‘นายกฯ’ตรวจเยี่ยม‘สนามบินสมุย’ บอกข่าวดีเตรียมขยายรันเวย์ คาดเสร็จต้นปีหน้า รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ทั้ง Airbus 320 และ Boeing 737 ด้าน‘ชัยชนะ’โผล่รับอ้างไร้นัยการเมือง บอกมาเพื่อผลักดันประโยชน์ของประชาชนชาวนครศรีธรรมราช
8 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในการลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย. ว่า วันนี้ (8 เม.ย.67) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการปฏิบัติภารกิจ โดยหลังจากที่นายกรัฐมนตรี พักค้างคืนที่เกาะสมุยเป็นวันที่ 2 เช้าวันเดียวกันนี้นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา , นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานนานาชาติสมุย เพื่อหารือถึงแนวทางในการขยายรันเวย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตรวจเยี่ยมสนามบินสมุยก่อนออกเดินทางไปนครศรีธรรมราช น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับพี่น้องชาวสมุย ที่สนามบินสมุยได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างส่วนต่อขยายรันเวย์ คาดว่าจะเสร็จในต้นปีหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาในเรื่องของที่ดินและการลงทุน หากแล้วเสร็จจะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น Airbus 320 และ Boeing 737 และพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้มากขึ้น
“ผมได้ขอให้ทางจังหวัดพิจารณาเตรียมความพร้อมทางด้านระบบสาธารณูปโภค ให้สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยครับ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมายังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช เพื่อสักการะ พระบรมธาตุเจดีย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวไทย ก่อนปฏิบัติภารกิจที่ จ.นครศรีธรรมราช ตลอดทั้งวัน
วันเดียวกัน ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางมาร่วมต้อนรับนายเศรษฐา ในระหว่างการลงพื้นที่ พร้อมให้สัมภาษณ์ ว่า ตนมาในฐานะ สส.นครศรีธรรมราช จึงมาต้อนรับในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่ เนื่องจากนายรัฐมนตรีมาลงพื้นที่ในวันนี้
เมื่อถามว่าการมารอต้อนรับในครั้งนี้ อยู่ในช่วงกระแสจับมือกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาล นายชัยชนะ ยืนยันว่า ไม่มี ไม่ใช่เรื่องการเมือง อย่าไปคิดแบบนั้น ยังเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม ที่มาวันนี้ไม่มีนัยยะอะไร
ส่วนเป็นการผูกสัมพันธ์กับฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายชัยชนะ ย้ำว่า ไม่มี เพราะการที่เป็น สส. นครศรีธรรมราชก็เป็นหน้าที่ที่ต้องมารอรับนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ฉะนั้น อย่าไปมองว่าที่มารับต้องไปผูกพันหรือผูกมัดอะไร
เมื่อถามว่า จะถือโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องใดบ้าง นายชัยชนะ กล่าวว่า เมื่อเป็นตัวแทนของชาวนครศรีธรรมราช ก็จะพูดคุยเรื่องการพัฒนาจังหวัด อาทิ การนำพระธาตุสู่มรดกโลก เพราะต้องผลักดันให้ได้ และดันอำเภอทุ่งสง เป็นศูนย์กระจายสินค้า และต้องมีด่านศุลกากรให้ได้ รวมถึงถนนวงแหวนรอบนอก ก็ต้องทำให้แล้วเสร็จ และแหล่งท่องเที่ยวคีรีวงศ์ ก็ต้องทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ ย้ำว่า ต้องทำให้ได้จริง ๆ ไม่มีนัยยะทางการเมือง
นายชัยชนะ ย้ำว่า อย่ามองทุกอย่างเป็นมิติทางการเมือง แต่ต้องมองทุกมิติในการทำหน้าที่ ซึ่งตนมารับในหน้าที่ สส. พร้อมยืนยันว่า วันนี้ประชาธิปัตย์ ยังเป็นฝ่ายค้านอยู่ ฉะนั้นหากมองการเมืองตนจะไปไหนได้ ซึ่งท่านมาผมก็จะนำความเดือดร้อนของพี่น้องไปรายงานให้ท่าน พร้อมยืนว่า ไม่ได้เพราะมีข่าวที่จะร่วมรัฐบาล และวันนี้ตนก็ยังเป็นฝ่ายค้านอยู่
ส่วนกรณีที่ ก่อนหน้านี้นายชัยชนะ จี้ให้นายกรัฐมนตรีเปิดชื่อคนที่ปล่อยข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลนั้น นายชัยชนะ ระบุว่า ตนเชื่อว่านายกฯ พูดท่านก็ทราบอยู่แล้ว ว่าต้องพูดตอนไหน อย่างไร ซึ่งตนได้ถามไปแล้ว แต่นายกฯ จะตอบอย่างไรก็เป็นเรื่องของนายกฯ
เมื่อถามย้ำว่าคิดอย่างไรที่ช่วงนี่นายกฯ ลงพื้นที่ภาคใต้บ่อย และฝ่ายค้านอภิปรายว่านายกฯ ไม่ให้ความสนใจในพื้นที่ภาคใต้ นายชัยชนะ มองว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นายกฯ ให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคใต้ ท่านเป็นนายกฯ ของคนไทย 67 ล้านคน ซึ่งการลงพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดก็เป็นสิ่งที่ดี ฉะนั้น ตนที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน เมื่อมีผู้บริหารเข้ามาก็ต้องให้การต้อนรับ และนำเสนอสิ่งที่ประชาชนต้องการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี