วันที่ 6 เมษายน 2567 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เปิดเวทีรับฟังปัญหา กลุ่มจังหวัดสกลนคร นครพนมและมุกดาหาร เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 ซึ่งจัดขึ้นที่ จ.สกลนคร โดยมีนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมต.กระทรวงการคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีรมต.กระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธี และผู้จัดงานครั้งนี้ได้แก่ สส.ชัยมงคล ไชยรบ เขต 5 สกลนครและ สส.วิริยะ ทองผา เขต1 จังหวัดมุกดาหาร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมดังนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตสกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน สภาอุตสาหกรรม หอการค้า และสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสกลนคร นครพนมและมุกดาหาร หอการค้าไทยเวียดนาม เทศบาลเมืองสกลนคร NGO และพ่อค้าแม่ค้าตลาด โต้รุ่งในจังหวัดสกลนคร
นายธีระชัย กล่าวว่า ปัญหาหนองหานควรเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดทำเป็นโครงการหนองหานโมเดล คล้ายEECที่มีกฎหมายเฉพาะให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการบริหาร
ทั้งนี้ ในการแก้ปัญหาหนองหานแบ่งเป็น2ระยะ ระยะสั้นแก้เรื่องบ่อบำบัดน้ำเสียก่อนระยะยาวต้องบูรณาการให้ 3 จังหวัดรวมถึงสวรรคเขตเป็นเนื้อเดียวกันเดินไปพร้อมกัน
ข้อเสนอแนะการปัญหาที่ดังนี้
ข้อที่ 1 ระบบการขนส่งหรือโลจิสติกส์ที่ใช้ในเรื่องการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศและการสร้าง HUB หรือศูนย์กระจายสินค้าเพื่อที่จะขนส่งไปยังประเทศลาวและเวียดนาม
ข้อที่ 2 ขาดการพัฒนาบุคลากรในทุกภาคส่วนของ 3 จังหวัดอีสานตอนบนเพื่อที่สร้างมาตรฐานความเท่าเทียมในการพัฒนาให้มีความเจริญทั้งในเรื่องการท่องเที่ยว การขนส่งและการศึกษารวมถึงการแพทย์ที่ทันสมัย
ข้อที่ 3 การพัฒนาภาคเกษตรกรรมจังหวัดสกลนครเรื่องของการพัฒนาพื้นที่หนองหานที่ไม่สามารถที่จะทำได้เพราะติดปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมายหลายมาตรา ความต้องการของประชาชนในจังหวัดสกลนครอยากจะให้ช่วยในเรื่องของการแก้กฎหมายและประสานงานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
ข้อที่ 4 เรื่องของการพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียของจังหวัดสกลนครซึ่งงบประมาณ 409 ล้านบาทที่เคยจะได้แต่ถูกตัดงบประมาณ จึงทำให้ การดำเนินการในการ จัดทำบ่อบำบัดน้ำเสีย
ข้อที่ 5 การพัฒนาฝีมือแรงงานและทักษะในการประกอบอาชีพเพื่อให้เกิดการค้าขายนำไปสู่การสร้างงานสร้างรายได้ โดยเฉพาะการพัฒนาการเลี่ยงโคขุนที่เป็นที่รู้จักของประชนชนทั่วไปให้ได้รับการแข่งขันไปยังตลาดต่างประเทศซึ่งปัจจุบันติดปัญหาด้านกฎหมายหารนำเข้าและส่งออกไปยังประเทศจีน
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวถึง แนวทางพรรคพลังประชารัฐ ต้องการกำหนดนโยบายที่ยึดโยงกับประชาชน โดยลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชนเพื่อจัดทำนโยบายรายภาค เมื่อวันที่ 3/3/2567 ได้ทำเวิร์คชอปสำหรับอีสานเหนือที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งตัวแทนภาคเอกชนได้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวนมาก ขอยกบางตัวอย่าง เช่น
1. ขอให้รัฐทุ่มลงทุนเพื่อแก้ปัญหาทั้งเรื่องน้ำแล้งและน้ำท่วม โดยสร้างทำทางน้ำไหลและแก้มลิง สร้างธนาคารใต้ดิน
2. ขอให้รัฐจัดเครื่องอัดฟางข้าวแจกเพื่อให้ชุมชนใช้ในการเพิ่มมูลค่า เพื่อจะลดการเผาฟางข้าว
3. ขอให้รัฐจัดให้นักท่องเที่ยวทั้งคนจีนและคนลาวที่ผ่านแดนมาจาก สปป.ลาว สามารถขอคืนภาษีที่ช้อปปิ้งในประเทศไทยได้ที่จังหวัดหนองคาย
4. ขอให้รัฐเร่งลงทุนสร้างระบบการขนส่งทางราง ทั้งในการเชื่อมโยงกับ สปป.ลาว และกับจังหวัดภายในอีสานเหนือ
5. ขอให้รัฐเร่งพัฒนาจุดพักจอดสำหรับรถบรรทุกขนส่งสินค้าบริเวณหนองสองห้อง
6. ขอให้รัฐสร้างถนนตัดใหม่จากอุดรไปบึงกาฬ ซึ่งจะช่วยย่นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร และจะมีประโยชน์ในการขนส่งสินค้าจากสปป.ลาว
7. ขอให้รัฐช่วยแก้ปัญหาลูกหนี้ที่มีประวัติที่เครดิตบูโรเคยค้างหนี้ ถึงแม้กลับเป็นลูกหนี้ปกติแล้ว ธนาคารไม่ยอมให้กู้ใหม่จนกว่าจะพ้นระยะเวลาสามปี
8. ที่จ.เลย ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รัฐควรพิจารณาการพัฒนาภูกระดึง โดยสร้างกระเช้า ซึ่งทีมเศรษฐกิจจะนำข้อมูลอันเป็นประโยชน์เหล่านี้ไปประกอบการจัดทำนโยบายรายภาคต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี