‘ก้าวไกล’ส่งเรื่องถกกมธ.นิรโทษฯ
โหน 'บุ้ง ทะลุวัง'!
ลุ้นรวมคดี112ได้สิทธิประกันตัว
กรมคุกแจงจัดหมอดูแลอย่างดี
ยันไร้ภาวะวิกฤตก่อนช็อกดับ
หาม‘ตะวัน’ส่งรพ.ธรรมศาสตร์
กรมราชทัณฑ์ตั้งโต๊ะแถลงยันดูแล “บุ้ง ทะลุวัง”ใกล้ชิดตามมาตรฐานการแพทย์-สิทธิมนุษยชน ชี้อาการปกติ กินอาหารได้มีข้าวต้ม–ไข่เจียว แต่ปฏิเสธรับสารอาหาร-ยาบำรุงมาตั้งแต่ถูกคุมขัง ผอ.รพ.ยันก่อนเกิดเหตุไม่มีภาวะวิกฤติ ลั่นไม่มีหมอเทวดาที่ไหนรักษาผู้ต้องขังมีอุดมการณ์อดอาหารได้ นักข่าวซักหนักหลังมีบางช่วงผู้บริหารราชทัณฑ์ให้ข้อมูลก่อนช็อคดับสับสน ด้านก้าวไกลเตรียมชงเคส ‘บุ้ง ทะลุวัง’ ถกใน ‘กมธ.นิรโทษกรรม’ 16 พค.หวังได้คำตอบชัดๆ จะรวมคดี ม.112 ด้วยหรือไม่ ชี้กลไกรัฐ ช่วยชะลอคดีได้
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่กรมราชทัณฑ์ นายแพทย์สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ นางอาจารี ศรีสุนาครัว ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง, และนายแพทย์พงศ์ภัค อารียาภินันท์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ร่วมแถลงข่าวกรณีนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคมหรือ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมืองที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการเสียชีวิตขณะอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์
ราชทัณฑ์แถลงไทม์ไลน์ก่อนบุ้งตาย
โดยนายแพทย์สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า กรมราชทัณฑ์รับตัวนางสาวเนติพรมาควบคุมตัวไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางเมื่อวันที่ 26 มกราคม ขณะนั้นนางสาวนิติพรอดอาหารอยู่แล้ว ซึ่งทัณฑสถานหญิงกลางได้เฝ้าระวังใกล้ชิด เนื่องจากพบว่ามีอาการอ่อนเพลียจากภาวะอดอาหาร จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลทัณฑสถานหญิงกลาง
กินได้-แต่ไม่รับสารอาหารยาบำรุง
ต่อมาวันที่ 29 กุมภาพันธ์- 8 มีนาคม ส่งตัวเข้ารักษาที่ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ จากอาการอ่อนเพลีย จากนั้นวันที่ 8 มีนาคม-4 เมษายน ย้ายตัวนางสาวเนติพรไปรักษาโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เป็นเวลา 27 วัน และมีรายงานว่าปฏิเสธการรับสารอาหาร ยาบำรุงเลือดด้วยเช่นกัน และยังอยู่ในภาวะทั่วไปที่รับประทานอาหารเองได้ จึงมองว่าไม่น่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น กระทั่งวันที่ 4 เมษายน แพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯจึงมีหนังสือส่งตัวนางสาวเนติพรกลับมารักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากเห็นว่าสามารถรักษาต่อได้ ซึ่งหลังนางสาวเนติพรกลับมาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แล้วรับประทานอาหารได้บ้างตามลำดับ โรงพยาบาลราชทัณฑ์จัดให้พักในห้องผู้ป่วยรวมที่มีนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เพื่อนสนิทพักอยู่ด้วย
ยันมีหมอพยาบาลเฝ้าดูอาการตลอด
นายแพทย์สมภพกล่าวยืนยันว่า แพทย์และพยาบาลเฝ้าตรวจรักษาอาการอยู่ตลอดเวลา ขณะนั้นพบว่านางสาวเนติพร รู้สึกตัวดีมีอาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ กระทั่งวันเกิดเหตุคือวันที่ 14 พฤษภาคม เวลาประมาณ 06.00 น. นางสาวเนติพร เกิดอาการวูบหมดสติไปขณะพูดคุยกับนางสาวทานตะวัน เจ้าหน้าที่จึงให้การช่วยเหลือและกระตุ้นหัวใจทันที พร้อมประสานส่งตัวไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กระทั่งมีข่าวว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา
“ยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์ ให้ความสำคัญตามหลักสิทธิมนุษยชนสิทธิขั้นพื้นฐานและหลักนิติธรรม เฝ้าระวังและดูแลรักษาอาการของนางสาวนิติพลอย่างใกล้ชิด และเพื่อความโปร่งใสกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสาเหตุการเสียชีวิตของนางสาวนิติพร เมื่อทราบผลการชันสูตรออกมาอย่างชัดเจนแล้วจะแถลงให้ทราบ”นายแพทย์สมภพ กล่าว
ก่อนช็อกอาการปกติแค่ปวดหัว
และว่า สำหรับอาการของนางสาวเนติพร ก่อนเกิดภาวะช็อก นางสาวเนติพรมีอาการปกติทุกอย่าง ยังอยู่ในภาวะทั่วไปที่รับประทานอาหารเองได้ จึงมองว่าไม่น่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และในเช้าวันเกิดเหตุก็ยังสามารถคุยกับนางสาวทานตะวันได้ตามปกติ กล่าวเพียงว่ามีอาการปวดหัว
สำหรับแนวทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ต่อผู้ต้องขังที่มีเจตนารมณ์อดอาหารนั้น นายแพทย์สมภพ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มต้นจะส่งนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยและโน้มน้าว แต่หากผู้ต้องขังยังยืนยันเจตนาเดิม กรมราชทัณฑ์ก็จะใช้แนวทางปฏิบัติทางการแพทย์ ทั้งด้านจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์เข้าประเมินร่างกาย หากพบว่าเกิดภาวะที่มองว่าน่าจะเกิดอันตราย เกินศักยภาพของสถานพยาบาลเรือนจำก็จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแม่ข่าย
ผอ.รพ.ยันก่อนเกิดเหตุไม่มีภาวะวิกฤติ
ด้านนายแพทย์พงศ์ภัค อารียาภินันท์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์กล่าวเสริมว่า ตั้งแต่หลังวันที่ 4 เมษายนที่กลับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ นางสาวนิติพรยังมีอาการอ่อนเพลีย รับประทานอาหารได้บ้างตามลำดับ เช่น ข้าวต้ม ไข่เจียว โดยจัดหาอาหารให้ทั้ง 3 มื้อ และยืนยันที่ผ่านมาได้แนะนำกับนางสาวเนติพรตลอดว่า การอดอาหารอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งนางสาวนิติพรรับทราบต่อเนื่องแต่ยังยืนยันแนวทางเดิม มีเจตจำนงปฏิเสธรับเกลือแร่หรือวิตามิน ยืนยันว่าให้การรักษาและดูแลตามมาตรฐาน ก่อนเกิดเหตุไม่มีภาวะวิกฤต อย่างไรก็ตาม ในการนำตัวนางสาวเนติพรไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์นั้นไม่ได้ใช้เครื่อง AED หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจ เพราะไม่มีข้อบ่งชี้
ราชทัณฑ์แจงสับสนข้อมูลไม่ตรงกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสอบถามถึงข้อมูลลำดับเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ รวมถึงขั้นตอนการช่วยเหลือกู้ชีพนางสาวเนติพรทั้งหมด ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์และผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีความสับสน ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน เช่น ช่วงแรกผู้ตรวจฯกล่าวว่าไม่พบสัญญาณชีพของนางสาวเนติพรจึงได้ฉีดยากระตุ้นหัวใจ แต่ภายหลังแพทย์ให้ข้อมูลว่า มีสัญญาณชีพอ่อน ผู้ต้องขังที่ได้รับการฝึกให้เป็นผู้ช่วยพยาบาลจึงได้ CPR ที่เตียงนอน จนมีสัญญาณชีพกลับมา ก่อนเจ้าหน้าที่จะพยุงนางสาวเนติพรลงไปห้องรักษาพยาบาล รวมถึงข้อมูลก่อนนางสาวเนติพรจะหมดสติ ที่ยังสับสนว่านางสาวนิติพรลุกไปเข้าห้องน้ำและพูดคุยกับนางสาวทานตะวันว่าปวดท้องหรือไม่
ผู้ตรวจฯติงผอ.รพ.กลางวง
นอกจากนี้ ผู้ให้ข้อมูลสับสนว่านางสาวทานตะวันเห็นเหตุการณ์ขณะบุ้งกระตุกหรือไม่ น่าจะตอนแรกให้ข้อมูลว่าเกิดเหตุขณะขณะตะวันหลับอยู่ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้อย่างไรเมื่อมีคนหนึ่งไปเข้าห้องน้ำอยู่ ผอ.รพ.จึงให้ข้อมูลใหม่ว่า ตะวันเองก็วัดความดันอยู่เช่นกัน ขณะที่บุ้งเกิดอาการกระตุก ซึ่ง ผอ.รพ.อ้างว่าได้ดูเพียงกล้องบันทึกภาพขณะเกิดเหตุการณ์เท่านั้น แต่ช่วงอื่นไม่ทราบและไม่ได้ดูกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนได้ ทำให้ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ตำหนิผอ.รพ.ว่า ผู้อำนวยการฯยังสับสนในคำถาม ไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดได้ แต่ผู้ตรวจฯยืนยันว่าดำเนินการตามมาตรฐานการการกู้ชีพทั้งหมด ตามจรรยาบรรณแพทย์ พร้อมอ้างว่าเป็นข้อมูลที่ลึกเกินไป แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง
“ตะวัน-แฟรงค์”แข็งแรงกินได้ปกติ
ด้านอาการของน.ส.ทานตะวันและนายแฟรงค์ที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลนั้น อาการแข็งแรงดีและกลับมารับประทานอาหารตามปกติแล้ว โดยแฟรงค์ทานอาหารได้มากขึ้นและเดินได้ ส่วนนางสาวทานตะวันยังมีภาวะเครียด อาการซึมเศร้า รับประทานอาหารได้น้อย ซึ่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ส่งจิตแพทย์เข้าไปดูแลใกล้ชิดแล้ว ยืนยันราชทัณฑ์ดำเนินการตามมาตรฐานอยู่แล้ว แต่หากเกิดเหตุถึงแก่ชีวิต ไม่มีแพทย์ที่ไหนยื้อชีวิตได้
หมอเทวดารักษาคนอดข้าวไม่ได้
“แม้นางสาวธิติพรเองทำนิติกรรมไว้ล่วงหน้า เนื่องจากมุ่งมั่นในอุดมการณ์และเราไม่สามารถแตะต้องอะไรได้ เราช่วยชีวิตได้ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น เป็นที่เข้าใจกันอยู่ ส่วนการป้องกันเราพยายามส่งนักจิตวิทยาเข้าไปโน้มน้าวแล้ว แต่หากเขายืนยันกระทั่งเกิดเหตุการณ์ร่างกายทนไม่ไหวแล้ว ราชทัณฑ์ทำเต็มที่ก็คือ ส่งให้แพทย์รักษาเท่านั้น ส่วนการให้เปลี่ยนใจนั้นทำไม่ได้เป็นเรื่องยาก ถ้าร่างกายมาถึงจุดที่ไม่สามารถดูแลได้แล้วก็ยาก ต่อให้เป็นแพทย์เทวดาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้“นายแพทย์สมภพกล่าว
ส่ง“ตะวัน”ไปรพ.ธรรมศาสตร์
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทวิตเตอร์ของ ทะลุแก๊ส รายงานว่า ตะวัน ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในเวลา 13.00 น. ขณะที่ เฟซบุ๊กส่วนตัว “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ โพสต์ข้อความระบุ ตะวันถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เมื่อเวลา 13.00 น.
นายกฯลั่นรบ.ให้ความเป็นธรรม
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวบุ้ง ทะลุวังด้วย มั่นใจรัฐบาลจะให้ความเป็นธรรม โดยสั่งให้กระทรวงยุติธรรมสืบสวนสอบสวนรายละเอียดการเสียชีวิต เอาเรื่องนิติเวชศาสตร์มาพิสูจน์ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมถึงหลายกลุ่ม เรียกร้องให้ปล่อยตัวเยาวชนที่เหลือที่ถูกดำเนินคดี จะคุยกับกระทรวงยุติธรรมอย่างไรนั้น ตนเชื่อว่ารัฐมนตรียุติธรรมได้ยินเสียงเรียกร้อง เรื่องนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาและจะพูดคุยกันในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
ก.ก.ชงเคสบุ้งถกกมธ.นิรโทษกรรม
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม คนที่ 2 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุม กมธ. วันที่ 16 พฤษภาคมนี้ ตนจะเสนอให้กมธ.พิจารณากรณีเกี่ยวเนื่องกับน.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดี มาตรา 112 ซึ่งเสียชีวิตระหว่างคุมขัง ประเด็นการนิรโทษกรรมม เพื่อไม่ให้ผู้เห็นต่างทางการเมือง ซึ่งมีคดีผิดมาตรา 112 ต้องเสียชีวิตอีก อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่านอกจากตนแล้วจะมีกมธ.คนอื่น เช่น น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่ร่วมเสนอประเด็นและพูดคุย เพราะขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ดังนั้น กมธ.ควรพูดคุยให้เกิดความชัดเจนเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม นายรังสิมันต์กล่าวยอมรับว่าการพิจารณาของ กมธ. ยังไม่ชัดเจนว่าผลการพิจารณานั้นจะรวมคดีผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยหรือไม่ ที่ผ่านมาส่วนของพรรคก้าวไกลเสนอว่าไม่ควรตั้งต้นที่ประเภทของคดี แต่ควรพิจารณาจากแรงจูงใจทางการเมืองที่เป็นต้นเหตุสำคัญ แต่ถ้ากมธ.ตั้งต้นที่ประเภทคดีแล้ว ควรพิจารณาให้ครบทุกคดี ไม่ควรมีคดีใดที่ตกหล่นจากการได้รับการนิรโทษกรรม เพราะบางกรณีพบการแจ้งข้อหานั้นกระบวนการกล่าวโทษมีปัญหา และใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมือง
จี้ให้นักโทษการเมืองได้ประกันตัว
นายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า ในการนิรโทษกรรมนั้น ตนมองไปไกลกว่ากมธ. เนื่องจากบุคคลที่เป็นกมธ.นิรโทษกรรม หลายคนเป็นผู้อาวุโสที่มีบทบาทต่อรัฐบาล ดังนั้น ควรพิจารณาในคดีที่ไม่ได้ประกันตัวให้ได้รับการประกันตัว เพื่อได้ใช้สิทธิต่อสู้คดี และไม่ให้เกิดกรณีของน.ส.เนติพรซ้ำรอยอีก นอกจากนั้นมาตรการที่ทำได้โดยรัฐบาล ผ่านกลไกชะลอคดีที่มีเงื่อนไขที่ตรงกับการนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ควรได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม
ทนายร่วมสังเกตการณ์ผ่าศพบุ้ง
เวลา 12.30 น.ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ สาขานิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์หลังร่วมสังเกตการณ์ผ่าชันสูตรพลิกศพนางสาวเนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวังว่า การผ่าเป็นไปตามหลักทฤษฎีและเปิดเผย รวมทั้งนำเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆส่งตรวจห้องปฎิบัติการอย่างละเอียดว่า มีการกระทบกระเทือนอะไรหรือไม่ ส่วนสารคัดหลั่งและเลือด ส่งตรวจที่แล็ป โรงพยาบาลรามาธิบดี เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญและมีเครื่องมือทันสมัย ส่วนรายละเอียดเรื่องสารพิษหรือว่าเลือดมีสารมีอะไรปะปนอยู่หรือไม่ ต้องรอผลจากโรงพยาบาลรามาธิบดี ตลอดการผ่าศพ ตนสอบถามแพทย์หลายเรื่อง ทั้งเรื่องของหัวใจล้มเหลว ซึ่งแพทย์บอกว่าต้องผ่าตัดหัวใจดู แล้วจะนำไปวิเคราะห์อีกครั้งว่าเกิดจากสาเหตุใด
เบื้องต้นไม่พบอาหารในกระเพาะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการผ่าชันสูตรศพครั้งนี้ เห็นน้ำ นม หรืออาหารในกระเพาะหรือไม่ นายกฤษฎางค์เผยว่า เท่าที่ดูด้วยตาเบื้องต้นไม่พบอะไรเลย ในรายละเอียดว่าจะอยู่ในลำไส้ใหญ่หรือลำไส้เล็กหรือไม่ ต้องรอผลที่ชัดเจน ให้รอฟังข้อสรุปจากแพทย์อีกครั้ง รวมถึงผลค่าตับกับค่าไตด้วยว่ามีสารพิษหรือไม่ ส่วนสภาพภายนอกพบว่า มีรอยช้ำเล็กน้อย อาจเกิดจากการหอบหิ้วหรือถูกอุ้มและซี่โครงบางซี่ ได้รับการกระเทือนจากการทำซีพีอาร์
ไม่เชื่อราชทัณฑ์-ชี้คนสบายดีคงไม่ตาย
ถามถึงการแถลงของกรมราชทัณฑ์ที่ระบุหลังบุ้งกลับไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้กินอาหารคือข้าวต้มกับไข่เจียว และอยู่ด้านในแบบสุขสบายนั้น นายกฤษฎางค์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่สำคัญสำหรับตน เพราะบุ้งจะกินหรือไม่กินหรือจะอยู่แบบสุขสบาย แต่ว่าการเสียชีวิตแบบนี้ มันตายในอ้อมแขนของคุณ ซึ่งถ้าคนสุขสบายดี คงไม่ตายหรอก ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนหรือวิญญูชนคงรู้ว่าใครแถลงเท็จและกรมราชทัณฑ์เอง ก็แถลงแบบนี้ทุกครั้ง ตั้งแต่คนไม่ป่วย ก็แถลงให้ป่วย กระทั่งส่งออกไปรักษาข้างนอกได้ ก็อยากถามทุกคนว่าเชื่อหรือไม่ แต่เป็นตน ถ้ากรมราชทัณฑ์แถลง ตนไม่เคยเชื่อ ปัญหานี้ทำให้เกิดความข้องใจ จริงๆแล้วกรมราชทัณฑ์ควรตอบคำถามกับประชาชนดีกว่าตัวเองไม่ไหว เลยต้องส่งกลับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ
บุ้งตายในรบ.เศรษฐาจี้นายกฯลงมาดู
นายกฤษฎางค์ยังกล่าวถึงนายกฯด้วยว่า อยากให้นายกฯลงมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังมากกว่าที่จะพูด อยากให้ลงมาเลย และขอให้ส่งคนกลางมาร่วมดูแลเรื่องนี้ด้วย ร่วมกับรมว.ยุติธรรม เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาของกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว อีกทั้ง ประเทศเรากำลังสมัครเป็นมนตรีสิทธิมนุษยชน ถ้าคนถูกคุมขังแล้วตายแบบนี้ ท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ส่วนตัวมองว่าบุ้งเสียชีวิตในการควบคุมของรัฐบาลเศรษฐา ต้องหาคนรับผิดชอบ แต่ถ้าเป็นเหตุสุดวิสัย ก็ต้องว่ากันไป มันต้องชัดเจน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี