‘ภูมิธรรม’ลั่น‘ทักษิณ’ยกดัมเบล แค่ออกกำลังกายกับหลาน วอนอย่าโยงการเมือง ชี้‘นายกฯเศรษฐา’ปลุกใจคนเพื่อไทยฮึกเหิมให้ สส.ชนะเลือกตั้ง ปัดตอบไม่รู้คนชวน‘ปชป.’ร่วมรัฐบาล โยนถาม‘เศรษฐา’จรดปากกาปรับครม.
เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 9 เม.ย.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการออกมาเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในในช่วงนี้ ว่า เท่าที่ตนดูนายทักษิณ ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แค่ออกมาว่ายน้ำกับลูกหลานในสระน้ำ เป็นเรื่องธรรมดาของคนในครอบครัว แต่เอามาวิจารณ์เรื่องการถือดัมเบลก็ไปกันใหญ่ ทั้งที่เป็นการออกกำลังกายในน้ำ การเดินในน้ำ ก็เป็นการออกกำลังกายที่อยู่ภายในบ้าน อย่าพยายามขยายให้เป็นประเด็นเพราะขณะนี้บ้านเมืองสงบดีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถาม ถึงกรณีที่นายทักษิณบอกว่าดีเอ็นเอ ของท่านปรากฏชัดในตัวน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จากนี้น.ส.แพทองธาร จะมีบทบาทอะไรเด่นขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณก็พูดความจริงเพราะพ่อก็ต้องดีเอ็นเอเดียวกันในทางวิทยาศาสตร์ ส่วนบทบาทในทางการเมือง น.ส.แพทองธาร ก็เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่นายทักษิณก็เป็นพ่อลูกทางสายเลือดแยกกันไม่ได้ อยู่ในบ้านเดียวกันทานข้าวร่วมกันเป็นเรื่องธรรมดา อย่ามองทุกอย่างการเมือง เรื่องนี้เป็นธรรมดาของชีวิตที่ต้องทานข้าวพูดคุยกับพ่อแม่ มีอะไรก็ปรึกษาพูดคุยกัน
ส่วนนายทักษิณก็พูดชัดอยู่แล้ว ถ้ามีเรื่องอะไรที่คิดว่าเป็นประสบการณ์ทางการเมืองที่ท่านมีอยู่ก็สามารถปรึกษาได้ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลหรือพรรคไหน อย่าไปมองว่านายทักษิณจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง นายทักษิณก็เป็นนายทักษิณเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่าเมื่อดีเอ็นเอ เดียวกันเป้าหมายจะเป็นนายกเหมือนกันหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อเป็นพ่อลูกกันก็ต้องดีเอ็นเอ เดียวกัน ส่วนเป้าหมายทางการเมืองและการทำงานต้องถามนางสาวแพทองธาร ว่ามีเป้าหมายทางการเมืองอย่างไร
เมื่อถามว่ากรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความมั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งแน่นอนมองว่าจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นความเชื่อใจและมั่นใจของสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน สิ่งที่นายกฯพูดสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำและกรรมการบริหารพรรคคิดแบบนี้ ดังนั้นถ้าสมาชิกพรรคยัง จับไม้จับมือร่วมกันด้วยดีไม่มีปัญหาเราชนะแน่นอน และผลงานจะเป็นตัวกำหนด
ผู้สื่อข่าวถามว่าทราบหรือไม่ว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์คือใครที่มาขอร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องไปถามพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าแสดงว่าไม่ได้ติดต่อมาทางนายกรัฐมนตรี กล่าวย้อนว่า “เขาก็ไม่ได้ติดต่อผมมาเหมือนกัน เรื่องนี้ผมไม่ทราบ ต้องถามคนให้ข่าว หรือถามจากทางประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์บอกว่ามีปัญหาอะไรก็ให้บอกมาแต่ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร”
เมื่อถามว่าถ้าจำเป็นต้องล้มพรรคก้าวไกลจะต้องจะต้องรวมพรรครวมพรรคต่างๆเข้ามาอยู่ร่วมกันหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า คำว่าจะล้มก้าวไกลหมายความว่าอย่างไร เพราะการลงเลือกตั้ง ต้องสู้กันทุกพรรค แต่ละพรรคก็ต้องเดินหน้า ส่วนจะไปรวมนั้นทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย ไปฮั้วกันไม่ได้แต่ถ้าหมายความว่าจะให้มาอยู่ซีกเดียวกัน การจะมาอยู่ซีกเดียวกันหรือไม่ซีกเดียวกันนั้น แค่ชั่วคราวเวทีเลือกตั้งอยู่แค่ชั่วคราว เพราะการเลือกตั้งต้องสู้ ไม่มีใครหรอกที่ลงเลือกตั้ง แล้วจะยอมฮั้วให้คุณชนะแล้วตนยอมแพ้ ไม่มีนะ เพราะลงสนามเลือกตั้งทุกคนอยากจะเข้าสู่ชัยชนะนำสิ่งที่ตนเองคิดและนโยบายไปให้ประชาชนรับรู้
ผู้สื่อข่าวถามว่า 314 เสียงของรัฐบาลถือว่ามั่นคงเพียงพอหรือยัง นายภูมิธรรมกล่าวว่านายกฯบอกว่ามั่นคง แล้วต้องถามนายกและต้องถามนายกเพราะนายกฯเป็นคนจรดปากกา เพราะนายกฯเป็นคนปรับ ครม. ส่วนจะใกล้หรือไม่ใกล้ปรับต้องถามนายกฯ ถามตนไม่ได้เพราะอำนาจอยู่ที่นายกฯคนเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายภูมิธรรม ระบุว่า ช่วงนี้ไม่ได้ไปไหน เพราะต้องเข้าออกโรงพยาบาลไปให้ยาฆ่าเชื้อ ซึ่งต้องให้ติดต่อกัน พร้อมกับเปิดแขนเสื้อพร้อมกับเปิดแขนเสื้อด้านซ้ายให้สื่อเห็นเข็มที่ยังเข็มที่ปักคาอยู่ที่แขนโดยมีผ้าพันโดยผ้าพันแผลพันไว้ และช่วงที่หายไปก็ไปนอนโรงพยาบาลมา5 วัน และต้องไปให้ยาฆ่าเชื้อตอนเช้าเป็นเวลาสัปดาห์
ผู้สื่อข่าวถามว่าแบบนี้อาจจะไม่ได้ไปเชียงใหม่ในช่วงสงกรานต์ในช่วงสงกรานต์ นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงไม่ได้ไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี