‘ภูมิธรรม’ลั่นกินข้าว 10 ปีท้องไม่เสีย ขอปิดตำนานข้าวเน่า วอนอย่าใช้จินตนาการ ชี้นำความจริง ปัดขายข้าวฟอกคดี‘จำนำข้าว’ ใครอยากฟ้องอะไรไปว่ากันเอง ทำตรงนี้เพื่อพิสูจน์ความเป็นจริง เล็งประมูลจบ‘พ.ค.’ ช้าสุดไม่เกิน มิ.ย.
7 พฤษภาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังวานนี้ (6 พ.ค.67) พาสื่อมวลชนและผู้ส่งออก ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ตรวจสอบข้าวจากโครงการจำนำในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งผู้สื่อข่าวถามแบบหยอกล้อว่าหลังทดลองรับประทาน วันนี้ (7 พ.ค.67) ท้องเสียหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบทันทีว่า “ไม่เสีย โอ้โหสบายมาก”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อวานเป็นการตรวจคุณภาพข้าว ชิมแล้วไม่มีกลิ่นหืน ไม่มีความรู้สึกว่าจะกินไม่ได้ ความหอมอาจจะลดลงไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่ความนุ่นนวลไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นหลังจากตรวจสอบผู้ประมูลก็สามารถไปหาโรงสีหรือปรับปรุงคุณภาพข้าวให้ดี เมื่อวานผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ก็ไปทานด้วย อธิบดีกรมการค้าภายในก็ไปด้วย ทั้งยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมรับประทาน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังได้เข้าไปตรวจกองข้าว เพื่อไม่ให้มีการจิตนาการไปว่าจะแก้ปัญหาไม่ได้ “ไม่อยากให้เอาจิตนาการมาชี้นำความจริง” เรื่องนี้เราพยายามทำให้เรื่องราวต่างๆ ของประเทศจบลงด้วยดี และสามารถนำเงินกลับเข้าประเทศได้ อย่างน้อยถ้าประมูลได้ราคามาตรฐาน 17-18 บาท ก็จะมีรายได้เข้ามาถึง 200-400 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่าการไปดำเนินการส่วนนี้ จะส่งผลต่อการรื้อฟื้นคดีโครงการจำนำข้าวมาพิจารณาใหม่หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนั้นไม่ใช่เป้าหมายของตน ตนมีหน้าที่ขนข้าวในคลังออกไปขาย ดีกว่าปล่อยให้เน่าเสียประมาณกว่า 150,000 กระสอบ ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ ก็ถึงขั้นขายไม่ได้ ตอนแรกตนเองก็ไม่มั่นใจจนได้ไปดูและลองหุงมาชิม ก็รู้สึกว่าอร่อยไม่มีปัญหาอะไร
“อยากให้เรื่องนี้ปิดตำนานไปเสีย ส่วนในทางคดีจะเป็นอย่างไรไม่ใช่ภารกิจของผม ใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็ว่ากันไป ส่วนโรงเก็บข้าวเมื่อเคลียร์เรียบร้อยก็จะได้เงินประกันคืน ซึ่งเขาก็ควรจะรับสิทธินั้นอย่างสมเหตุสมผล” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับผู้ส่งออกรายใหญ่ 2 ราย คือ นครหลวง และธนสรร รวมถึงผู้ส่งออกข้าวหลายรายในจังหวัดสุรินทร์ก็ได้มาร่วมตรวจสอบด้วย และตนมองว่าหากนำข้าวไปปรับปรุงอีกหน่อย ก็จะสามารถขายให้ตลาดข้าวเก่าในทวีปแอฟริกาได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปบังคับใคร ใครทานได้ก็ทาน ใครไม่อยากทานก็ไม่ต้องทาน ใครซื้อก็ซื้อ ซื้อไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อ ตนไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมมากกว่าสิ่งที่ควรทำ และหากในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ หารือกันจนสิ้นสงสัย ตนก็จะเร่งดำเนินการประมูลภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนมิถุนายน อยากให้มันจบจะได้ไปทำเรื่องอื่นต่อ ไม่อยากให้เกิดดราม่า เอาจินตนาการมาชี้นำความจริง
“ผมว่ามันคงยุติข้อกล่าวหาตอนแรกไปแล้ว เพราะดูแล้วเม็ดข้าวก็สวยงาม สีของข้าวมีปัญหาจริง ฝุ่นมีปัญหาจริง ก็ต้องไปซาวข้าว ซึ่งเอาจริงก็ไม่เกิน 15 ครั้ง เป็นเรื่องปกติของการหุงข้าวมากิน อย่าไปทำให้มันเกิดความน่ากลัว ใครสงสัยผมก็บอกแล้วให้ไปดูด้วยกัน” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่ามีการเชื่อมโยงการเคลียร์ข้าวของรัฐบาลออกจากโกดังในครั้งนี้ กับกระแสข่าวการเดินทางกลับประเทศไทยของนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า “อันนี้คือเอาจินตนาการมาชี้นำความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเรายังไม่รู้เลยว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คุณยิ่งลักษณ์จะกลับ หรือไม่กลับก็ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องนี้“
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ตนทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ดูแลเรื่องนี้ จึงไม่อยากให้เรื่องนี้ค้าง ส่วนกระบวนการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนที่เกี่ยวข้อง ตนทำในขอบเขตที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ให้ชัดเจนทั้งหมด ที่คิดว่าจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้
“ใครอยากจะฟ้องอะไร จะชนะอะไร ไปว่ากันเอง ผมทำตรงนี้เพื่อพิสูจน์ความเป็นจริงให้ชัดเจน ให้ศาลรับรองว่าทุกอย่างจะจบ ใครยังข้องใจ ตรงไหนก็ว่ามา ตอนเขาจะขายใคร ใครทานได้ใครทานไม่ได้ก็เชิญผมไปทานร่วมกันได้ ก็ยินดี” นายภูมิธรรม กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี