‘กมธ.อุตฯ’เตรียมซักคืบหน้า‘กากแคดเมียม-ไฟไหม้โรงงานสารเคมี’ หนุนรัฐออก‘ใบ รง.4’

‘กมธ.อุตฯ’เตรียมซักคืบหน้า‘กากแคดเมียม-ไฟไหม้โรงงานสารเคมี’ หนุนรัฐออก‘ใบ รง.4’

วันพุธ ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 12.40 น.

‘กมธ.อุตสาหกรรม’เชิญหน่วยเกี่ยวข้องแจงคืบหน้าปมขนย้าย‘กากแคดเมียม-ไฟไหม้โรงงานมาบตาพุด ระยอง-อยุธยา หนุนรัฐเร่งออก‘ใบ รง.4’ เตือนหากยังอืดระวังส่งผลกระทบเศรษฐกิจ

15 พฤษภาคม 2567 ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม กมธ.ฯว่า ที่ประชุมได้เชิญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมเมืองแร่ กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับผู้ที่ละเมิดกฎหมายทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ประกอบการว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง เกี่ยวกับการขนย้ายกากแคดเมียม ส่วนความคืบหน้าในการขนย้ายกากแคดมียมนั้นทางกมธ.ฯจะเป็นการติดตามว่ามีการขนย้ายกากแคดเมียมแล้วเสร็จไปแล้วกี่ตัน โดยเบื้องต้นทราบว่าทางกรุงเทพฯขนย้ายเสร็จแล้ว ส่วนจ.สมุทรสาคร และชลบุรี จะให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจงในส่วนนี้  


ส่วนเรื่องใบอนุญาตโรงงานที่ยังค้างการพิจารณาอยู่หลาย 100 รายโดยต้องเร่งออกใบอนุญาตตามคำสั่งของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนั้น นายอัครเดช กล่าวว่า ในส่วนนี้ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงถึงปัญหาในการออกใบอนุญาตโรงงาน โดยเบื้องต้นพบว่าเอกสารไม่ครบถ้วน และมีการส่งกลับไปให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดรวบรวมเอกสารเพิ่ม คาดว่าขณะนี้จะส่งกลับมาที่กรมฯแล้ว ซึ่งเมื่อเอกสารครบแล้วก็จะสามารถอนุญาตออกใบ รง.4 ได้ ซึ่งในส่วนของกมธ.ฯได้ให้ข้อสังเกตไปว่าการออกอนุญาตตามที่นายกฯเร่งรัดนั้นเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเพราะประเทศต้องตอบรับการลงทุนจากนักลงทุน ดังนั้นใบอนุญาตออกช้าย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ดังนั้นสิ่งที่นายกฯสั่งจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“กมธ.ฯมองว่านอกจากออกใบอนุญาตแล้วต้องมีการกำกับให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติตามระเบียบเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ใช่เมื่อได้ใบอนุญาตแล้วขาดการกำกับดูแลจะทำให้ผู้ประกอบการละเมิดกฎหมายส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม”นายอัครเดช กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีไฟไหม้โรงงานหลายแห่งที่สามารถบ่งชี้ว่ามาจากการวางเพลิง หรืออาจเป็นอุบัติเหตุ นายอัครเดช กล่าวว่า ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เกิดจากอุบัติเหตุนั้นเกิดจากการที่ภาวะอากาศร้อนจัด เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้งเป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือการควบคุมเพลิงต้องรวดเร็ว ในวันนี้ทาง กมธ.ฯจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวกับการควบคุมเพลิง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)เข้าชี้แจงว่าเวลาเกิดเพลิงไหม้มีแผนในการเผชิญเหตุและการควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างไร เพื่อดูความพร้อมในการควบคุมเพลิง

นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นการวางเพลิงเพื่อเผาทำลายหลักฐาน เช่นกรณีไฟไหม้ที่จ.ระยอง และพระนครศรีอยุธยา เป็นสิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าจะต้องเร่งรัดดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดให้ได้ ซึ่งทางกมธ.ฯสนับสนุนแนวคิดของรมว.อุตสาหกรรม โดยกระบวนการติดตามผู้กระทำความผิดทั้งการสืบสวนและสอบสวน เป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ

เมื่อถามว่าถึงเวลาจำเป็นแล้วหรือไม่ที่จะต้องพัฒนาแอพพลิเคชั่นในการแจ้งเตือนประชาชน นายอัครเดชกล่าวว่า ในส่วนของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ไม่ว่าจะในกรณีการวางเพลิง หรืออุบัติเหตุ สิ่งสำคัญที่สุดคือแผนเผชิญเหตุ การสื่อสารจากภาครัฐไปยังประชาชนเป็นสิ่งสำคัญจะต้องมีการสอบข้อเท็จจริงและได้รับข้อสังเกตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชุมครั้งนี้ด้วย

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top