ปชป.ขยี้‘ราชทัณฑ์’
อุ้ม‘แม้ว’ป่วยทิพย์
ซัดข้อชี้แจงผูกมัด
ไม่ตรงข้อเท็จจริง
“ราเมศ” โฆษกปชป.กางบัญญัติ 4 ประการขยี้หนัก! ชี้คำตอบ“ราชทัณฑ์”เป็นหลักฐานสำคัญผูกมัด อุ้ม“นักโทษเทวดา”ไม่ตรงข้อเท็จจริง “หมอวรงค์” ชำแหละ 5 ข้อชี้แจง“ราชทัณฑ์”ถูกร้องเอาผิดช่วย“ทักษิณ”
ป่วยทิพย์-ไม่ต้องติดคุก ชี้แจงแบบถูๆไถๆ พบมีพิรุธผลการประเมิน การพักโทษกรณีพิเศษ ต้องเป็นปัญหาระยะยาว ไม่ใช่พบเห็นในช่วงเวลาขณะนั้น
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวถึงกรณีที่กรมราชทัณฑ์เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษอยู่ระหว่างพักโทษกรณีพิเศษว่ากรมราชทัณฑ์ต้องระลึกว่าทุกคำตอบ คือหลักฐานสำคัญที่จะต้องผูกมัดไปยังอนาคต แต่ที่สำคัญเหตุผลที่ให้ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และระเบียบกฎหมายของบ้านเมือง
ประการแรก เมื่อผู้ต้องขังป่วยต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ซึ่งจะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลรัฐนอกราชทัณฑ์ ผู้ต้องขังคนนั้น ต้องมีอาการป่วยหนักเพราะฉะนั้น ความเห็นแพทย์ย่อมมีปัญหาตามมาด้วยในการพิจารณาวินิจฉัยและสิ่งที่ราชทัณฑ์ละเลยไม่อธิบาย คือ เมื่อระเบียบเขียนต่อไปว่าเมื่อไปโรงพยาบาลของรัฐอื่นให้พนักงานเรือนจำพาผู้ต้องขังคนนั้น ไปและกลับในวันเดียวกันซึ่งก็ต้องอธิบาย ป.ป.ช.ให้ได้
ประการสอง เรื่องตัดผมคงไม่ต้องพูดถึงเพราะหลักการที่ถูกต้องคือพอเริ่มเข้าเรือนจำก็ต้องตัดผมที่อ้างระเบียบว่าจะต้องตัดภายใน7วันก็ถือได้ว่าเป็นข้ออ้างที่หลังพิงฝา ถ้าความหมายของผู้ต้องขังใหม่รวมนายทักษิณ ชินวัตรด้วยก็ต้องดำเนินการภายใน 7 วัน คำถาม คือ มีผู้ต้องขังคนไหนบ้างที่ดำเนินการเช่นเดียวกับนายทักษิณ
ประการที่สาม ห้องพักชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ถ้าป่วยจริงถึงขั้นหนักจริงๆก็รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจได้ แต่มีคำถาม คือ รักษาตัวจริงหรือไม่ การควบคุมโดยพนักงานเรือนจำ เรื่องการกิน เรื่องรูปถ่ายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทุกรายละเอียด ต้องมีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ประเด็นเหล่านี้เชื่อว่าป.ป.ช.ก็ต้องสอบรายละเอียดทั้งหมด
และประการที่สี่ เรื่องการพักโทษจะชี้แจงอย่างไร ก็เป็นแค่ปลายเหตุ เพราะการไม่ได้จำคุกจริงแม้แต่วันเดียว จะนำไปสู่การพักโทษได้อย่างไร ส่วนการให้คะแนนสภาพร่างกายอาการป่วยของนายทักษิณว่าไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือ ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย เหตุผลนี้ถือว่า ราชทัณฑ์มีความกล้าหาญมากที่กล้าชี้แจงสวนทางกับความจริง อาการที่ราชทัณฑ์วินิจฉัยกับอาการที่นายทักษิณออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ภาพถ่ายอยู่บ้าน ไปเชียงใหม่ และกิจกรรมอื่นๆสิ่งเหล่านี้หลอกประชาชนไม่ได้แน่นอน
“เรื่องการจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร มีการตั้งคำถามจากสังคมมาตลอด ป่วยจริงหรือไม่ รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ จริงหรือไม่ จำคุกจริงหรือไม่ กระบวนการพักโทษชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ทั้งหมดจะเป็นกรรมที่เกิดจากการกระทำ สังคมฝากความหวังไว้กับ ป.ป.ช.เพื่อไต่สวนเรื่องนี้ ให้เกิดความกระจ่าง ไม่เช่นนั้น หลักการของบ้านเมืองก็หมดไม่มีเหลือ คำตอบของหน่วยงานราชการ ที่เกี่ยวข้องเหมือนการตอกย้ำให้เห็นถึงกระบวนการอุ้มนักโทษเทวดาอย่างแท้จริง”นายราเมศ กล่าวย้ำ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “วรงค์ เดชกิจวิกรม-Warong Dechgitvigrom”ระบุว่า..#กรมราชทัณฑ์ อย่าชี้แจงแบบมั่วมั่ว หลังจากที่ผมไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.กรณี นายทักษิณ ชินวัตร วันถัดมา กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงทั้งหมด 5 ประเด็น ตามที่ผมให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ผมคิดว่าคำชี้แจงในประเด็นที่ 1-4 ที่ผมร้องป.ป.ช.มีทั้งข้อเท็จจริงที่องค์กรอิสระอย่าง ผู้ตรวจการแผ่นดิน แสวงหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายทุกอย่าง การที่กรมราชทัณฑ์จะชี้แจงแบบถูๆไถๆผมคงไม่ตอบโต้ เพราะทุกท่านต้องไปชี้แจงกับป.ป.ช.อยู่แล้ว
“ส่วนประเด็นที่5นั่นคือการพักโทษกรณีพิเศษ เฉพาะประเด็นอายุเกิน 70 ปี และช่วยเหลือตนเองไม่ได้หรือได้น้อย เรื่องนี้ต้องอ้างอิงวิชาการทางการแพทย์ แต่สิ่งที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจง กรณีนายทักษิณได้เข้าคุณสมบัติที่ได้รับประโยชน์จากการพักการลงโทษ กรณีอายุ 70 ปี ขึ้นไป และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือ ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย(โดยผลการประเมินตามแบบประเมินคัดกรองปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชน กรมอนามัยคะแนนไม่เกิน 11 คะแนน) ซึ่งการประเมินดังกล่าวเป็นไปตามแบบเกณฑ์การประเมิน โดยผู้ทำการประเมินได้ดำเนินการประเมินตามสภาพข้อเท็จจริงที่ได้พบเห็นในช่วงระยะเวลาขณะนั้น” นพ.วรงค์ ระบุ
นพ.วรงค์ยังย้ำอีกว่าถ้าอ่านรายละเอียด คำชี้แจง“โดยผู้ทำการประเมินได้ดำเนินการประเมินตามสภาพข้อเท็จจริงที่ได้พบเห็น ในช่วงระยะเวลาขณะนั้น”แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามีพิรุธ เพราะคำชี้แจงแบบนี้ ดูแล้วกรมราชทัณฑ์ไม่เข้าใจเลยหรือว่า คำว่าช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จากการประเมิน เขาต้องเป็น “งานดูแลส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว”
ในคำชี้แจงท่าน ก็เขียนมาชัดเจนในวงเล็บ(โดยผลการประเมินตามแบบประเมินคัดกรองปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชน กรมอนามัยคะแนน ไม่เกิน 11 คะแนน)ดังนั้น สภาพของนายทักษิณที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้หรือได้น้อย ต้องเป็นปัญหาระยะยาว ไม่ใช่พบเห็นในช่วงเวลาขณะนั้น วันหลังทางกรมราชทัณฑ์จะชี้แจงอะไรให้ระมัดระวังด้วยครับอย่าชี้แจงแบบคิดว่าประชาชนไม่รู้อะไรเพราะมันไม่ได้เสียเฉพาะคนช่วยเหลือนักโทษ แต่มันจะทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหายทั้งประเทศ
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ“ถามสั้นๆใครได้สิทธิ์เหมือนทักษิณบ้าง?”ระบุว่า...ถามสั้นๆ ใครได้สิทธิ์เหมือนทักษิณบ้าง? ผมเห็นคำชี้แจงของกรมราชทัณฑ์ ที่ตอบข้อสงสัยของนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ในการส่งข้อมูลของผู้ตรวจการแผ่นดิน ต่อ ป.ป.ช. เรื่องการช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว ผมในฐานะผ่านชีวิตการเป็นนักโทษในเรือนจำมาก่อน เป็นผู้มีประสบการณ์ตรง มีข้อสงสัยในคำชี้แจงของกรมราชทัณฑ์ จึงขอตั้งคำถามสั้นๆเพิ่มเติมว่า “ตั้งแต่ประเทศไทยมีการตั้งเรือนจำขึ้นมา ไม่ทราบว่าเคยมีนักโทษคนใด ที่เคยได้สิทธิ์เช่นเดียวกับนักโทษ ที่ชื่อทักษิณ ชินวัตรบ้างหรือไม่”
ถ้ามีขอให้ยกตัวอย่างมาให้เห็นเป็นรายบุคคล และรายประเด็น ทั้ง 5 ประเด็นคือ 1.เคยมีนักโทษคนใดป่วย และนำส่งโรงพยาบาลภายนอก อย่างรีบเร่งเหมือนคุณทักษิณบ้างหรือไม่ 2.เคยมีนักโทษคนใด ที่เกิดอาการเจ็บป่วย และเฝ้าสังเกตอาการที่สถานพยาบาลในเรือนจำ อยู่ไม่เกิน 3 ชั่วโมง แล้วส่งตัวต่อไปโรงพยาบาลภายนอก
3.เคยมีนักโทษคนใดบ้าง ที่มีสถานะเป็นนักโทษ จะถูกคุมขังในเรือนจำหรือสถานที่อื่น ไม่ต้องตัดผม ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์บ้าง 4.เคยมีนักโทษคนใดที่เจ็บป่วยแล้ว ได้พักห้องพิเศษสูงสุด ระดับ VVIP แบบชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจบ้างหรือไม่ 5.ยังมีนักโทษในเรือนจำทั่วไป ที่อาการป่วยหนักกว่าคุณทักษิณ ยังได้รับสิทธิ์แบบคุณทักษิณอีกกี่คน
“ผมขอแถม คำถาม ข้อที่ 6 ในประเด็นความเป็นอภิสิทธิ์ชนของคุณทักษิณ ต่อกรมราชทัณฑ์ว่า ทำไมการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของคุณทักษิณใช้เวลาเพียง2วัน แต่ทำไมนักโทษทั่วไปใช้เวลานานถึง2ปี ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ หรือต้องใช้เวลายาวนานอีกแค่ไหน สิ่งที่ปฏิบัติต่อคุณทักษิณ เยี่ยงนักโทษเทวดา ถือว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ หรือปฏิบัติแบบ2มาตรฐาน หรือสร้างความเหลื่อมล้ำ เป็นอภิสิทธิ์ชนหรือไม่ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศย่อมรู้ดี กรมราชทัณฑ์จะอธิบายอ้างข้อกฎหมาย ระเบียบ-ข้อบังคับของกระทรวงยุติธรรมอย่างไรก็ทำไป เอาที่สบายใจก็แล้วกัน”นายเทพไท ย้ำทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี