'ไชยา'ไม่หวั่นปรับครม. บอก7เดือนเร็วเกินไป ลั่นปรับกี่ที'ก.เกษตรฯ'ต้องอยู่กับ'เพื่อไทย'

'ไชยา'ไม่หวั่นปรับครม. บอก7เดือนเร็วเกินไป ลั่นปรับกี่ที'ก.เกษตรฯ'ต้องอยู่กับ'เพื่อไทย'

วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567, 11.13 น.

'ไชยา'ไม่หวั่นปรับครม. บอก7เดือนเร็วเกินไป ยังไม่ได้ใช้งบขับเคลื่อนนโยบาย ลั่นจะปรับกี่ทีกระทรวงเกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย ย้ำฐานเสียงเพื่อไทยอยู่ที่ภาคอีสาน

เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่ ยืนยันว่าการขับเคลื่อนในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ถึงแม้กระทรวงเกษตรฯจะประกอบไปด้วยรัฐมนตรีจากพรรคต่างๆ แต่การทำงาน ก็ไม่มีอุปสรรค แม้ระยะแรกๆ อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างกว่าจะลงตัว กว่าจะเป็นทีมเดียวกันก็ใช้เวลา หลังจากนี้เมื่องบประมาณผ่านแล้ว ก็จะมีการขับเคลื่อนงานตามนโยบาย พร้อมย้ำว่าข่าวการปรับครม.ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณ และตนก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองตามตารางงาน ที่ได้วางแผนไว้แล้ว  


เมื่อถามถึงการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ รดน้ำขอพรนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุย เรื่องการปรับครม.หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ไม่มี ตนไปรดน้ำดำหัวและขอพรเท่านั้น 

เมื่อถามว่าหากถูกปรับจริงจะไม่เสียใจใช่หรือไม่ นายไชยา  กล่าวว่า เราเป็นนักการเมือง ตนไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น แต่ห่วงอย่างเดียวว่าปรับแล้ว หากเราวางเป้าว่าจะทำเพื่อการแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ประชาชนได้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล กระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงที่เราขับเคลื่อนนโยบายที่เราให้ความสำคัญ วันนี้งบประมาณปี 2567 ออกแล้ว งบประมาณปี 2568 กำลังจะพิจารณา ดังนั้นต้องแก้ไขปัญหาประชาชนให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องน้ำ ภาคอีสานต้องการเรื่องน้ำอย่างเดียว 

"ผมถามชาวบ้าน ผมเป็นผู้แทนมา 9 สมัย ชาวบ้านต้องการรถไฟลอยฟ้าหรือไม่ ต้องการรถไฟความเร็วสูงหรือไม่ เขาไม่ต้องการแต่เขาต้องการน้ำ เพราะฉะนั้น เมกะโปรเจกต์ที่ต้องทำในภาคอีสานคือการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมน้ำ น้ำแล้ง กรมชลประทาน โครงการน้ำโขง-ชี-มูล ผ่านการศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ปี 2563 งบประมาณมี แผนงานมี แต่ไม่มีการขับเคลื่อน ผมถึงบอกว่าการปรับครม.เที่ยวนี้ กระทรวงเกษตรฯ ต้องอยู่กับเพื่อไทย" นายไชยา กล่าว

เมื่อถามว่า เร็วเกินไปหรือไม่หากจะมีการปรับครม. ตอนนี้ นายไชยา กล่าวยอมรับว่า เร็วเกินไป เนื่องจากเราเพิ่งเข้ามา 7 เดือน งบประมาณ ที่เราใช้ไปพรางก่อนเป็นงบประจำ เป็นเงินเดือนค่าตอบแทน แต่งบลงทุนเราแทบไม่ได้ขับเคลื่อน 

เมื่อถามย้ำว่า กระทรวงเกษตรฯ ต้องอยู่กับพรรคเพื่อไทย มองว่าการปรับครม. ครั้งนี้ต้องรวมไปถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการด้วยหรือไม่ ที่ควรต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย  นายไชยา กล่าวว่า ตนมองในภาพรวม ในฐานะที่เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล กระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงที่อยู่กับวิถีชีวิตชาวบ้าน ฐานเสียงของเพื่อไทยอยู่ที่อีสาน ตอนนี้เราได้เสียงเป็นกอบเป็นกำที่อีสาน แต่เราตอบโจทย์คนอีสานเรื่องอะไรบ้าง เรื่องระบบชลประทาน เรื่องน้ำ เรื่องงบประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาทเกือบแสนล้านบาท ลงไปที่อีสานเท่าไหร่ เรื่องราคาพืชผลการเกษตร ข้าว เหล่านี้อยู่กับวิถีชีวิตของคนอีสาน องค์คาพยพของกระทรวงเกษตรฯ ทางด้านอุตสาหกรรม เปลี่ยนมายเซ็ทของเกษตรกร ว่าการผลิตทุกวันนี้ไม่ใช่การผลิตเพื่อปริมาณอีกแล้ว แต่เป็นการผลิตและวิเคราะห์ตลาดว่าต้องการอะไร เหล่านี้คำถามคือ องค์คาพยพ ของกระทรวงเกษตรฯ ได้ตอบโจทย์เหล่านี้เพียงพอหรือยัง 

"ถ้าจะปรับกันจริงๆ หรือเวลาจากนี้ไปจนกว่าจะถึงเลือกตั้งจะกี่ปีก็ช่าง ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผมนั่งตรงนี้ ใครก็ได้ที่เป็นของพรรคเพื่อไทย แม้แต่กระทรวงคมนาคม เรามีรัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยเป็นทีมเดียวกัน  วันนี้แม้เราจะอยู่ต่างพรรคก็ตาม เราก็ไม่มีปัญหา อันนี้พูดเชิงหลักการว่าเพื่อไทยเป็นแกนนำต้องขับเคลื่อนอย่างไร ผมอยากตอบโจทย์พี่น้องประชาชนที่เลือกผมมา" นายไชยา กล่าว 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top