รัฐบาลไม่สน‘ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ’
เดินหน้าแจก1หมื่น
ยึดมติครม.-บอร์ดเงินดิจิทัล
‘ปลัดคลัง’ยันแผนไม่สะดุด
ชี้ข้อท้วงติงธปท.เรื่องเก่า
ย้ำพร้อมส่งกฤษฎีกาตีความ
แค่ความเห็นเดิมๆ! ปลัดคลัง-รัฐบาลไม่สนหนังสือผู้ว่าฯธปท.จี้รัฐทบทวนโครงการแจกเงิน 1 หมื่นผ่านดิจิทัล วอลเล็ต เพราะชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว เดินหน้า
ตามมติครม.ที่เห็นชอบหลักการ บอร์ดดิจิทัลไฟเขียวลุยาตามไทม์ไลน์เดิม ไม่มีสะดุด พร้อมส่งกฤษฎีกาตีความใช้เงินธ.ก.ส.เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย แต่ยืนยันทำทุกอย่างตามข้อกฎหมาย
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา โดยสรุปว่าโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคต
ผู้ว่าฯธปท.จี้รัฐทบทวนกลุ่มเป้าหมาย
ผู้ว่าฯธปท.แสดงความเห็นผ่านหนังสือดังกล่าวว่า 1.ความจำเป็นโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ 1.1ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่าและใช้งบประมาณลดลง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันทีและใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง โดยความจำเป็นกระตุ้นการบริโภควงกว้างมีไม่มาก
ห่วงไทยถูกปรับลดเครดิต
1.2 โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ก่อให้เกิดภาระทางการคลังจำนวนมากในระยะยาว ถ้าไม่สามารถรักษาเสถียรภาพภาระหนี้ภาครัฐได้ จะเพิ่มความเสี่ยงที่ไทยจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น เกณฑ์การประเมินของ Moody’s ได้กำหนดอัตราส่วนภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อรายได้ของประเทศในกลุ่ม Baal (Rating ของไทยในปัจจุบัน) ไว้ว่าไม่ควรเกินร้อยละ 11 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะทำให้มีอัตราสูงกว่าเกณฑ์ในปี 2568 หากไทยถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจะทำให้ต้นทุนกู้ยืมภาครัฐและภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น
เพิ่มวงเงินกู้งบฯ68อาจกระทบงบกลาง
1.3 การเพิ่มวงเงินกู้ปีงบประมาณ 2568 จนเกือบเต็มกรอบที่กฎหมายกำหนด ทำให้เหลือวงเงินกู้ได้อีกประมาณ 5,000 ล้านบาท เทียบกับวงเงินคงเหลือเฉลี่ยในปีก่อนมากกว่า 100,000 ล้านบาท อาจกระทบการจัดสรรวงเงินจากงบประมาณปี 2567 ทำให้งบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นลดลงจนอาจไม่พอรองรับกรณีฉุกเฉิน ภายใต้สถานการณ์การเมืองโลกความไม่แน่นอนสูงและภัยธรรมชาติรุนแรงมากขึ้น
1.4 รัฐบาลควรคำถึงความคุ้มค่าของการนำงบประมาณ 500,000 ล้านบาท ไปใช้ลงทุนแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศระยะยาว ตัวอย่างการใช้งบประมาณที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการพัฒนาบุคลากรการแพทย์ (ใช้งบเฉลี่ย 3.8 ล้านบาทต่อตำแหน่ง) สร้างบุคลากรการแพทย์ได้กว่า 130,000 ตำแหน่ง โครงการ เรียนฟรี 15 ปี สำหรับนักเรียนทั่วประเทศ (83,000 ล้านบาทต่อปี) สนับสนุนได้นานถึง 6 ปี โครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม – ชุมพร (40,000 ล้านบาทต่อสาย) พัฒนาได้กว่า 10 สาย โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (190,000 ล้านบาทต่อสาย) พัฒนาได้กว่า 2 สาย
ห่วงใช้เงินจากธ.ก.ส.ขัดข้อกม.
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติะบุอีกว่า 2. แหล่งเงินสำหรับดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 500,000 ล้านบาท นำมาจากงบประมาณรายจ่ายและกู้เงินจาก ธ.ก.ส. โดยรัฐบาล รับภาระชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ ตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง ต้องไม่ขัดแย้งกับการควบคุมระบบเงินตรา และการช่วยเหลือการเงินแก่เกษตรกร ควรมีความชัดเจนทางกฎหมายว่าอยู่ภายใต้หน้าที่และอำนาจและภายใต้กฎหมาย วัตถุประสงค์ของธ.ก.ส. เพื่อดำเนินการเป็นไปด้วยความถูกต้อง รอบคอบ จึงเสนอให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการคลังหารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ธปท. ในฐานะผู้กำกับดูแลความเสี่ยงและฐานะของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มีข้อกังวลว่า การที่รัฐบาลจะมอบให้ ธ.ก.ส. สนับสนุนโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตโดยยังมีภาระหนี้คงค้างกับ ธ.ก.ส. ถึงประมาณ 800,000 ล้านบาท
แนะใช้พร้อมเพย์-ไทยคิวอาร์ลดต้นทุน
3.ผู้พัฒนาระบบสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีความซับซ้อนและต้องรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก จึงต้องเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ เสถียร มั่นคงปลอดภัยเพียงพอ ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบ ธปท. จึงเป็นห่วงการพัฒนาและดำเนินการระบบ ควรใช้ระบบพร้อมเพย์ และ Thai QR Payment เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ลดต้นทุนพัฒนาระบบ และใช้ประโยชน์สูงสุด จากโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่มีอยู่ ด้วยเงื่อนไขการใช้สิทธิที่ซับซ้อนในหลายมิติ รวมทั้งเป็นระบบเปิด (Open-loop) ต้องเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการหลากหลาย ตลอดจนวางแผนการพัฒนาและทดสอบที่รัดกุมครบถ้วน ไม่ให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบ รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก ไม่ให้ติดขัด หรือเกิดการใช้จ่ายที่ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขของโครงการ
ชี้ภาระคลังระยะยาว-เสี่ยงทุจริต
4. การบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือทุจริต หน่วยงานที่รับผิดชอบควรกำหนดกลไกลดความเสี่ยงรั่วไหลหรือทุจริต ในทุกขั้นตอน อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะประเด็นปัญหาพึงคาดหมายได้ตั้งแต่แรก เช่น แนวทางตรวจสอบรายได้และทรัพย์สินของผู้เข้าร่วมโครงการ การป้องกันการลงทะเบียนเป็นร้านค้าปลอม การกำหนดประเภทและขนาดร้านค้ารองรับเงื่อนไขการใช้จ่ายประเภทสินค้าต้องห้าม
“ธปท. มีความเห็นว่า การพิจารณากรอบหลักการและรายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็นโครงการมีรายละเอียด ซับซ้อนใช้งบประมาณมาก กระทบต่อภาระการคลังในระยะยาว มีความเสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือทุจริตในขั้นตอนต่างๆ จึงต้องรัดกุมเต็มที่ พร้อมทำแนวทางมาตรการแก้ไขความเสี่ยงให้เป็นรูปธรรมด้วย”ผู้ว่าฯธปท.ระบุตอนท้าย
ปลัดคลังเมินความเห็นผู้ว่าฯแบงก์ชาติ
ที่ทำเนียบฯรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยหลังเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังถึงหนังสือแสดงความเห็นของผู้ว่าฯธปท.ส่งถึงครม.ว่า ผู้ว่าฯธปท.ให้ความเห็นได้ ทั้งเห็นด้วยและข้อทักท้วง เราก็รับฟัง การประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา มีการพิจารณาหลักการ ขั้นตอนดำเนินการหลังจากนี้ไป มีระเบียบและกฎหมายที่ต้องดำเนินการตามนั้น
“ ความเห็นของผู้ว่าฯธปท. ไม่ได้ส่งผลให้โครงการดังกล่าวสะดุดลง และยังมีเวลาพิจารณา ซึ่งหลังจากนี้ ก็ต้องเริ่มดำเนินการได้แล้ว เนื่องจากได้ผ่านการเห็นชอบในหลักการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”ปลัดกระทรวงการคลังระบุ
ไม่สะดุดยันเดินหน้าตามแผนเดิม
ส่วนความเห็นของผู้ว่าฯธปท.ที่ขอให้ลดกลุ่มเป้าหมายเหลือเพียงกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อยประมาณ 15 ล้านคน จะนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่นั้น ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า ผู้ว่าฯธปท.เคยให้ความเห็นเช่นนี้มาตั้งแต่ต้น จนผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบาย โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่ากลุ่มใดเหมาะที่จะได้ ซึ่งผ่านขั้นตอนนั้นไปทั้งหมดแล้ว สิ่งที่ผู้ว่าฯธปท.ให้ความเห็นมาเป็นข้อเสนอแนะเดิมที่เคยพูดในที่ประชุมมาตลอด ไม่มีอะไรเป็นประเด็นใหม่ ซึ่งในที่ประชุมได้ชี้แจงต่อข้อกังวลธปท.แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะชี้แจงต่อแบงก์ชาติอีกครั้งหรือไม่ นายลวรณยืนยันคำเดิมว่า ได้ชี้แจงต่อธปท.เรียบร้อยแล้ว และผู้ว่าฯธปท.ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเราพิจารณาในรูปแบบคณะกรรมการฯ ซึ่งผู้ว่าฯธปท.เป็นหนึ่งในคณะกรรมการฯ กรรมการท่านอื่นอีก 20 คน ก็ไม่ได้มีความเห็นเช่นนี้ พร้อมยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเดินหน้าต่อตามแผนเดิม ตามมติครม.
ส่งกฤษฎีกาตีความเป็นหน้าที่ธกส.
ส่วนจะส่งคณะกรรมการกฤษฎีการตีความ เกี่ยวกับข้อกังวลของธปท.หรือไม่ นายลวรณยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ นายกฯสั่งว่าต้องทำด้วยความรอบคอบ ประเด็นที่เราเห็นว่าไม่ชัดเจน ก็ให้ปรึกษากฤษฎีกาในข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ส่ง เรื่องดังกล่าวไปยังกฤษฎีกา เพราะการใช้งบประมาณ ธ.ก.ส. เป็นไปตามมาตรา 28 ของปีงบประมาณ 2568 จะเริ่มดำเนินการได้เดือนตุลาคม ถือว่ายังมีเวลาอยู่
เผ่าภูมิลั่นไม่สะดุดเดินหน้าตามมติครม.
สอดคล้องกับนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรมว.คลังให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบนายกฯว่า มารายงานความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนกรณีผู้ว่าฯธปท.ส่งหนังสือถึงครม.ให้ทบทวนหลักเกณฑ์โครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ไม่ใช่การออกหนังสือเตือน เป็นเพียงการเสนอความคิดเห็น ซึ่งทุกอย่างยังเดินหน้าตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่มีอะไรสะดุดเดินหน้าเต็มที่ อีกทั้ง ยังย้ำว่า หนังสือของผู้ว่าฯธปท.ล่าสุดที่เรียกร้องให้ทบทวนโครงการ เป็นความเห็นที่นำมาพูดคุยพิจารณาหลายครั้งมากๆ และมีความเห็นร่วมกันในคณะกรรมการฯ ก่อนเสนอเข้าครม.เมื่อวันที่ 23 เมษายน และได้อนุมัติโครงการแล้ว
เล็งส่งกฤษฎีกาตีความอำนาจธกส.
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวจะไม่ผิดกฎหมายใช่หรือไม่ นายเผ่าภูมิยืนยันว่าดูข้อกฎหมายเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ได้มีอะไร แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของธ.ก.ส.ถึงแหล่งที่มาของงบประมาณ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่ติดอะไร และกฤษฎีกา ก็ไม่ได้ท้วงติงถึงข้อกฎหมายให้ระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษ พร้อมยอมรับว่าเป็นไปได้ที่จะส่งให้กฤษฎีกา ตีความอีกครั้ง เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ให้ดูความถูกต้องของข้อเสนอต่างๆ และยืนยันได้ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์
“เรื่องที่จะส่งให้กฤษฎีกาตีความคือ เรื่องอำนาจหน้าที่ของธ.ก.ส. ซึ่งไม่รีบ ยังอยู่ในกรอบโครงการ แหล่งที่มาของเงิน ที่ต้องชงไปยังธ.ก.ส. ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ยังไม่ใช่ช่วงนี้ และตัวโครงการก็ดำเนินการไปเรื่อยๆ รวมถึงการพัฒนาระบบก็เดินไปเรื่อยๆ ยังมีเวลา” นายเผ่าภูมิกล่าว
พัฒนาซูเปอร์แอปฯยังเป็นไปตามไทม์ไลน์
และว่า เช่นเดียวกับ กาพัฒนาระบบซูเปอร์แอปฯที่จะใช้ในโครงการนี้ ก็เป็นไปตามไทม์ไลน์ จะพัฒนาระบบร่วมกับแอปฯเป๋าตัง โดยหน้าตาของแอปฯนั้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ระบบลงทะเบียน และระบบใช้งาน ซึ่งจะเป็นแอปพลิเคชั่นใหม่ขึ้นมา ยืนยันว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่นที่ใช้ง่ายกว่าเดิม เพราะเชื่อมกับระบบธนาคารที่มีอยู่แล้ว และวอลเล็ต รวมถึงมีการเตรียมระบบรองรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟนเรียบร้อย
ธปท.ไม่ขัดแต่อยากให้ช่วยเฉพาะกลุ่ม
ด้านดร.ปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แบงก์ชาติ ไม่ได้ขัดข้องภาพรวมโครงการ ที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เรื่องรูปแบบถ้าเป็นไปได้ อยากให้เจาะจงช่วยเฉพาะกลุ่มที่ลำบาก คุ้มค่าเม็ดเงิน ประหยัดงบประมาณ และเป็นไปตามกรอบที่ควรเป็น ส่วนที่รัฐบาลจะใช้แหล่งเงินจากธ.ก.ส.นั้น ต้องส่งให้กฤษฎีกาตีความให้ชัดเจน ก่อนว่าใช้แหล่งเงินตามมาตรา 28 พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังได้หรือไม่ และขึ้นอยู่กับบอร์ด ธ.ก.ส. ทั้งนี้ ธปท. มีหน้าที่กำกับดูแลเรื่องการเงินทั่วไป ไม่ได้มีอำนาจตัดสินว่าทำได้หรือไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี