ทร.ทวงสัญญา‘สุทิน’
ดัน‘เรือดำน้ำ’ให้จบ
เพิ่มกำลังรบทัพเรือ
ยืนยันจำเป็นต้องมี
“บิ๊กดุง” ผบ.ทร.ทวงสัญญา“บิ๊กทิน”เดินหน้า “เรือดำน้ำ” ให้จบ หลังนั่งคุม“กลาโหม” ต่อ วอนผู้เกี่ยวข้องเข้าใจ กำลังรบทางเรือฟันหลอ ต้องมี“เรือ-เครื่องบิน”มาอุด อย่าพูดว่า“สงครามไม่เกิด”
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ที่หอประชุมกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ(บก.ทร.)พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.)กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำซึ่งมีกระแสข่าวว่านายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม จะหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยว่า ให้รอรมว.กลาโหมซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าจะต้องจบ ส่วนคาดหวังเรื่องเรือดำน้ำไว้อย่างไรผบ.ทร.ย้ำว่า“รมว.กลาโหมได้สัญญากับพวกเราว่าจะทำให้เสร็จเร็วที่สุดซึ่งขอรอนายกรัฐมนตรีกับ รมว.กลาโหมดำเนินการเรื่องเรือดำน้ำให้เรียบร้อย ส่วนการจัดทำงบประมาณปี 2568 ในส่วนของกองทัพเรือได้เสนอไปเรียบร้อยแล้ว ขอความกรุณาผู้เกี่ยวข้องได้ช่วยผลักดันให้กองทัพเรือได้รับอาวุธยุทธโธปกรณ์”
เมื่อถามว่างบประมาณปี2568 กองทัพเรือไม่ได้เรือฟริเกต แต่ได้เครื่องบินลำเลียงใช่หรือไม่ผบ.ทร.ตอบว่า ยังไม่ได้ แค่เสนอไปเท่านั้นแต่อยากให้เห็นความสำคัญในการเตรียมกำลังทางเรือ เพื่อรักษาอธิปไตยและปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเล แต่ยืนยันว่างบปี 2568 ไม่ได้เสนอซื้อเรือฟริเกต คงต้องไปงบประมาณปี 2569
เมื่อถามว่างบประมาณปี2569จะขอซื้อเรือฟริเกต2ลำ เลยหรือไม่นั้น ผบ.ทร.กล่าวว่า”ตอนนี้กำลังรบทางเรือเราน้อยมากเราเดินหน้าเพื่อจัดหาเรือดำน้ำมากกว่า10ปี เราอยากได้กำลังทางเรือเพิ่มมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ปัญหาการสู้รบในประเทศต่างๆ คนไทยทุกคนได้เห็นภาพแล้ว มันไม่ใช่ประโยคที่บอกว่าสงครามไม่เกิดแล้วนะครับ และประเทศรอบบ้านเรา ก็ไม่ได้สงบเรียบร้อย ขอความกรุณาทุกท่านได้โปรดเข้าใจให้กองทัพเรือมีกำลังรบไว้ให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
เมื่อถามย้ำว่าเป็นการเสริมศักยภาพกองทัพเรือใช่หรือไม่ผบ.ทร.ตอบว่า”ใช่ แต่มีประโยคหนึ่งที่อยากจะเรียนทุกท่านมัน ไม่ใช่การเสริม ตอนนี้ฟันเราหลอแล้ว รั้วทางทะเล ไม่สามารถดูแลได้แล้ว ขอเรือกับเครื่องบินช่วยเติมความสามารถให้กองทัพเรือ ให้พร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อประชาชน
เมื่อถามว่าหลังจากที่นายสุทินไปพูดคุยกับจีนมีความคืบหน้าอะไรอีกหรือไม่ ผบ.ทร.ตอบว่า”ก็มี ท่านสุทินก็รับรู้แล้วว่ามีคนหวังดีพยายามเจรจาให้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ เขารายงานถึงตัวท่านแล้วซึ่งท่านสุทิน เป็นรมว.กลาโหมต่อ ผมก็ขอความกรุณา ความกรุณาให้สานต่อเรื่องเรือดำ ของกองทัพเรือให้เสร็จเรียบร้อย”
เมื่อถามว่าบริษัทCSOCไม่ยินยอมที่จะให้เปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นอย่างอื่นใช่หรือไม่ผบ.ทร.ตอบว่าตนไม่ทราบ แต่คิดว่าคงมีคนรายงานถึง รมว.กลาโหม แล้ว ก็ขอความกรุณาช่วยผลักดันเป็นกำลังใจให้กองทัพและขอเป็นกำลังใจให้กองทัพเรือด้วย ส่วนใครเป็นผู้ประสานให้กับ รมว.กลาโหม นั้น ตนไม่ทราบ
พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.กล่าวถึงแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมและร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารในการแก้พ.ร.บ.กลาโหมว่า มองว่าเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อนเป็นกรรมการที่กระทรวงกลาโหมแต่งตั้งขึ้นแค่เพียงกำลังพิจารณา และนำเรื่องเข้าสู่สภากลาโหม เพื่อรับทราบว่า มีคณะกรรมการชุดนี้และขอให้รอฟังผลจากคณะกรรมการชุดดังกล่าว เมื่อถามว่าที่มองว่าจะเป็นการสกัดรัฐประหารนั้นผบ.ทร.กล่าวว่าตนยังไม่ศึกษาในรายละเอียด จึงขออนุญาตไม่ลงความเห็น
ที่หอประชุมกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ(บก.ทร.)ได้จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีพล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดกล่าวขอบคุณเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการสนับสนุนรัฐบาลเป็นอย่างดีตลอดจนร่วมกันดูแลงานด้านความมั่นคงในทุกมิติ ในที่ประชุมฯได้รับทราบแนวทางการพัฒนาศักยภาพของอากาศยานไร้คนขับและ ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ เพื่อใช้ในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เน้นย้ำให้เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเทและเสียสละเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน ดำรงการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ปกป้องอธิปไตยของชาติ ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งดำเนินการจัดหายุทโธปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณที่มี ตลอดจนพัฒนากำลังพลให้มีความรู้ความสามารถ เพื่อรองรับภัยคุกคามในทุกรูปแบบ ร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ในเรื่องการใช้ชีวิต การสร้างทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติภายใต้สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี