“พัชรวาท”การันตี“บิ๊กป้อม”ไม่เกี่ยวปมเอกสารหลุดอักษรย่อ“ส.”ขอช่วยดันนั่งกรรมการป.ป.ช.ยกพี่ชายใจดีคนเข้าหาเยอะมั่นใจไม่ช่วยคนทำผิด ด้านทนายตั้มย้ำ 2 มาตรฐานเล่นงาน“บิ๊กโจ๊ก”ถึงขั้นออกราชการ แต่อุ้ม“บิ๊กต่อ”เตรียมขนเอกสารเส้นทางเงินเพิ่มเติมให้พนักงานสอบสวน
เมื่อวันที่ 23เมษายน2567 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีมีเอกสารหลุดที่มีเนื้อหาพาดพิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ฝากให้อักษรย่อ ส. เป็นกรรมการ ปปช.ว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร เป็นการส่วนตัว ซึ่งเรื่องนี้พล.อ.ประวิตร ก็ตอบไปแล้วเมื่อถามว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประวิตร ที่เข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระหรือการแต่งตั้งหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า “ลุงป้อมไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวหรอก มีแต่คนไปหา คนที่ไปหาจะดำเนินการอะไรหรือไม่ ก็เชื่อว่าเขาไม่เคยยุ่ง” ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุมีหนึ่งใน คณะกรรมการ ป.ป.ช. อักษรย่อ ส. ไปพบพล.อ.ประวิตร นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ระบุสั้นๆว่า ก็ขอให้ไปถามพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เอง
เมื่อถามว่าที่มีบุคคลเข้าไปพบกับ พล.อ.ประวิตร บ่อยๆแต่ไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ใครก็ไปพบท่านเยอะ ท่านใจดี เมื่อถามย้ำว่า แต่จะช่วยเหลือเป็นอีกเรื่องหนึ่งใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท ระบุว่า อะไรที่ผิดจะช่วยเหลือได้อย่างไรสำหรับเอกสารที่หลุดมาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปร้องกับ ป.ป.ช. ถือว่าสอดคล้องกันหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า จะสอดคล้องหรือไม่ ขอให้ไปสอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
ที่สำนักงานSittra Law firm นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน แถลงข่าวกรณี 2บิ๊กตำรวจพัวพันคดีฟอกเงิน เหมือนกัน แต่กลับถูกดำเนินคดีแบบสองมาตรฐาน ว่า ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนเองไม่ได้ทำเพื่อชาติ แต่เป็นการทำเพื่อพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ตนเองมีความสนิทสนมนานหลายปี แต่ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีเรื่องเพื่อนพี่น้อง เป็นการทำเพื่อชาติ ใครจะโกรธก็ต้องโกรธตนจะดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายให้ถึงที่สุด
ต่อมา นายษิทรา ได้เปิดแผนผังแสดงความเชื่อมโยงระหว่างบัญชีม้าจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ BNK Master ที่มีความเชื่อมโยงไปถึงบิ๊กตำรวจทั้งสองคน โดยกรณีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์นั้น พบว่ามีเงินจากเว็บพนันออนไลน์โอนเข้าบัญชีม้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาถืออยู่จำนวน 4 บัญชี และโอนไปยังบัญชีครอบครัว รวมทั้งมีการโอนไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใจกลางกรุงเทพมหานครจำนวน 4 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับครอบครัว และยังมีการโอนเข้าไปยังบัญชีของน้องชายและแม่เดือนละ 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีอาญากับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องของวินัยนั้นตนไม่ทราบรายละเอียดขั้นตอน แต่มองว่าเป็นการทำงานแบบเป็นขบวนการเร่งรัดให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ก่อนที่ตำรวจจะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.อีกครั้ง
ขณะที่การดำเนินคดีของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์นั้น ตนได้นำพยานหลักฐานทั้งเส้นทางการเงินและอื่นๆไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ปปป.) แต่ยังไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวนอ้างว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบ เส้นทางการเงินและตรวจสอบต้นทางของบัญชีต่างๆ ซึ่งมองว่า เป็นการดำเนินการสองมาตรฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พร้อมตั้งคำถามว่าพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์รรท.ผบ.ตร. และพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. จะกล้าดำเนินคดีกับผู้บังคับบัญชา คือบิ๊กต่อหรือไม่ ทั้งที่หลักฐานที่ตนเองนำไปส่งให้นั้นชัดเจนว่ามีการโอนเงินจากบัญชีม้าไปยังภรรยาของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และเครือญาติชัดเจน ทั้งยังพบว่าเงินถูกใช้จ่ายเป็นค่านิติบุคคลให้กับคอนโดมิเนียม 3 แห่ง รีสอร์ทหรูชื่อดังที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรถอีกหลายคัน แต่ไม่ขอระบุว่าเจ้าของอสังหาฯดังกล่าวเป็นใคร เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาครอบครัว
นายษิทรา ย้ำว่า ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ต้นทางมาจากบัญชีม้าบัญชีหนึ่งชื่อณัฐพงศ์ มีเงินเข้าจากเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เฉพาะบัญชีนี้เดือนละ 80 ล้านบาทยอดรวมทั้งหมดมีมากกว่า 800 ล้านบาท และพบว่าเงินจากบัญชีนี้ถูกโอนต่อเป็นทอด และเชื่อมโยงไปยังปลายทางคือบัญชีของเครือญาติและคนสนิทพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ในลักษณะเดียวกันกับกรณีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงเป็นเหตุให้ตั้งข้อสงสัยว่า การดำเนินการของพนักงานสอบสวนมี 2 มาตรฐาน พร้อมตำหนิการทำงานของพนักงานสอบสวน
นายษิทรา ตั้งคำถามว่า การที่ไม่มีใครกล้าดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เนื่องจากมีเบื้องหลังดีหรือไม่ และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็ไม่กล้ายุ่งเช่นกัน ขอให้ประชาชนช่วยสนับสนุนตนเองด้วย เพราะตนยอมตาย เสียสละ ทำเพื่อชาติ ในอนาคตอาจจะโดนยิงตายก็ได้ และถ้าทำให้ส่วยน้อยลง ตนก็อาจได้ขึ้นสวรรค์ก็ได้ และต่อไปนี้จะทำเพื่อประชาชน ใครที่โทรศัพท์มาปรึกษาคดีกับตนในหมายเลขโทรศัพท์เดิมก็จะไม่คิดเงินอีกต่อไป และหากหลักฐานที่ตนยื่นไปเป็นเท็จ ก็ดำเนินคดีกับตนเองได้
นายษิทรา กล่าวว่า ในวันที่ 24 เมษายน จะนำข้อมูลเส้นทางการเงินของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไปให้พล.ต.ต.จรูญเกียรติที่บก.ปปป. เวลา 10.00 น. บิ๊กเต่าจะอยู่พบตัวเองหรือไม่ก็ไม่เป็นไร และให้ขอดูการกระทำของตนเอง ที่กล้าเอาผิดกับทั้งสองฝั่งเป็นตัวอย่างและในวันพฤหัสนี้จะไปพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูนเพื่อให้ปากตำเพิ่มเติมด้วย
นายษิทรา กล่าวอีกว่า คดีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ที่มีความผิดจากการรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์นั้น เชื่อว่าผิดจริง และในฐานะทนายความมองว่าค่อนข้างจะเหนื่อยแล้ว แต่ต้องเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้คดีต่อไป แต่ศาลจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองอ้างว่าได้รับข้อมูลมาสักพักแล้ว และ เพิ่งมาประมวลข้อมูลช่วงสงกรานต์ และตั้งใจจะนำไปแถลงก่อน ก.ตร. แต่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนจึงไม่ได้ดำเนินการตามที่ตั้งใจ
นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชื่อเป็นรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจนายกฯเศรษฐา ทวีสิน หลังถูกพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. กล่าวหาว่า การปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยระบุว่านายกฯเศรษฐาไม่ได้กลั่นแกล้งใคร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี