วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘บิ๊กทิน’ซุ่มแก้ไขระเบียบกลาโหม  สกัดยึดอำนาจ!  เข้ม3ข้อกำหนด-คุมนายพล

‘บิ๊กทิน’ซุ่มแก้ไขระเบียบกลาโหม สกัดยึดอำนาจ! เข้ม3ข้อกำหนด-คุมนายพล

วันอาทิตย์ ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : บิ๊กทิน สุทิน คลังแสง
  •  

‘บิ๊กทิน’ซุ่มแก้ไขระเบียบกลาโหม

สกัดยึดอำนาจ!

เข้ม3ข้อกำหนด-คุมนายพล

เสื้อแดงขวางกลุ่มอำนาจเก่า

นั่งรมช.กห.หวั่นเสียมวลชน

ชทพ.โยนถามพท.ปรับครม.

“บิ๊กทิน” รมว.กลาโหม โชว์ผลงาน ชงแก้ระเบียบกลาโหม สกัดการยึดอำนาจ-รัฐประหาร เข้ม 3 ข้อกรองนายพล กำหนดสเปกไต่เต้าเข้าสู่ตำแหน่ง ต้องไม่มีมลทิน-ยกเลิกศาลจังหวัดทหาร ด้าน “วรชัย” อดีตสส.ปากน้ำ พท.-แกนนำเสื้อแดง ขวางกลุ่มอำนาจเก่านั่งรมช.กลาโหม หวั่นเสียมวลชนคนเสื้อแดง “สว.วันชัย” ชี้เปรี้ยง ดวง “ทักษิณ” มากับอาญาสวรรค์ศูนย์รวมอำนาจตัวจริงเสียงจริง จับตาปรับครม.
“วราวุธ” โยนถามเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 นายจำนงค์ ไชยมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกลาโหม รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่าในการประชุมสภากลาโหมวันที่ 19 เมษายน 2567ซึ่งมี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานสภากลาโหม ซึ่งมีการประชุมที่กองทัพอากาศ ได้เสนอให้สภากลาโหมเห็นชอบ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม(ฉบับที่...) พ.ศ.... และร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร(ฉบับที่...)พ.ศ....


แก้ระเบียบ-สกัดยึดอำนาจ

โดยมีสาระสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติมที่น่าสนใจ ดังนี้ 1.ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม มีการแก้ไขมาตรา 25 และมาตราอื่นๆโดยมีการ กำหนด เงื่อนไขการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล โดยให้กระทรวงกลาโหมกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งนายพลในแต่ละระดับไว้ 3 ประการ คือ

(1) ต้องไม่เคยมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพลหรือมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อม (2) ต้องไม่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือประกอบธุรกิจหรือกิจการ (3) ไม่อยู่ในระหว่างถูกสอบสวนทางวินัยหรือระหว่างถูกดำเนินคดีอาญา เว้นแต่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือความผิดลหุโทษ

นอกจากนี้ ยังให้อำนาจนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีคำสั่งให้พักราชการทันที เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าข้าราชการทหารผู้ใดที่ใช้กำลัง ทหารเพื่อยึด หรือควบคุม อำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาล หรือ เพื่อก่อการกบฏ และมีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องสมาชิกสภากลาโหม ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอำนาจแต่งตั้งซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 5 คน จากเดิมกำหนดไว้เพียง 3 คน และยังมีการแก้ไขอีกหลายมาตรา

ชงยกเลิกศาลจังหวัดทหาร

2. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ พระธรรมนูญศาลทหาร โดยมีการ ยกเลิก ศาลจังหวัดทหาร และให้ผู้เสียหาย มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาเองได้ ทั้งในเวลาปกติและเวลาไม่ปกติ และมีสิทธิอุทธรณ์ ได้โดยตรงต่อศาลทหารสูงสุด ในเวลาไม่ปกติ เว้นแต่อยู่ในสถานการณ์การรบ หรือสงคราม ซึ่งเดิม ในภาวะที่ไม่ปกติไม่สามารถอุทธรณ์ได้ซึ่งการแก้ไข กฎหมายดังกล่าวนี้ ก็เพื่อให้สอดคล้อง กับการบริหารราชการแผ่นดินในภาวะปัจจุบัน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกลาโหม กล่าวอีกว่า ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมที่ผ่านความเห็นชอบของสภากลาโหมในประเด็นสกัดการรัฐประหารนั้นเป็นแนวทางที่สังคม ภาคประชาชน และในส่วนของพรรคเพื่อไทยเอง คิดมานานแล้ว เมื่อนายสุทิน เข้ามาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมก็ได้มีคณะทำงานหารือกัน ในเรื่องนี้อย่างรอบด้าน มีตัวแทนขอทหารเข้ามาพิจารณาด้วยและเห็นชอบตรงกันก็เสนอเข้าที่ประชุมเมื่อวานนี้สภากลาโหมก็ได้ให้ความเห็นชอบ โดยผู้บัญชาการเหล่าทัพก็ไม่ได้แสดงความเห็นอะไร

แจงเหตุต้องแก้ระเบียบกลาโหม

“แน่นอนว่าการรัฐประหารยึดอำนาจ ก็ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ การไปเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร และจะให้เขียนเรื่องเหล่านี้ไว้ก็เป็นสิ่งที่ยาก เราจึงคิดกันว่าควรจะไปบัญญัติในกฎหมายรองมากกว่า หลักใหญ่ใจความคือเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงหรือมีข้อมูลที่จะมีการยึดอำนาจไม่ว่าจะเป็นทหารระดับไหน นายกรัฐมนตรีสามารถขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการระงับยับยั้ง หรือให้ผู้นั้นพ้นจากอำนาจหน้าที่ไปได้”นายจำนงค์ย้ำ และว่า หลักการนี้เป็นเรืองที่มีการพูดคุยกันของฝ่ายประชาธิปไตยมานานแล้วและต้องการให้เกิดกฎหมายในลักษณะนี้ขึ้นมาจึงต้องดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ขั้นตอนต่อไปก็จะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีและนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาต่อไป

เสื้อแดงหนุนปรับคนถูกฝาถูกตัว

ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า การปรับครม.ส่วนตัวมองว่า มีความจำเป็นต้องเอาคนที่ถูกฝาถูกตัวกับเนื้องานมาช่วยงานนายกฯ ในการบริหารมากยิ่งขึ้น แล้วเอาคนที่ได้ตำแหน่ง เพราะเหตุผลทางการเมืองในการตอบแทนการทำงานให้พรรคเพื่อไทยในระยะเวลาที่ผ่านมาแล้วได้เป็นรัฐมนตรีกว่า8เดือนแต่งานไม่ออก ออกไป

“เพราะวันนี้ประเทศต้องการคนที่มีความรู้ ความสามารถ ตรงกับเนื้องานจริงๆเข้ามาทำงานไม่เช่นนั้นแล้วรัฐบาลจะไม่มีผลงานเพื่อใช้สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้และเรื่องที่สำคัญที่สุดในการปรับครม.ครั้งนี้ เราเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมรัฐบาลก็จำเป็นต้องปรับคนของแต่ละพรรคให้มีผลงานออกมา เป็นเนื้อเดียวกันในการแก้ปัญหาวิกฤติของชาติไปให้ได้”

ขวางกลุ่มอำนาจเก่านั่งรมช.กห.

แกนนำคนเสื้อแดง ยังระบุว่า ที่สำคัญที่สุด พรรคการเมืองบางพรรค ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอำนาจเดิม ที่ยึดอำนาจมาจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯอย่าเอาคนที่มีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจกับการปราบปรามสลายม็อบคนเสื้อแดงจนมีการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บมากมายรวมถึงมีส่วนร่วมกับการยึดอำนาจเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเพราะจะทำให้พี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตยและยืนเคียงข้างพรรคเพื่อไทยผิดหวังแล้วจะทำให้คนกลุ่มนี้หันหลังให้กับพรรคเพื่อไทยในที่สุด

“ประกอบกับกระแสข่าวที่นายกฯจะไปนั่งรมว.กลาโหมแล้วให้พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรมว.กลาโหมเป็น รมช.กลาโหม จะทำให้อำนาจคุมกองทัพ กลับไปอยู่กับกลุ่มทหารเดิมที่เคยมีส่วนร่วมกับการยึดอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ และอาจเกิดการสะสมกำลัง รอคอยโอกาสเวลาที่เหมาะสมที่รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง สร้างเงื่อนไขหาเหตุผลในการยึดอำนาจจากฝ่ายประชาธิปไตยได้อีกครั้ง”นายวรชัยย้ำ

ชี้ดวง‘แม้ว’มากับอาญาสวรรค์

ขณะที่ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความหัวข้อ”ใครจะปฏิวัติ” บนเพจเฟซบุ๊ก ทนายวันชัย สอนศิริว่า มีหมอดูบางคนบอกว่าดวงของคุณทักษิณ ในเดือนกันยายน 67 อาจเกิดการรัฐประหาร เหมือนที่เคยโดนมาแล้ว ขึ้นเร็ว ลงเร็ว และดวงชะตากำลังใกล้ถึงฆาตว่าไปนั่น! ผมว่าหมอดูพวกนี้ ใช้ข้อมูลความคิดและความรู้สึกแบบเก่าๆผสมกับอารมณ์ตกค้าง ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวและบริบททางการเมือง

“คุณทักษิณออกจากคุกในวันที่ดาวจันทร์เป็นมหาอุจจ์เป็นจันทร์ส่องหล้าและมากับเสาร์ 5 ทั้งแข็งและแรง ดาวพฤหัสก็ย้ายและดาวใหญ่ๆ ก็มาชุมนุมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เป็นความศิวิไลซ์แห่งประเทศ ความอาเพศ ความวิบัติมลายหายสิ้นไป.. เขามากับอาญาสวรรค์ ไม่ใช่ภารกิจส่วนตัว หรือครอบครัว แต่เป็นภารกิจที่จะต้องเอาความรู้ความสามารถ ประสบการณ์มาช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ สังคม และประชาชน”

ตอกย้ำเป็นศูนย์รวมอำนาจตัวจริง

สว.วันชัยยังระบุอีกว่า จึงชัดยิ่งกว่าชัด เขากำลังขยับเข้ามา มีบทบาทมากขึ้น และเขาคือ ศูนย์รวมของอำนาจตัวจริงเสียงจริง จะไม่ปล่อยให้เป็นก๊ก เป็นก๊วน เหมือนเก่า ต้องมากำชับ กำกับอำนาจให้เป็นเอกภาพ โดยเฉพาะรัฐบาล พรรคและมวลชน ต้องเข้มแข็งยิ่งใหญ่รองรับกับการขับเคลื่อน และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตามที่เขาประกาศเมื่อวันสงกรานต์ว่า เมื่อได้งบประมาณ บ้านเมืองจะดีขึ้นและปีหน้าก็จะเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น... เรื่องปรับครม.และการปรับเปลี่ยนข้าราชการประจำ จึงเป็นเรื่องที่ตามมา ทั้งเรื่องอื่นๆอีก

“หมอดูทั้งหลายพึงรู้ไว้ว่าในเดือนกันยายน 67นั้น นักโทษชายทักษิณ เขาพ้นโทษแล้ว เขารัฐประหารตัวเองเป็นอิสระแล้ว ใครจะมารัฐประหารเขาอีกล่ะ...อย่างนี้พวกหลงโรง คงจะอกแตกตาย มีทางเดียว...ต้องไปกราบหลวงพ่อสัมฤทธิ์ประสิทธิโชค วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชันเท่านั้น!”สว.วันชัย ระบุทิ้งท้าย

‘วราวุธ’รับไร้สัญญาณปรับครม.

ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึง การพูดในห้องประชุม ว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ดูแลงานสิ่งมีชีวิตมาหมดแล้ว ตั้งแต่ 4 เท้า ถึง 2 เท้า ไม่รู้ว่าอนาคตจะมีเท้าหรือไม่ ว่ายังไม่ได้รับการส่งสัญญาณเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี แต่ในความหมายที่พูด คือในอนาคตหากทำงานในมิติอื่นๆ อาจจะไม่มีเท้าเลยก็ได้ เราคาดเดาไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนมีการพูดคุยกับพรรคร่วมหรือยัง ไม่สามารถตอบแทนพรรคอื่นได้ แต่ในส่วนของพรรค ยังไม่ได้มีการหารือ ส่วนมั่นใจว่าจะได้อยู่ที่เดิมหรือไม่นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่ได้มั่นใจ เพราะยังไม่รู้ ยังไม่มีการติดต่อ ก็ทำงานอย่างเต็มที่

ส่วนรัฐมนตรีที่มีชื่อว่าถูกปรับเริ่มมีการหวั่นไหวเหมือนถอนใจแล้ว พรรคชาติไทยพัฒนายืนยันยังไม่ได้รับสัญญาณใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า“ถึงจะมีสัญญาณ หรือ ไม่มีสัญญาณ แต่ตราบใดที่ยังดำรงตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อยู่ ก็จะทำงานจนถึงนาทีสุดท้าย ถึงแม้มีข่าวว่าจะปรับออก หรืออย่างไรก็แล้วแต่ ตราบใดที่ยังใส่หมวก รัฐมนตรีพม. กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน เราก็จะทำงานจนถึงนาทีสุดท้าย”

โยนถาม‘เพื่อไทย’พรรคแกนนำ

“ผมไม่สามารถตอบแทนรัฐบาลและพรรคแกนนำได้ ว่า ทำงานมา7 เดือน ถึงเวลาต้องปรับครม.หรือไม่ พรรคเพื่อไทย ต้องเป็นผู้ตอบคำถามนี้ แต่ยืนยันในส่วนของพรรค 7 เดือนที่ผ่านมา เรามีผลงานมากมาย เปลี่ยนมิติการทำงานของกระทรวง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” นายวราวุธ กล่าวว่า

นายวราวุธยังกล่าวถึงการปรับตัวของพรรคชาติไทยพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองให้พรรคคงอยู่ต่อไปว่าตนคิดว่าหัวใจสำคัญของการทำงานการเมืองคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงในงานที่เราทำ

จนถึงวันนี้ตนเชื่อว่าประชาชนได้เห็นแล้ว ไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในกระทรวงใด เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นมิติด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือวันนี้ที่เราดูแลกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราเปลี่ยนมิติการทำงานของกระทรวงจากเชิงรับเป็นเชิงรุกทำงานในรูปแบบ

ลั่นทำให้คุณภาพชีวิตปชช.ดีขึ้น

“กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หนึ่งเดียว ดังนั้น การทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาเราเป็นนักปฏิบัติอยู่ที่ใด เราก็สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดคุณประโยชน์มากที่สุดให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการเมืองสมัยใดก็แล้วแต่ เป้าหมายของการเมือง คือ การทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น และตนคิดว่าเราได้ทำออกมาเป็นรูปธรรมอย่างที่สุดให้ประชาชนได้เห็น

ส่วนการวางยุทธศาสตร์ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในพรรคชาติไทยพัฒนามากขึ้นใน นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้เรามีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในระดับหนึ่งแล้วรวมถึงมีการปรับปรุงการสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆมีทีมโฆษกหน้าใหม่และมีสุภาพสตรีเข้ามาร่วมด้วย เป็นการปรับการทำงานการทำงานของพรรคร่วมกับการคงอยู่ของผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ยังอยู่ในพรรคชาติไทยพัฒนา

เมื่อถามว่าพรรคชาติพัฒนามีความมั่นใจจากสู้กับพรรครุ่นใหม่ไฟแรงที่มีอยู่ในตอนนี้ได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า”เรื่องงานเราไม่เคยกลัว ถ้าพูดกันถึงเรื่องงานนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาเราทำงานไม่เคยแพ้ใคร เรามั่นใจว่าเราสู้ได้แน่นอน”

ปชป.ซัดรบ.ถ่วงเวลามานานแล้ว

ด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวถึงกรณีการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่าหลักการของพรรคชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญต้องแก้ไขเพิ่มเติมให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากกว่าฉบับปัจจุบันขณะนี้มีการถกเถียงเรื่องการทำประชามติว่าต้องดำเนินการกี่ครั้ง รัฐบาลก็ต้องตัดสินใจ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลได้ประกาศต่อประชาชนว่าจะทำอย่างเร่งด่วน ก็ต้องยอมรับว่ารัฐบาลพยายามถ่วงเวลามานานแล้ว

นายราเมศ กล่าวว่าหากพิจารณารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันระบุไว้ชัดว่า ให้มีการทำประชามติ หลังจากพิจารณาครบสามวาระแล้ว ให้ไปทำประชามติก่อน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 256 (8) มีบทบัญญัติเป็นกรณี เฉพาะที่ไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญฉบับใดที่ได้บัญญัติไว้ว่าหากมีการแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด 15 อันว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ตามกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และผลการออกเสียงประชามติ เห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมจึงจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามที่เสนอได้ คือ การจัดตั้งส.ส.ร. เมื่อ ส.ส.ร.ร่างเสร็จแล้วก็ต้องไปถามประชาชนโดยการออกเสียงประชามติอีกครั้ง ก็ถือว่าสมบูรณ์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดซึ่งหากเพิ่มการถามประชามติก่อนดำเนินการในสภา ก็จะไม่สอดคล้องกับหลักการของรัฐธรรมนูญ

“ขณะนี้บางฝ่ายพยายามดึงศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นคู่กรณีด้วยในทางการเมือง ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแต่หากไปศึกษาคำวินิจฉัยโดยละเอียดจะเห็นว่าคำวินิจฉัยไม่ได้เป็นอุปสรรค แต่อุปสรรคอยู่ที่ฝ่ายปฏิบัติที่ไม่กล้าในการตัดสินใจ”โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ย้ำ

ย้ำจุดยืนต้องไม่แตะหมวด1-2

พร้อมย้ำจุดยืนว่าในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันหลักการเดิม คือ รัฐธรรมนูญต้องมีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ การแก้ไขเพิ่มเติมมีความจำเป็นต้องทำ และการแก้ไขจะต้องไม่ไปกระทบกับหมวด1และหมวด 2 จึงต้องเรียกร้องให้รัฐบาลรีบตัดสินใจอย่ายื้อเวลา แต่ถ้าคิดว่าระบบประชาธิปไตย คือเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจ รัฐบาลก็ยื้อเวลาต่อไป

‘ธนกร’จี้กมธ.ไม่รวมผิดม.110,112

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย สรุปให้ชัดเจนเกี่ยวกับคำนิยามเรื่อง “แรงจูงใจทางการเมือง” และความผิด 25 ฐานที่มีมูลเหตุจากแรงจูงใจทางการเมืองใดว่าเข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรมบ้าง

โดยขอให้พิจารณา ไม่รวมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 และมาตรา 112 ซึ่งเกี่ยวกับการประทุษร้ายหมิ่นประมาทฯสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือรัชทายาท ขอให้กมธ.อนุกมธ.พิจารณาให้รอบคอบ เพราะความผิดทั้ง 2 มาตรา เป็นความผิดร้ายแรง กระทบต่อความมั่นคงของรัฐซึ่งประมุขของประเทศซึ่งไม่สามารถยอมรับได้ แม้ บางพรรคการเมืองได้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่รวมความผิดเกี่ยวกับมาตราดังกล่าวให้ได้รับการนิรโทษกรรมต่อสภามาแล้วก็ตาม แต่ตนขอย้ำในหลักการกฎหมาย ว่าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งและขอคัดค้านจนถึงที่สุด เนื่องจากสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้

ชี้เหมารวมยกเข่งเจอคัดค้านแน่

“ขอเรียกร้องไปยังกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พิจารณาตามหลักกฎหมายให้ดี ให้ถูกต้อง รอบคอบ เพื่อสรุปกำหนดนิยาม เรื่อง แรงจูงใจทางการเมือง ต้องไม่เหมารวมผู้กระทำความผิดร้ายแรงตามมาตรา110 และ112 ให้ได้รับการนิรโทษกรรม แต่หากกลับกันมีการเหมารวมยกเข่ง เชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้คนทั้งประเทศที่รักเทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ออกมาคัดค้านในเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอนรวมทั้งผมด้วย“นายธนกร ระบุ

‘หมอวรงค์’ซัดแจกเงินดิจิทัลปัญหาอื้อ

วันเดียวกันอีกประเด็นหนึ่ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า#ประชาชนต้องการเงินสดหรือเงินดิจิทัล คำถามที่ต้องอธิบาย ทำไมจึงคิดว่าเงินดิจิทัลของรัฐบาลเศรษฐามีแต่จะสร้างปัญหา เมื่อเทียบกับการแจกเงินสดที่ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้ปกติ เราต้องเอากฏเกณฑ์มาอธิบายนั่น คือเงินดิจิทัลไม่สามารถใช้จ่าย ได้ทุกอย่างเหมือนเงินสด เช่นจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซื้อแก๊สหุงต้ม เติมน้ำมัน ซื้อเหล้าบุหรี่ จ่ายค่าโทรศัพท์ ซื้อของออนไลน์ รวมทั้งห้ามใช้หนี้ เฉพาะสิ่งเหล่านี้คือปัจจัยพื้นฐานของประชาชน นอกจากนี้ เงินดิจิทัลกว่าจะมาแปลงเป็นเงินสดได้ต้องเอาเงินจำนวนนั้น ไปใช้ต่อให้ครบสองรอบจึงสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ สิ่งที่น่าแปลกใจ ถ้ารัฐบาลอยากแจกเงินทำไมต้องแปลงไปเป็นเงินดิจิทัลและแปลงกับมาอีกให้เป็นเงินสด ทำไมไม่แจกเงินสด ไม่ต้องเสียค่าทำแอพ โปร่งใสหรือมีอะไรแอบแฝงแต่ที่แน่ๆประชาชนจะยุ่งยากขึ้น

หวั่นเกิดทุจริตครั้งใหญ่ของไทย

1.ถ้าประชาชนต้องการเงินสด จะเกิดการขายเงินดิจิทัล เป็นเงินสดและประชาชนจะได้เงินสดน้อยลง เนื่องจากต้องมีการนำไปขายต่อ ถึงสองรอบ ประชาชนจึงถูกหักสองครั้ง 2.ร้านค้ารายย่อย ตลาดนัด แผงลอย แม้จะขายได้เงินดิจิทัล และเอาไปซื้อสินค้าทุน มาลงทุนวันต่อไป แต่เงินกำไรที่จะเป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐาน เช่นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ซื้อแก๊สหุงต้ม หรือแม้แต่ใช้หนี้ จะใช้ไม่ได้เลย สุดท้ายต้องเอาเงินดิจิทัล ไปขายเป็นเงินสด

3.ผลพวงจากข้อ 1 และ ข้อ 2 จะมีการนำเงินสีเทา มาเข้าระบบ เพื่อรับแลกเป็นเงินสดกระจายไปทั้งประเทศ จะเกิดการทุจริตครั้งใหญ่ของประเทศ 4.จากอุปสรรคที่กล่าว เป็นเรื่องปกติที่สินค้าจะราคาแพงขึ้น เพราะร้านค้ารายย่อย ต้องเพิ่มราคาสินค้าไว้สำหรับถูกหัก เมื่อต้องการแลกเงินสด

อุ้มเจ้าสัว-ฟันธง!ปชช.ต้องการเงินสด

5.ธุรกิจสะดวกซื้อ รายใหญ่ จะมีผลประโยชน์สูงมาก เพราะเงินดิจิทัล ในปลายทางสุดท้ายจะมากองที่กลุ่มนี้จึงไม่แปลกที่จะบอกว่า โครงการนี้นอกจากโกงแล้ว ยังอุ้มเจ้าสัว 6.ในระหว่างที่มีเงินดิจิทัลในตลาด และมีเงินสดในตลาด จะเกิดเงินสองระบบขึ้นมาทันที จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของค่าเงินบาท เพราะมีเงินดีกับเงินเลวผสมกันไป แทนที่จะมีเงินบาทปกติระบบเดียว 7.ปัญหานี้ยังไม่นับรวม คนไทยที่อยู่ต่างประเทศนับล้านคน นักโทษในเรือนจำร่วมสามแสนคน สิ่งเหล่านี้ ในระบบเราจะตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย

ที่กล่าวมาข้างต้น ผมจึงยืนยันว่า ประชาชนไม่ต้องการเงินดิจิทัล แต่ต้องการเงินสด เงินดิจิทัลจะสร้างความเสียหายตามมาอีกมาก หรือรัฐบาลจะให้สำนักโพลที่ไหนทำดูก็ได้ ว่า “ต้องการเงินสดหรือเงินดิจิทัล”

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สุทิน’ เย้ย ฝ่ายค้านซักฟอกครึ่งวันแรก มีแต่นามธรรม กล่าวหาลอยๆ คาดหวังไม่ได้ ‘สุทิน’ เย้ย ฝ่ายค้านซักฟอกครึ่งวันแรก มีแต่นามธรรม กล่าวหาลอยๆ คาดหวังไม่ได้
  • ทีมงาน\'ทวี\'สยบข่าวโยก\'พีระพันธ์\'เสียบ รมว.ยุติธรรม บอกไม่มีการพูดคุยกัน ทีมงาน'ทวี'สยบข่าวโยก'พีระพันธ์'เสียบ รมว.ยุติธรรม บอกไม่มีการพูดคุยกัน
  • นายกฯนำคณะถึงกรุงโดฮา ร่วมการประชุมโชว์วิชั่นเวที ACD ครั้งที่ 3 นายกฯนำคณะถึงกรุงโดฮา ร่วมการประชุมโชว์วิชั่นเวที ACD ครั้งที่ 3
  • \'แพทองธาร\'สั่งตั้ง\'ศปช.ส่วนหน้า\'ที่เชียงราย ให้\'มท.4\'อยู่ประจำหน้างาน 30 วัน 'แพทองธาร'สั่งตั้ง'ศปช.ส่วนหน้า'ที่เชียงราย ให้'มท.4'อยู่ประจำหน้างาน 30 วัน
  • เปิดคิวงาน‘นายกฯอิ๊งค์\'เตรียมบินต่างแดน ประเดิมโชว์วิชั่นเวทีประชุมผู้นำที่กรุงโดฮา เปิดคิวงาน‘นายกฯอิ๊งค์'เตรียมบินต่างแดน ประเดิมโชว์วิชั่นเวทีประชุมผู้นำที่กรุงโดฮา
  • รองนายกฯ-รมต.เด้งรับนโยบาย\'นายกฯอิ้งค์\'แห่กันลงพื้นที่ประสบภัยด้วยเอง รองนายกฯ-รมต.เด้งรับนโยบาย'นายกฯอิ้งค์'แห่กันลงพื้นที่ประสบภัยด้วยเอง
  •  

Breaking News

เริ่มแล้ว!!! การแข่งขันเรือใบ Trat Regatta 2025 ระดับนานาชาติครั้งแรกในจังหวัดตราด

'โฆษก​ มท.'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม'คุณลูกค้า'แทน'คุณลุง​-​คุณป้า'

ด่วน!เปิดชื่อ 55 สว. เรียกรับทราบข้อหาปม'คดีฮั้ว' แบ่งเป็น 3 ลอต

ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved