พร้อมเคลียร์‘แบงก์ชาติ’ทุกประเด็น
‘พิชัย’อาสากาวใจ
ยืนยันไม่มีแผนปลดผู้ว่าฯธปท.
มีอิสระดำเนินนโยบายการเงิน
‘เศรษฐา’หนุนขุนคลังคุยธปท.
อนุทินชี้แบงก์ชาติต้องเปนอิสระ
นายกฯ “เศรษฐา” กำชับครม.เน้นเนื้องานเป็นหลัก บ่น! 7 เดือนพบปัญหาเยอะสะสมทุกๆ ด้าน หนุน “ขุนคลัง”เตรียมพูดคุย “ธปท.” เป็นเรื่องที่ควรทำมั่นใจนโยบายเดินได้ “อนุทิน” ย้ำธปท.และทุกหน่วยงานย่อมมีความเป็นอิสระในการทำประโยชน์เพื่อชาติ-ปชช.‘พิชัย’ขุนคลังเล็งพูดคุย ผู้ว่าธปท.ผลักดัน2นโยบายให้สอคล้อง พร้อมขับเคลื่อนนโยบายการเงิน-การคลัง ให้สอดคล้องนโยบายภาครัฐ‘พิชัย’ควง‘ภาคภูมิ’เข้าทำงานกระทรวงคลัง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทันที พร้อมเป็นกาวใจ เคลียร์‘แบงก์ชาติ’ทุกประเด็น ไม่ขอลดดอกเบี้ยแน่ ยันไม่มีแนวคิดแก้ไขกม.แบงก์ชาติ ‘พิชิต’ปัดตอบคุณสมบัติขัดรธน.หรือไม่ขอให้กกต.-ปปช.-ผู้ตรวจฯชี้ขาด ลั่นเป็นคนดีตั้งใจทำงาน ขอโอกาสพิสูจน์ผลงานแบ่งงานรองนายกฯ‘ภูมิธรรม’กำกับดูแล‘กลาโหม’ ‘สุริยะ’กำกับดูแล‘สธ.-คค.’‘พิชัย’ดูแล‘คลัง-กต.’มอบอำนาจ‘3รมต.สำนักนายกฯ’
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าช่วงเช้าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้นัดหมายคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถ่ายภาพหมู่ทั้งคณะหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เวลา 09.30น. โดยนายกรัฐมนตรีได้มาตรวจดูความเรียบร้อยบริเวณจุดถ่ายภาพแต่เนื่องจากมีฝนตกลงทำให้มีการเปลี่ยนสถานที่ถ่ายภาพหมู่ไปใช้ในตึกสันติไมตรีแทน
นายกฯกำชับเน้นเนื้องานเป็นหลัก
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่าการประชุมครม.วันนี้จะแบ่งงานรองนายกฯ และรัฐมนตรีใหม่รวมถึงให้รมว.กระทรวงที่มีรมช.เพิ่มเติมได้มีการแบ่งงานภายในกระทรวงด้วย โดยจะแบ่งตามความเหมาะสม ความสามารถ และจะเน้นย้ำไปยังรัฐมนตรีเดิมว่าใครที่มีงานค้างเกี่ยวกับงานดูแลประชาชนก็ต้องดำเนินการต่อ
โดยยืนยัน ไม่มีเน้นย้ำเป็นพิเศษ แต่เน้นย้ำทุกเรื่องโดยเฉพาะนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา
เมื่อถามว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ จะทำให้การทำงานขับเคลื่อนไปได้ดีหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบกลับมา ว่า นั่นคือจุดหมายหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่าอันเก่าขับเคลื่อนไม่ได้ ตนเคยเรียนไว้ว่าช่วงเวลา 8-9 เดือนที่ผ่านมามีความต้องการในภาคส่วนต่างๆ ที่ต่างกัน อย่างในรัฐสภามีการเสริมแกร่งให้ฝ่ายนิติบัญญัติ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นธรรมดาตนมั่นใจ ครม.ชุดใหม่ให้ความสำคัญกับปัญหาประชาชน
บ่น!7เดือนพบปัญหาเยอะสะสมทุกๆด้าน
เมื่อถามว่า 6-7 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลมีจุดอ่อนและต้องเติมเต็มตรงไหน นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหามันเยอะเหลือเกิน สะสมมาเยอะ ทุกๆ ด้าน เศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน ยังมีเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่อีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นใน ครม.ชุดใหม่นี้อย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ความเชื่อมั่นมากับผลงาน การพูดถือเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความคาดหวัง แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลงาน จึงอยากขอความยุติธรรมด้วยว่ามีหลายนโยบายที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป เช่น เรื่องการลงทุน เรื่องปากท้องประชาชน เรื่องสิทธิเสรีภาพ การเลือกเพศสภาพ เหล่านี้ที่เราได้เริ่มต้นทำไปแล้ว
หนุน‘ขุนคลัง’เตรียมพูดคุยธปท.’
นายเศรษฐากล่าวถึงกรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุจะพูดคุยกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)มีความสบายใจขึ้นหรือไม่ว่า ทุกๆ การเคลื่อนไหวที่ทำให้มีการลดความขัดแย้ง เป็นเรื่องที่เหมาะสม เป็นเรื่องที่สมควรจะทำส่วนนายพิชัยจะทำให้ธปท.ตอบสนองนโยบายรัฐบาลได้หรือไม่นั้น นายกฯตอบว่าตนมั่นใจว่าอย่างน้อยทั้งสองฝ่ายมีความพยายามที่จะหันหน้าเข้าหากัน
ขอรมต.ใหม่สานต่องานรมต.เก่าเคร่งครัด
เวลา 11.30 น.ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมครม.เป็นครั้งแรก หลังการปรับครม.เศรษฐา1/1 ถึงการแบ่งงานรองนายกฯว่า ในส่วนของการแบ่งงานได้มอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลงเนื่องจากมีข้อมูลจำนวนมาก ส่วนการเสนอแนะในการทำงานร่วมกันนั้นไม่ได้มีการเสนอแนะอะไร เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันนี้ได้มีการพบกันก่อนจะมีการถ่ายรูปหมู่ซึ่งตนได้บอกไปว่าขอขอบคุณครม.ชุดเก่าที่มีการทำงานกันอย่างเคร่งครัดและรัฐมนตรีใหม่ขอให้ไปดูนโยบายและโครงการต่างๆที่รัฐมนตรีท่านเก่าได้ทำไว้ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและให้เริ่มดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัด โดยไม่ได้มีการพูดคุยอะไรไปมากกว่านี้
ปัดพรรคร่วมรัฐบาลยึดกระทรวง
เมื่อถามว่าดูเหมือนครม.ชุดใหม่นี้ มีการแบ่งงานให้พรรคร่วมรัฐบาลยึดกระทรวง อย่างเช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐา ถึงกับร้องโอ้ยพร้อมกล่าวว่า อย่าไปมองอย่างนั้นเลย ไม่ใช่แบบนั้น เรามองที่ผลงานเป็นหลักมากกว่า ไม่ได้เป็นการยึดกระทรวงหรืออะไร วันนี้เราทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน อย่าไปมองว่าเป็นการยึดกระทรวง หรือยึดอำนาจ ถือเป็นการบริหารจัดการการทำงานร่วมกัน และเชื่อว่าอะไรที่เราบริหารจัดการได้ ลดภาระของพี่น้องประชาชน หรือการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ถือเป็นจุดมุ่งหมายหลักและเป็นแนวทางการทำงานร่วมกัน
‘อนุทิน’ย้ำธปท.ทุกหน่วยงานย่อมอิสระ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลว่าทุกหน่วยงานต้องมีอิสระในการทำงานของแต่ละหน่วยงานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานใดก็ตาม เราต้องทำตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและทำตามนโยบายของรัฐบาล ตราบใดที่นโยบายนั้นเป็นนโยบายที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน
‘พิชัย’ทำหน้าที่สุดความสามารถ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังเดินทางมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายายประจำทำเนียบรัฐบาล ภายหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ จากนั้นนายพิชัยให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้เป็นวันเข้าทำงานอย่างเป็นทางการจะเข้าทำงานทั้งสองที่คือที่ทำเนียบรัฐบาลและที่กระทรวงการคลัง จะมีการหารือเป็นการภายในโดยตนทราบอยู่แล้วว่าภารกิจเร่งด่วนคืออะไร ตนจะใช้หน้าที่และความรับผิดชอบที่มีอยู่ในการสะสางและจัดการปัญหาที่คิดว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นและดีต่อผลประโยชน์ของประเทศโดยตนจะทำอย่างสุดความสามารถ
จ่อคุยผู้ว่าแบงก์ชาติดัน2นโยบาย
เมื่อถามว่าจะต้องมีการพูดคุยปัญหากับทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นทั้งหน้าที่ และความรับผิดชอบของตนร่วมกับธปท.ที่เราจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้เครื่องจักรสองเครื่องทั้งนโยบายการคลัง และนโยบายการเงินให้สอดคล้อง และเดินไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก่อนจะเดินทางได้เราต้องตกผลึกและทำความเข้าใจก่อนว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร
นายพิชัยยืนยันว่ามีโอกาสจะพูดคุยกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าธปท.แน่นอน เป็นหน้าที่ที่ต้องพูดคุยอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าผู้ว่าธปท.จะคุยด้วยข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบกับในอดีตตนเคยสัมผัสกันอยู่แล้วบ้างในช่วงที่ทำงานด้านการธนาคาร ฉะนั้น จึงคิดว่าจะพูดคุยกัน และไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกันได้
ตอบไม่ชัดปมแก้กม.แบงก์ชาติ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการแก้ไขกฎหมายให้ธปท.อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล นายพิชัย กล่าวว่า “ผมมองว่าเรื่องนี้มาดูกันอีกทีดีกว่าว่าใช่ปัญหาหรือไม่”เมื่อถามถึงกระแสต่อต้านเนื่องจากมองว่าธปท.ควรเป็นอิสระนายพิชัยตอบว่าก็เป็นธรรมชาติ และทุกคนต้องมีความเห็นต่างแต่ถ้าคุยกันแล้วตกผลึกได้ ก็เชื่อว่าความเห็นต่างก็จะค่อยๆ แคบลงและนำมาซึ่งข้อสรุปที่ดี
เมื่อถามว่าในฐานะเป็นรองนายกฯด้านเศรษฐกิจมองว่าธปท.ควรอยู่ภายใต้กำกับของรัฐบาลหรือเป็นอิสระ นายพิชัย กล่าวว่า“จริงๆ ท่านก็อิสระอยู่แล้วในเรื่องนโยบายการเงิน ผมมองว่าความอิสระนั้นก็มีมาตลอดและสามารถกำหนดและตัดสินได้ด้วยวิจารณญาณ รวมถึงคนที่เข้ามาร่วมกันตัดสินนโยบาย ซึ่งทั้งหมดก็ต้องเป็นไปเพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐ”
‘เผ่าภูมิ’ยันไร้นโยบายแก้กมธปท.
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงประเด็นในเรื่องการแก้ไขพ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดอำนาจนั้น นายเผ่าภูมิ ยืนยันว่า“ยังไม่มีนโยบายนี้”
‘พิชัยควงภาคภูมิ’เข้ากระทรวงคลัง
ช่วงบ่าย ที่กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เดินทางเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์ประจำกระทรวงการคลังก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีวันแรก พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง พร้อมผู้บริหารกระทรวงการคลัง
พร้อมเป็นกาวใจคุย‘แบงก์ชาติ’ทันที
นายพิชัยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายให้ประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เมื่อไหร่นั้นว่า จะเข้าพบทางธปท.ในทันทีที่มีโอกาส โดยเป็นการพูดคุยทำความเข้าใจให้ตรงกัน ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องรีบคุยในวันนี้หรือพรุ่งนี้และไม่ติดขัดว่าจะพูดคุยกันที่ไหน จะเป็นที่ ธปท.ก็ได้ เพราะตนก็คุ้นเคยกับธปท.เนื่องจากเคยเป็นกรรมการมาก่อน
“แน่นอนว่าเมื่อมองไปที่ ธปท.ก็อยากเห็นสถานเงินการเงินของประเทศที่มั่นคง มีเงินสำรองระหว่างประเทศเยอะๆ ขณะเดียวกันก็อยากเห็น ประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นก็ต้องดูกันว่าจะช่วยกันเร่งเศรษฐกิจอย่างไร โดยทุกวันนี้คันเร่งก็ดูฝืดๆเลยอยากให้ช่วยกันเหยียบคันเร่งหน่อยได้ไหม จะเหยียบอย่างไหร่ ของบางอย่างเหยียบแล้วใช้เงิน บางอย่างเหยียบแล้วไม่ใช้เงิน ก็คุยๆกันไป คุยภาษาเดียวกัน จริงๆก็น่าจะคุยภาษาไม่ต่างกันเท่าไหร่” นายพิชัย กล่าว
เคลียร์ทุกประเด็น/ไม่ขอลดดอกเบี้ยแน่
นายพิชัย กล่าวว่าโดยเรื่องที่เป็นข้อที่ติดขัดกับธปท.นั้นในหลายข้อคงต้องช่วยกันขยายความเช่นเรื่องลดดอกเบี้ยนโยบายที่จะช่วยให้คนใช้เงินมากขึ้น ส่วนตัวมองว่า ส่วนหนึ่งก็ใช่ ถ้าคนไม่มีหนี้ หนี้น้อย แต่ขณะนี้หนี้ครัวเรือนไทยสูง ต่อให้ดอกเบี้ยน้อยลง ก็คงไม่สามารถมีรายได้เพิ่มได้ สิ่งที่ทำให้ได้คือทำอย่างไรให้มีเงินใช้คืนหนี้ ดังนั้นยังเป็นคนละบริบท
นายพิชัยยังย้ำว่า“สำหรับธปท.นั้นทุกวันนี้มีอิสระอยู่แล้ว หมายถึงอิสระทางความคิด การวิเคราะห์ อิสระในการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ทางเลือกนั้นๆ จะต้องตอบสนองความต้องการของประชาชนและต้องตอบสนองผู้ที่มาทำแทนประชาชน คือรัฐบาลด้วย ถ้ามันลงตัว และทำให้มันวินวิน ทุกคนได้ประโยชน์หรือไม่และถ้าผมไปพบธปท.ผมก็ไม่พูดเรื่องดอกเบี้ย”
ไม่มีแนวคิดแก้ไขกม.แบงก์ชาติ
นายพิชัยกล่าวถึงกระแสข่าวจะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ว่าขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ดีอยู่แล้ว ขณะที่การแก้ปัญหากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Institutions Development Fund) หรือ FIDF ให้ ธปท.ดูแลนั้น เรื่องกองทุนเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว สุดท้ายเงินก็อยู่ตะกร้าเดียวกัน
“เบื้องต้น ผมเข้าใจว่าสุดท้ายไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็เป็นของประเทศ ต้องมาดูว่าใครกำลังดีกว่า โดยปี 2540 ธปท.น่าจะลำบาก ท่านจะไปกู้เงินมาทำอะไรก็ลำบาก เพราะคนที่ยังมีแรงกู้คือภาครัฐ ส่วนสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องมีการหารือกัน และเงินก็อยู่ในตะกร้าเดียวกัน” นายพิชัย กล่าว
‘พิชิต’เปิดใจขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ขณะที่ นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวว่าวันนี้ตนปฏิบัติหน้าที่ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก หลังจากประชุม ครม.มีมติมอบหมายงานสำคัญให้กับตนคือเป็นผู้ตรวจร่างมติคณะรัฐมนตรี รวมถึงดูเรื่องกฎหมายเสนอนายกรัฐมนตรี ก่อนนำเข้าสู่ ครม.อีกทั้งยังมีคำสั่งมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี,สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี,สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ราชบัณฑิตยสถาน และองค์กรมหาชนที่พระนคร ถือเป็นหน้าที่ที่ตนจะต้องทำให้ดีที่สุด ยืนยันว่าตนรักประเทศชาติไม่น้อยกว่าคนอื่น จะทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมาย
นายพิชิต ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องงาน ขอให้สบายใจได้ เพราะเคยอยู่ที่นี่มา 6-7เดือนในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่คนหน้าใหม่ซึ่งตนอยู่ในที่ประชุมครม.มาตลอดไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียวรวมถึงประชุมครม.สัญจรในจังหวัดต่างๆจึงรับรู้นโยบายของรัฐบาลและความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ที่จะทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาแม้ตนจะไม่ใช่นักกฎหมายแพ่ง อาญาแต่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินและมีความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง มีทีมงานช่วยตลอดและทำมาอย่างน้อย 6-7ปี กรอบงานคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและขอให้คำสัญญาว่าจากที่สื่อเคยเจอตนแต่ที่ประตูด้านหลังจากนี้ตนจะขึ้นประชุมครม.ด้านหน้าตึกบัญชาการทุกครั้ง ถ้ามีอะไรคุยกันได้ทุกเรื่องแบบพี่น้องเพื่อสื่อสารให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ปัดตอบคุณสมบัติขัดรธน.หรือไม่
นายพิชิต กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีกับหน่วยงานต่างๆว่า”ชีวิตผม สิ่งที่ทุกฝ่ายตั้งข้อสงสัย ทุกคนต่างมีอุบัติเหตุในชีวิตได้6-7เดือนที่ผ่านมา สื่อให้พื้นที่ผมมากผมเคยอธิบายอย่างชัดแจ้ง ถ้าให้ความเป็นธรรมกับชีวิตผม ไปศึกษาเรื่องราวต่างๆให้ดี พอจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมเป็นคนไม่ดีอย่างที่มีการกล่าวหา คนที่ชื่อพิชิต ชื่นบาน จะไม่เดินเข้าทำเนียบฯผมมั่นใจว่า10กว่าปีที่ผ่านมา หัวใจของผมมั่นใจว่าไม่ใช่คนผิด ไม่ใช่คนชั่วร้าย จึงทำให้ชีวิตผมยืนอยู่ได้ด้วยความรู้ความสามารถ ถ้าผมไม่มีความรู้ความสามารถ คงไม่มีใครให้ผมมายืนได้ ผมทำงานกับนายกฯ มาหลายคน วันนี้ขอพูดจากใจ ถึงจังหวะนี้นายพิชิตได้ยกมือไหว้ต่อสื่อมวลชนกล่าวว่า “ขอโอกาสประชาชนให้ผมได้ทำงาน”
ขอให้รอ”กกต.-ปปช.-ผู้ตรวจ”ชี้ขาด
พร้อมย้ำอีกว่าประเด็นต่างๆตนเคารพฝ่ายที่ตั้งข้อสงสัยโดยเฉพาะการเมืองภาคประชาชนที่ไปยื่นเรื่องต่อองค์กรต่างๆอาทิคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้รอฟังดุลยพินิจของแต่ละหน่วยงานจะว่าอย่างไรทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย วันนี้ ขอก้าวไปทำงานจากหัวใจที่ออกมาพูดโดยไม่มีสคริปส่วนกังวลหรือไม่ที่มีการยื่นเรื่องต่อองค์กรต่างๆจะไปกระทบถึงนายกฯที่เป็นคนเสนอแต่งตั้ง นายพิชิตย้ำว่าปล่อยให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายได้ใช้ดุลยพินิจดีกว่า เราอยู่กับปัจจุบัน ขอทำหน้าที่รมต.ประจำสำนักนายกฯให้ดีที่สุด และไม่กระทบกับการทำงาน เพราะตนมีสมาธิสูง
ขอโอกาสทำงานพิสูจน์ผลงาน
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ถ้ามีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณสมบัติจะฟ้องร้องหรือไม่นายพิชิต กล่าวว่า ขอปล่อยให้หน่วยงานที่ตรวจสอบอยู่ได้ทำหน้าที่ดีกว่า ตอนนี้ใจตนกำกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สิ่งที่ดีที่สุดคือการให้อภัย การอโหสิกรรม โมทนาบุญ เอาเป็นว่ากันได้เลย ตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรม นับแต่วันนี้ขอให้ดูการทำงานเมื่อถามอีกว่า มองหรือไม่ว่าจะเป็นสายล่อฟ้าของคณะรัฐมนตรี นายพิชิต กล่าวว่า ตนมองตัวเองว่าเป็น พิชิต ชื่นบาน ที่พร้อมพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน”แต่ผมมั่นใจ ในความเป็นพิชิต ชื่นบาน ผมเป็นคนดี และตั้งใจทำงาน ขอเอาผลงานเป็นเรื่องพิสูจน์”
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ได้รับมอบหมายให้ดูสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายพิชิต กล่าวว่า คิดว่างานที่ได้รับมอบหมายก็หนักพออยู่แล้ว และตนก็ทำงานประสานกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้อยู่แล้วเมื่อถามอีกว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดูคุณสมบัติของนายพิชิต ในเรื่องข้อกฎหมายแต่ไม่ได้ดูเรื่องจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญมาตรา160 (4)(5) นายพิชิต กล่าวว่าตนคิดว่าเขาดูทั้งหมดการกระทำทางฝ่ายบริหารมีการดูหลายหน่วยงาน
‘ภูมิธรรม’กำกับดูแล‘กลาโหม’เพิ่ม
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่าที่ประชุมครม.(7พ.ค.)เรื่องมอบหมายและมอบอำนาจ ดังนี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการและสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
มอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
‘สุริยะ’กำกับดูแล‘สธ.-คมนาคม’
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบัณฑิตยสภา) การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการและสั่ง และปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี คือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
มอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ การดำเนินคดีปกครอง รวมทั้งลงนามมอบอำนาจให้พนักงานอัยการดำเนินคดีปกครองกรณีที่มีการฟ้องนายกรัฐมนตรี
‘พิชัย’ดูแล‘คลัง-ต่างประเทศ’
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการและสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดองมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
‘อนุทิน’คุมอว.-มท./‘พีระพันธุ์’ดูพน.-ยธ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ ส่วนการและมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กระทรวงพลังงาน กระทรวงยุติธรรม (ยกเว้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ) กระทรวงอุตสาหกรรม การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
‘พิชิต’ดูแล สปน.-สลค.-สำนักพุทธฯ
นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ สำนักงบประมาณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ การมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบัณฑิตยสภา) ส่วนการมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน)
‘จิราพร’กรมประชาฯ-อสมท.-สคบ.
น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยการมอบหมายให้กำกับรัฐวิสาหกิจ ดังนี้ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ส่วนการมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
‘ภูมิธรรม’ยืนหนึ่ง!รรชก.แทนนายกฯ
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมครม.วันนี้ (7 พ.ค.)มีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสม คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้1 ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ ดังนี้1) นายภูมิธรรม เวชยชัย2) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3) นายพิชัย ชุณหวชิร4) นายอนุทิน ชาญวีรกุล 5) พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 6) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
2. ในระหว่างรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนข้างต้น จะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี