'ทักษิณ'ชี้รมต.ตบเท้ากินข้าวเย็นไม่มีนัยยะการเมือง แค่มารดน้ำดำหัวคนอายุ 75 ฝากบอกคนวิ่งเข้าหาปรับครม.'Nothing is permanent'ไม่มีอะไรเป็นสรณะ ขออย่าคิดมาก ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ปัดกลับนั่งศูนย์กลางอำนาจ บอกแค่คนวัยเบญจเพส อีก 25 ปีครบ 100 แจงคน'ปชป.'รู้จักกันดี แค่นั่งจิบกาแฟ ออกตัวครม.ที่ไม่พอ
เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2567 ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าช่วงเย็นวันนี้ (14 เม.ย.) จะไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านเลอค็อกดอร์ ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นนายกฯ ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่
ส่วนที่จะมีรัฐมนตรีหลายท่านมาพบด้วยนั้น มีนัยยะทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่หรอก มันเป็นประเพณี โดยเฉพาะตนเป็นคนเชียงใหม่ ประเพณีสงกรานต์เขาก็มารดน้ำดำหัวเป็นเรื่องปกติ ตนอายุ 75 แล้ว พวกที่อยู่ทั้งหลายตอนนี้อายุน้อยกว่าตนทั้งนั้น ที่อายุเยอะกว่าเห็นจะมีแค่ท่านสมศักดิ์ พงษ์พานิช ส่วนที่หลายคนมองว่าหากใครไม่มาเช็คชื่อ ก็คงไม่เป็นแบบนั้น ตนเป็นคนไม่จุกจิก และไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับท่านนายกฯ ซึ่งนายกฯ จะเป็นคนตัดสินใจเองว่าใครจะอยู่ใครจะไป
เมื่อถามว่า จะพูดอย่างไรให้รัฐมนตรีที่เข้าใจผิด ว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จนต้องวิ่งเข้าหา นายทักษิณ กล่าวว่า “Nothing is permanent" ไม่มีอะไรเป็นสรณะ เพราะมันก็มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มีตำแหน่งแล้วต้องหมดตำแหน่งก็เป็นเรื่องธรรมดาอย่าคิดอะไรมาก ระหว่างที่มีตำแหน่งอยู่ก็ทำให้ดีที่สุด สร้างชื่อเสียงให้กับบ้านเมืองไป
เมื่อถามว่า มีการมองว่านายทักษิณกลับมาจะเป็นศูนย์กลางอำนาจ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นศูนย์กลางของคนแก่ที่พวกรุ่นน้องๆ อยากมาปรึกษาหารือ ตอนนี้อายุ 75 ปีแล้ว เผลอแป๊บเดียวกลายเป็นคนแก่สุดแล้ว ถือว่าวันนี้เริ่มเข้าวัยเบญจเพส อีก 25 ปี ก็ครบ 100
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาล และมีการโยงชื่อของนายทักษิณว่าเป็นผู้คุยดีลนี้ นายทักษิณ ย้อนถามว่า “เหรอครับ ก็รู้จักกันทั้งนั้น ก็คุยการเมืองกัน หลายคนอยากทำงานให้บ้านเมืองแต่บางครั้งทุกอย่างก็มีจำกัด เก้าอี้รัฐมนตรีก็มี 36 รวมทั้งนายกฯ ด้วย ก็ต้องมีจำกัด ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ ตนไม่ทราบ ขอให้ไปถามนายกฯ ซึ่งการพบกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ก็กินกาแฟกันธรรมดา อย่างนายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยเป็นผู้สมัครสส.พรรคไทยรักไทย สมัยที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ๆ ก็เลยรู้จักกัน
เมื่อถามย้ำว่า แล้วที่คุยนั้นคุยกับหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรคหรือใคร นายทักษิณ ระบุว่า ไม่ ตนก็คุยกับคนรู้จัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี