรือของคนไทย แล้วกว่างบประมาณก้อนนี้จะเข้ามาใหม่ได้ ผมตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานก็ยังไม่พบ เป็นไปได้ว่างบประมาณปี 2568 ก็อาจจะยังไม่ทัน เข้าอีกทีก็ปี 2569 เพราะงบประมาณรายการการก่อหนี้ผูกพันวงเงินเกินตั้งแต่พันล้านขึ้นไปต้องผ่านหลายขั้นตอน" นายวิโรจน์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี