เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2567 เพจเฟซบุ๊ก "ไทยคู่ฟ้า" ได้เผยแพร่ข้อความพร้อมภาพอินโฟกราฟฟิกเกี่ยวกับหลักการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยระบุว่า "ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) (23 เม.ย.67) เห็นชอบกรอบหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
- กลุ่มเป้าหมายต้องมีคุณสมบัติ เช่น มีอายุเกิน 16 ปี ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี และเป็นผู้มีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท
- แนวทางการเข้าร่วมโครงการฯ เช่น กลุ่มผู้ใช้สิทธิต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ และใช้แอปพลิเคชันเพื่อสแกน QR Code ณ ร้านค้าในพื้นที่ตามทะเบียนบ้าน
- เงื่อนไขการใช้จ่าย เช่น ให้ประชาชนใช้จ่ายแบบพบหน้า (Face to Face) เพื่อซื้อสินค้ากับร้านค้าขนาดเล็กในพื้นที่เท่านั้น (การใช้จ่ายรอบที่ 1) แต่ไม่รวมถึงบริการทั้งนี้ ไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ระหว่างร้านค้ากับร้านค้าในระดับอำเภอ
- เงื่อนไขการถอนเงินสดจากโครงการฯ ของร้านค้า เช่น ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ซึ่งร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย
- หน่วยงานผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนร้านค้า
- แหล่งเงินในการดำเนินโครงการฯ 500,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
*เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท
*การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท
*การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท
- ระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ต้องไม่เกินเดือนกันยายน 2569
พร้อมเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการฯ โดยมอบหมายให้ กค. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ คกก. นโยบายฯ นำเสนอเรื่องต่อ ครม. ต่อไป"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี