‘เศรษฐา’ลั่นไม่มีแนวคิดแก้ก.ม.ลดอำนาจ
ไม่คิดปลด‘ผู้ว่าฯธปท.’
อ้างเห็นต่างแต่ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
ยืนยันไม่เคยกดดันให้ลาออก
ชูผลงาน10เดือน-1หมื่นได้แน่
ทัวร์กระหน่ำ‘อิ๊ง’ไร้วุฒิภาวะ
“เศรษฐา” ลุยต่อร้อยเอ็ด กราบนมัสการ “พระอาจารย์ต้อม” ให้พรประสบความสำเร็จ มอบพระเครื่อง “เสาร์ 5 ร้ายกลับดีฯ”รับปากเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม-ยาเสพติด จ่อลงอีสานอีกครั้ง ลั่นเดือนครึ่งจากนี้ต้องมีความคืบหน้า ชาวบ้านเชียร์เป็นนายกฯ 2 สมัย ยันไม่เคยคิดปลด ผู้ว่าฯธปท.ยังไงท่านก็ยังอยู่ตรงนี้ รับเห็นต่างเรื่องลดดอกเบี้ย มองเป็นเรื่องธรรมดา โนคอมเมนต์ #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ ย้ำชัดไม่เคยมีแนวคิดแก้พรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พบชาวหนองพอก‘ร้อยเอ็ด’อวดผลงาน10เดือนราคาพืชผลการเกษตรดี พร้อมเร่งแก้ปัญหาน้ำประปา ย้ำดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่นอน ขณะที่‘ปชป.’ยันจุดยืน!ค้านแก้กฎหมายลดความอิสระแบงก์ชาติ ด้าน’เทพไท’ซัดยังขาดวุฒิภาวะ ขณะที่’หมอวรงค์’เย้ยดิจิทัลส่อล่มรีบหาแพะ
เมื่อเวลา 09.45น.วันที่ 6พฤษภาคม2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามประเด็นการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและผนังกั้นน้ำ ณ วัดท่าสะแบง ตำบลมะบ้า อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข , น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม , นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง , นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทยและคณะ ร่วมด้วย
นายกฯกราบนมัสการพระอาจารย์ต้อม
เมื่อมาถึงนายกฯได้กราบนมัสการ พระครูปลัดสุขวัฒน์ปภสฺสโร (พระอาจารย์ต้อม) เจ้าอาวาส พร้อมสนทนาธรรม โดยนายกฯกล่าวแนะนำ น.ส.จิราพร หรือรัฐมนตรีน้ำ เป็นคนร้อยเอ็ด เป็นรัฐมนตรีป้ายแดง จากนั้นเจ้าอาวาสถามนายกฯว่า สบายดีหรือไม่ โดยนายกฯ กล่าวว่า สบายดี พี่น้องเดือดร้อนเราก็ต้องมาดูแล เรื่องน้ำไม่พอ มีปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก วันนี้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาด้วยและใกล้วันยาเสพติดโลก 26มิถุนายน ทั้งนี้ ตนจะลงพื้นที่อีสานอีกครั้ง เวลาเดือนครึ่งจากนี้ ต้องมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ความเดือดร้อนทางด้านราคาพืชผลบรรเทาลงเพราะราคาข้าวดีขึ้น ราคามันสำปะหลัง สูงสุดในรอบ 10-20ปี อ้อยก็ราคาดีมาก ยางพาราราคาก็ดีขึ้น อะไรที่ดีอยู่แล้วก็จะพยายามทำให้ดีขึ้น มุ่งเน้นในเรื่องปัญหาที่จะทำให้ดี พี่น้องประชาชนเดือดร้อนก็ต้องแก้ทุกมิติ บรรเทาทุกข์ และจะดูเรื่องบังคับใช้กฎหมายและดูด้านจิตใจ เอาสถาบันครอบครัวเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติด ฝ่ายความมั่นคง ทหารมีพื้นที่เยอะอาจจะไปช่วยดูแล ซึ่งต้องทำทุกมิติ จากนั้นเจ้าอาวาสมอบพระเครื่องเสาร์5 ร้าย กลับดี ดียิ่งเจริญ ซึ่งผ่านการทำพิธีที่มาจากมวลสารมงคลทั่วประเทศ พร้อมกับเลสข้อมือเลื่อนสมณศักดิ์ รุ่นแรกของพระอาจารย์ต้อม ให้นายกฯ ก่อนนายกฯจะมาสักการะพ่อปู่พญาศรีสุวรรณนาคาธิบดี และรับฟังบรรยายสรุปการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและผนังกั้นน้ำ และมาพบประชาชนชาวร้อยเอ็ดที่มารอต้อนรับ โดยประชาชนขอให้นายเศรษฐาได้เป็นนายกรัฐมนตรี2สมัย
อวดผลงาน10เดือนราคาพืชผลดีขึ้น
เวลา 10.53น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย ตำบลรอบเมือง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เพื่อติดตามปัญหาในพื้นที่ มี นางรัชนี พลซื่อ สส.พลังประชารัฐ จ.ร้อยเอ็ด เขต 3 มารอต้อนรับ โดยมีส่วนราชการอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) กลุ่มสตรี กลุ่มครู ประชาชน มารอรับอย่างคึกคัก โดยนายกฯรับฟังบรรยายสรุปจาก แขวงทางหลวงยโสธรสำนักงานทางหลวงที่ 8 (มหาสารคาม) กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม โดยมีการรายงานสภาพปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณทางหลวงหมายเลข 2116 ตอนโพนทอง-ห้วยคล้อ ซึ่งได้แก้ไขปัญหาระยะสั้น คือ มีการขุดลอกคูคลอง ส่วนระยะยาว คือ มีการก่อสร้างระบบระบายน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่พบประชาชนที่ จ.ร้อยเอ็ด วันที่2 ยังคงมีพูดบนเวทีกับประชาชนตอกย้ำถึงความต้องการของประชาชน เรื่องของโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต จากนั้นนายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า ไม่ต้องพูดถึง10เดือนที่เราทำมา เราทำแต่เรื่องที่ดี ทั้งเรื่องราคาสินค้า ราคามัน ราคายางและราคาอ้อย ทุกเรื่องเป็นเรื่องที่เราทำราคาได้ดีมาก เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราภาคภูมิใจว่าเราได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชน แต่สิ่งที่ต้องทำโดยเร็วเหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญคือ เรื่องน้ำประปา เป็นเรื่องการดำรงชีวิตของประชาชน ที่ต้องพึ่งน้ำประปาเยอะมาก ฉะนั้นน้ำประปาเป็นเรื่องที่เราจะบรรจุและทำเป็นแผนใหญ่“เรื่องที่พี่น้องคอยอยู่คือ โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งวันนี้มีรมช.คลังหนุ่มหล่อ หน้าใส ก็มาด้วยวันนี้ ขอให้มั่นใจว่า ได้ไตรมาส4 ได้รับแน่นอน
ลั่นไม่มีแนวคิดแก้ไขพรบ.ธปท.
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับการทำงานคนละทางของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นอุปสรรคต่อการทำดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ว่า ปัญหาเรื่องการทำงานคนละทาง ตนไม่เคยบอกว่าเป็นอุปสรรค หากมีข้อสงสัยหน้าที่ของตนคือต้องอธิบาย ตรงนี้ไม่เป็นปัญหา ส่วนเรื่องที่บอกว่าเรามีปัญหากับธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ตนก็เห็นต่างกัน มีการชี้แจงไปอย่างชัดเจนแล้ว เมื่อถามว่าเห็นต่างในเรื่องข้อกฎหมายที่อาจเป็นอุปสรรค มีแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมายที่เป็นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตนไม่มีแนวคิดตรงนี้ เป็นหน้าที่กระทรวงการคลังที่จะดูแล ตนไม่เคยพูด
ส่วนที่มีกระแสข่าวถึงขั้นว่ารัฐบาลพยายามแก้ พรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดอำนาจของผู้ว่า ธปท. ที่มากเดินไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็น ธปท. รัฐบาล สภา เรามาอยู่ด้วยกัน มาดูแลพี่น้องประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ต้องเป็นเรื่องที่ส่งมาจากกระทรวงการคลัง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่เห็นเรื่องนี้
ไม่เคยพูด-ไม่เคยกดดันให้ลาออก
“ผมไม่เคยพูดให้ผู้ว่าฯลาออก และปลดผู้ว่าฯ ด้วยความเคารพ ถ้าท่านผู้ว่าฯฟังอยู่ ผมไม่เคยกดดัน และไม่เคยพูดด้วย ผมกดดันผมอาจจะมีการพูดคุยถึงเรื่องเนื้องานเป็นหลัก ผมเป็นผู้นำรัฐบาลพูดมาแค่นี้โดยตลอด ก็แค่นี้ แต่อนาคตผมไม่ทราบ ต้องถาม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และผมไม่เคยไปมีประเด็นอะไรกับท่านเลย และไม่เคยขัดแย้งอะไรกัน ไม่ได้มีการไปต่อว่าอะไรทางผู้ว่าฯธปท.“นายกฯ กล่าว
ยอมรับเห็นต่างกันเรื่องดอกเบี้ย
เมื่อถามว่าภาพความขัดแย้งตอนนี้ค่อนข้างชัดเจน แต่ตัวนายกรัฐมนตรี กับผู้ว่า ธปท.ไม่รู้ว่ามีความขัดแย้งจริงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่าอย่าดูที่ภาพดีกว่า ดูที่เนื้องานดีกว่า อย่างที่บอกเรื่องดอกเบี้ย ชัดเจนตนไม่เคยปฏิเสธว่าดอกเบี้ยสูงควรจะลด ท่านผู้ว่า ธปท.ก็บอกว่าดอกเบี้ยไม่สูง ไม่ควรจะลด ก็ชัดเจน ตนก็ไปหาวิธีอื่นที่จะบรรเทาทุกข์ของประชาชน ได้เชิญตัวแทน 4ธนาคารมาพูดคุย ตนก็ไม่เคยไปมีประเด็นอะไรกับท่าน และเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ว่าธนาคารก็ลดดอกเบี้ย ตนก็ขอขอบคุณ และตนก็เดินหน้าต่อไป บรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชน ตนก็ไม่ได้มีการไปต่อว่าท่านผู้ว่าฯ ส่วนต้องเรียกผู้ว่าฯ มาพบตัวต่อตัว เพื่อลดปัญหาต่างคนต่างพูดหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ได้ต่างคนต่างพูดอะไรเลย ตนยึดโยงกับประชาชนอย่างเดียว ท่านผู้ว่าฯ ธปท.พูดเองว่า ถ้ามีอะไรก็สื่อสาร ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และติดตามผ่าน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ตนก็ได้มีการสั่งการไปแล้ว
ไม่ใช่คู่กรณีกัน-แก้ยากจนคือเป้าใหญ่
ส่วนช่วงแรกที่มีภาพการคุยกันของนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าฯ ธปท.นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ท่านผู้ว่าฯ บอกเองไม่อยากให้สื่อสารโดยตรง ให้ผ่านกระทรวงการคลัง ตนก็ทำตามที่ท่านบอกมา ตนก็ไม่ได้เชิญสื่อมวลชนมา แล้วกล่าวโทษผู้ว่าฯ ส่วนที่สื่อถามว่าดอกเบี้ยสูงหรือไม่ ตนก็บอกว่าดอกเบี้ยสูงก็เท่านั้น ตนไม่ได้เป็นคู่กรณีกับผู้ว่าฯ คู่กรณีของตนคือความยากจนของประชาชน เพราะความยากจนเกิดจากดอกเบี้ยสูง ตนก็บอกแค่นี้ ถ้าจะเปลี่ยนใจตน ยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้ แต่ตนก็เชื่อว่าฝ่ายการเมือง รัฐมนตรี ฝ่ายองค์กรอิสระและธปท.เองก็เชื่อว่ามีความปรารถนาดีกับประชาชน แต่เรามองเห็นปัญหาคนละแบบ ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ เมื่อถามว่านโยบายการเงินการคลังดูเหมือนไม่ไปในทางเดียวกัน จะบริหารงานยากหรือไม่ นายกฯ ยอมรับว่า มีความยากลำบาก ส่วนจะทำอย่างไรให้ธนาคารแห่งประเทศไทยกับรัฐบาล มาเจอกันให้ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีหลายองค์ประกอบ หนี้สาธารณะเป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เราสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ หากจีดีพีโต เราก็กู้ได้อีก เปอร์เซ็นต์หนี้สาธารณะก็ไม่สูงขึ้น เราก็มีกรอบชัดเจน ถ้าไม่เกิน 10% ของจีดีพี เป็นข้อตกลงร่วมกันไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร ตนมีหน้าที่เอานโยบายการคลังมาดูแลประชาชนด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เป็นผู้ใหญ่กันแล้วต้องทำเพื่อปชช.
นายกรัฐมนตรีระบุว่าตนไม่มีคอมเมนต์ ที่ในโซเชียลมีเดียติดแฮชแท็กเซฟผู้ว่าฯธปท.ไม่มีความรู้สึกว่าท่านต้องถูกเซฟ เพราะท่านก็มาถูกต้องและทำหน้าที่ของท่าน หลายอย่างที่ท่านทำ ผมเห็นด้วยก็มี และก็เชื่อว่า หลายอย่างที่ผมทำก็เรื่องที่ท่านเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่เราก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกัน อย่างน้อยตนคิดว่าฝ่ายตนทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาขัดแย้งอะไรเลย ผมว่าท่านไม่ต้องการการเซฟ ยังไงท่านก็อยู่ตรงนี้ ไม่ได้มีใครจะไปกดท่าน รัฐมนตรีคนใหม่ก็ไม่ได้พูด เพียงแต่ท่านแปลเรื่องที่เรามีความเห็นไม่ตรงกันบางเรื่อง พยายามยกระดับขึ้นไปให้มีความขัดแย้งสูงขึ้น
“ผมยืนยัน ณ ที่นี้ว่าไม่ว่าจะในที่สาธารณะหรือที่ส่วนตัว ตนพูดแค่เรื่องดอกเบี้ยอย่างเดียว ไม่ได้พูดเรื่องกำกับดูแลธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องดีดีที่ถูกต้องก็ไม่ต้องมาชมกันหรอก ท่านก็ทำไป”นายกฯย้ำ
‘เผ่าภูมิ’ยก5ข้อป้อง‘อิ๊ง’ มีสิทธิถาม
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์งกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ตั้งคำถามถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า 1.ตามที่คุณแพทองธาร ตั้งคำถามถึง ธปท.เป็นสิทธิ เมื่อประสิทธิภาพของนโยบายการเงินที่เกิดจากความอิสระนั้นแเป็นที่กังขา 2.ความอิสระของ ธปท. มาพร้อมกับกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 1-3% ตามข้อตกลงกับคลัง ซึ่งปัจจุบันหลุดกรอบและไม่เป็นไปตามข้อตกลงใช่ไหม เหตุจากระดับดอกเบี้ยนโยบายที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ (เงินเฟ้อปี67คาดจะอยู่ 0.6-0.8)3. การที่ธนาคารกลางไม่สามารถรักษาเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป็นระยะเวลายาวนาน คาดหลุดกรอบถึงสิ้นปี 67 สะท้อนถึงประสิทธิภาพของธนาคารกลางนั้นหรือไม่4. กระทรวงการคลังต้องการให้ประเทศมีนโยบายการคลังกับนโยบายการเงินที่สอดประสานกัน มิฉะนั้นนโยบายอีกฝั่งต้องเร่งขึ้นเกินความจำเป็น ซึ่งเป็นต้นทุนของประเทศแ5.เมื่อนโยบายการคลังถูกวิจารณ์ (Digital Wallet)เรา“รับฟังและปรับปรุง”นำสู่การปรับเงื่อนไข เราคาดหวังสิ่งเดียวกันจะเกิดขึ้นกับนโยบายการเงิน
ปชป.ยันค้านแก้กม.ลดความเป็นอิสระ
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวและความคิดเห็นของฝั่งรัฐบาลที่บอกว่าการแก้ พรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อลดความอิสระของแบงก์ชาติ ขอใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายว่า ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะการลดความอิสระของ ธปท.จะส่งผลเสียหายต่อประเทศ การปรับปรุง พรบ.ธปท.ล่าสุด เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ที่มีความครอบคลุมหลายส่วนทั้งในเรื่องความอิสระและให้มีความโปร่งใส สร้างการถ่วงดุลฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นผู้ใช้เงินให้อยู่ในหลักการที่ถูกต้องและเพื่อความมั่นคงปลอดภัยในสถานะทางการเงินของประเทศ ซึ่งเป็นหลักสากลที่ทั่วโลก ได้กำหนดให้อำนาจของธนาคารกลางให้มีความอิสระ แยกการใช้อำนาจออกจากฝ่ายการเมืองอย่างชัดเจน การแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาของผู้ว่า ธปท. ด้วยความสุจริตใจเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เพื่อให้เห็นความคุ้มค่าของงบประมาณแผ่นดิน ถ้ารัฐบาลเห็นว่าการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตของผู้ว่า ธปท. เป็นความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือถึงขั้นทุจริตต่อหน้าที่ บกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ ขอท้าให้รัฐบาลรีบปลดได้เลย
‘ทสท.’ซัดรัฐบาลตระบัดสัตย์10ประการ
นายนรุตม์ชัย บุนนาค รองเลขาธิการ พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึง กรณีที่ นางสาวแพรทองธาร ชินวัตรและนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯประกาศว่า เมื่อ10เดือนที่แล้วตัดสินใจถูกต้องแล้ว ที่จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วว่า ตนขอแสดงความจริงว่า คนไทยจะได้อะไร ถ้าไม่มีรัฐบาลตระบัดสัตย์ 10เดือน คนไทยจะได้อะไรบ้าง 1.เด็กจะไม่ถูกปลูกฝังค่านิยม ว่าการโกหก หรือการตระบัดสัตย์ เป็นสิ่งที่ถูกต้องในสังคมไทย 2.คนไทยได้ธรรมนูญใหม่ ได้ประชาธิปไตยเต็มใบ 3.คนที่ครอบครองยาบ้า 5เม็ด ยังผิดกฎหมายต้องถูกลงโทษ ไม่ถือเป็นผู้เสพ 4.ประเทศไทยจะไม่มีกัญชาเสรี จะได้กัญชาเพื่อการแพทย์ 5.เศรษฐกิจจะดีขึ้นกว่านี้ เพราะได้ใช้งบประมาณปี67 ตั้งแต่เดือนตุลาปีที่แล้ว ไม่ถูกกั๊กไว้ทำ Digital Wallet 6.คนไทยทั้งประเทศ ไม่ต้องเป็นหนี้ เงินกู้ 500,000ล้าน เพื่อมาแจกดิจิทัลวอลเล็ต ที่ต้องใช้หนี้ชั่วลูกชั่วหลาน โดยผลได้ทางเศรษฐกิจไม่คุ้มและใครกันแน่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ 7.สถาบันหลักของชาติ ที่ทุกคนเคารพเทิดทูน จะไม่ถูกแอบอ้าง ทำให้เสียหายเช่นทุกวันนี้ 8.คนไทยจะได้นายกฯ และรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมากับมือ ไม่ใช่นายกฯที่มาจาก สว.9.ขบวนการยุติธรรมไทย จะไม่ถูกทำลายจนย่อยยับ เพียงเพื่อต้องการ ช่วยให้ใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้สิทธิพิเศษแบบเทวดา10.ประชาชนจะได้รับการดูแลเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง การลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน จะไม่ได้รัฐบาลที่อุ้มแต่พรรคพวกตนเอง ให้มาสูบเลือดจากคนจน
นายนรุตม์ชัย ระบุด้วยว่า หลายเรื่องรัฐบาล ที่รัฐบาลตระบัดสัตย์ แล้วกล่าวอ้างว่าจะเข้ามาทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนนั้น กลับไม่ตรงกับที่ประกาศไว้และให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชน ขณะที่หลายนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา กลับไม่ปฏิบัติตาม 10เดือนที่ผ่านมา จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมเตือนสติรัฐบาล เพื่อสื่อสารไปถึงผู้มีอำนาจ เพราะการบริหารราชการแผ่นดินต้องรับฟังเสียงพี่น้องประชาชน รับฟังความต้องการและรับผิดชอบต่อคำพูดคำสัญญาที่ให้ไว้
‘เทพไท’ซัด‘อุ๊งอิ๊ง’ยังขาดวุฒิภาวะ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก“เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง” เรื่อง “อุ๊งอิ๊ง:จากมะม่วงบ่มแก๊ส ถึง พ่อแม่รังแกฉัน”ระบุว่า ช่วง2-3 วันที่ผ่านมา มีกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์คุณอุ๊งอิ๊ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อย่างกว้างขวาง สื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับพาดหัวว่า ทัวร์ลงคุณอุ๊งอิ๊ง สื่อโซเชียลแชร์คลิปตอนคุณอุ๊งอิ๊งหาเสียง ปิดสวิตช์สว.ปิดสวิตช์3ป.คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไปพร้อมๆกัน ในลักษณะเยาะเย้ยถากถาง ประชดประชันกันเป็นไวรัล ตอนแรกผมไม่คิดจะแสดงความเห็น กรณีที่คุณอุ๊งอิ๊ง แสดงวิสัยทัศน์พาดพิงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เลย เพราะผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ เรียนจบมาทางกฎหมายและพัฒนาสังคม จึงไม่ประสีประสาเรื่องเศรษฐกิจ แต่เมื่อเห็นคุณอุ๊งอิ๊ง ซึ่งไม่ได้มีพื้นฐานความรู้ทางด้านเศรษฐกิจ ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของแบงก์ชาติ จนมีกระแสติดลบมากกว่าด้านบวก จึงขออนุญาตแสดงความเห็นเล็กน้อย
สรุปได้ว่างานนี้ คุณอุ๊งอิ๊ง เสียรังวัด แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะการจะเป็นผู้นำของประเทศในอนาคตว่า มีความไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าเปรียบกระดูกทางการเมือง ถือว่ายังกระดูกอ่อนมาก เป็นมะม่วงบ่มแก๊ส คุณอุ๊งอิ๊ง ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เพราะเป็นลูกของคุณทักษิณ และคุณทักษิณก็ผลักดันมาคุมพรรคเพื่อไทย ซึ่งเปรียบเสมือนกิจการของครอบครัว ทั้งที่ชั่วโมงบินยังไม่ถึง ยังส่งมาเป็นกัปตันคุมพรรคเพื่อไทย เห็นคุณอุ๊งอิ๊งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างถล่มทลายเช่นนี้ ทำให้นึกถึงนิทานอีสป เรื่องพ่อแม่รังแกฉัน ขึ้นมาทันที ในตอนนี้ผมเห็นว่า คุณอุ๊งอิ๊ง ยังขาดวุฒิภาวะในหลายด้าน ที่เห็นอยู่ก็คือ 1.การสื่อสารเรื่องอาการป่วยของคุณทักษิณ ออกมาทุกครั้งติดลบทุกครั้ง2.การเป็นประธานซอฟพาวเวอร์ เชิญชวนคนทั่วโลกมาเที่ยวสงกรานต์เมืองไทย แต่ตัวเองกลับพาครอบครัว หนีไปเที่ยวฮ่องกง3.มีปัญหาการแสดงความเห็นประเด็นการเมือง ถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบทุกครั้ง4.ต้นทุนทางสังคมด้านเศรษฐศาตร์ ระหว่างอุ๊งอิ๊ง กับผู้ว่าฯแบงค์ชาติ ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับไปวิพากษ์วิจารณ์ทั้งที่ตัวเองขาดความรู้5.การอ่านสคริปหรือโพย ตอนแสดงวิสัยทัศน์ บนเวที บ่งบอกถึงความอ่อนด้อยทางปัญญา เหมือนกับมีบุคคลอื่นเขียนสคริปให้อ่าน ผมเห็นว่าก่อนที่จะผลักดันให้คุณอุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศ ตอนนี้ให้คุณอุ๊งอิ๊งได้รับตำแหน่งนางโพยคนที่2ของประเทศไปก่อนก็แล้วกัน
‘หมอวรงค์’เย้ย1หมื่นส่อล่มรีบหาแพะ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “วรงค์ เดชกิจวิกรม - WarongDechgitvigrom” ระบุว่า ทำไมอุ๊งอิ๊งและเพื่อไทยรุมถล่มธนาคารชาติ ไม่แปลกใจเลยที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) นายเศรษฐา ทวีสิน และพรรคเพื่อไทย รุมถล่มแบงก์ชาติ ต้องยอมรับว่า การที่ธนาคารชาติมีหนังสือคัดค้านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000บาท สร้างความไม่สบายใจให้รัฐบาลเพื่อไทยมาก ที่สำคัญโครงการนี้มีโอกาสเป็นไปไม่ได้สูงมาก เนื่องจากพรบ.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ไม่เอื้อประโยชน์ที่รัฐบาลจะใช้มาตรา28 ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เพราะโครงการนี้ขัดกับวัตถุประสงค์ของ ธกส.นั่นคือ ธกส.ตั้งมาเพื่อปล่อยสินเชื่อช่วยเกษตรกร ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาแจกเงิน การที่รัฐบาลมีความเสี่ยงสูงที่จะไปไม่ได้เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตก็ต้องมีความจำเป็นต้องหาแพะ มารับผิดชอบแทน ดังนั้น การที่ทั้งอุ๊งอิ๊งเศรษฐา รวมหัวกันถล่มแบงก์ชาติ และถ้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปไม่รอด จะได้โทษไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าเป็นปัญหาเท่านั้นเอง ลูกไม้แบบนี้เจอบ่อย
‘สมชัย’ชี้วิพากษ์ตื้นเขินย่อมถูกวิจารณ์
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก“สมชัย ศรีสุทธิยากร” ดังนี้ แบงค์ชาติ วิจารณ์ได้ แบงค์ชาติ เป็นสถาบันที่มีหน้าที่กำกับนโยบายด้านการเงินของประเทศ ดูแลอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปริมาณเงินในตลาดและอัตราแลกเปลี่ยน ทำงานดีก็ต้องชม ทำงานไม่เข้าท่าก็วิจารณ์ได้ แต่การวิจารณ์ แบงค์ชาติ ต้องอยู่บนพื้นฐานความรู้ ปราศจากอคติ และมีตรรกะของเหตุผล เช่น จะบอกว่าประเทศไทยมีหนี้สาธารณะเยอะ เพราะการไม่ลดดอกเบี้ยธนาคาร ดูจะเป็นการเชื่อมโยงของสิ่งห่างไกลเกินไป หนี้สาธารณะ (Public Debt) นั้น มาจากกู้ยืมเงินของรัฐจากการทำงบประมาณขาดดุล ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้สาธารณะ11.4ล้านล้านบาท จะลดลงต่อเมื่อเราตั้งงบประมาณใช้คืนมากขึ้น กู้ใหม่ให้น้อยลง หรือกู้มาลงทุนเพื่อให้มีรายได้มาใช้คืน ไม่ใช่กู้มาแจก หนี้ครัวเรือน (Household debt) ของไทย คือ หนี้ของชาวบ้านที่ไปกู้ยืมสถาบันทางการเงิน เช่น ผ่อนบ้าน ซื้อรถ กู้ยืมมาเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 16.8 ล้านล้านบาท หากมีอัตราดอกเบี้ยสูง ย่อมผ่อนคืนยาก ส่งต้นได้น้อย ส่งเท่าไรก็ส่งได้แต่ดอก เพราะดอกเบี้ยเงินกู้แบงค์ ประมาณร้อยละ7ส่วนดอกเบี้ยนโยบายตอนนี้ร้อยละ2.5 แบงค์ชาติ วิจารณ์ได้ครับ แต่คนวิจารณ์แบงค์ชาติด้วยตรรกะที่ตื้นเขิน ก็ย่อมถูกวิจารณ์ได้เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี