‘รัชดา’แนะ‘อุ๊งอิ๊ง’ ลดแต่งแบรนด์เนมหันมาใส่ผ้าไทย ผลักดัน‘ซอฟต์เพาเวอร์’เริ่มที่ตนเองก่อน
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2567 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในประเด็นบทบาทของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึงถือเป็นคนรุ่นใหม่คนหนึ่งในแวดวงการเมือง ว่า ทุกคนมีโอกาสพัฒนา ซึ่งเรื่องของการเมืองก็คือความเข้าใจหัวอกของพี่น้องประชาชน เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม ทุกคนจึงมีโอกาสทำงานตรงนั้น ซึมซับปัญหา และมีทีมงานยกร่างนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา
แต่สำหรับคนที่มีตำแหน่ง สส. โดยหน้าที่แล้วก็ต้องอยู่กับประชาชน เช่น หากเปรียบเทียบระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับคนรุ่นใหม่ที่เป็น สส. ของพรรคก้าวไกล สส. นั้นไม่ว่าพรรคใดก็จะอยู่กับพื้นที่ เข้าใจปัญหาและมีทีมงาน ดังนั้นในส่วนของ น.ส.แพทองธาร ตนไม่ทราบว่าอยู่ใกล้ชิดกับปัญหาของประชาชนมาก-น้อยเพียงใด เพราะการอ่านข่าวหรือมีคนมารายงานก็ไม่เหมือนกับการไปเดินไปนั่งคุยอยู่กับปัญหานั้นอย่างจริงจัง คือตำแหน่งแห่งหนอยู่คนละจุดกัน สส. ต้องอยู่กับประชาชน แต่ น.ส.แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรค
“เขาก็จะบอกว่าเข้าใจปัญหาของประชาชนนะ โดยที่ สส. ในพรรคก็มารายงานให้ทราบแล้วก็นำเสนอว่าอยากจะให้รัฐบาลแก้ปัญหาตรงไหน? ขับเคลื่อนอย่างไร? งบไปลงตรงไหน? เขาก็บอกว่ารู้ปัญหาของประชาชน อันนั้นก็เป็นไปได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าเจ้าตัวทำการบ้าน เข้าใจเพียงแค่เหมือนกับคนมาเล่าให้ฟัง หรือว่าฟังด้วยใจ ฟังแล้วได้ยินและคิดตามอย่างเข้าใจ” น.ส.รัชดา กล่าว
น.ส.รัชดา กล่าวต่อไปว่า ส่วนการทำงานที่ผ่านมาของ น.ส.แพทองธาร โดยเฉพาะการเน้นหนักเรื่องการผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ ว่า ซอฟต์เพาเวอร์ต้องใช้เวลา แต่ก็มีคำถามว่า นิยามคำว่าซอฟต์เพาเวอร์ของรัฐบาลนั้นใช่จริงหรือ? คือคำว่าซอฟต์เพาเวอร์นั้นดังมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร เช่น นโยบาย “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์” ก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ว่าตกลงแล้วแต่ละครอบครัวต้องนำเสนออะไรออกมา อาทิ วิธีการเลี้ยงลูก วิธีการทอผ้า วิธีการทำกับข้าว หรืออะไรที่ต้องการให้กระทรวงมหาดไทยไปขับเคลื่อน
หรืออย่างคำถามว่า อะไรคือซอฟต์เพาเวอร์ของครอบครัวชินวัตร แล้วอยากให้คนอื่นๆ ในประเทศเอาอย่างอย่างไร ซึ่งจริงๆ ตนก็ให้เวลา เพราะเข้าใจระบบการบริหารราชการ ไม่อยากตัดสินทุกเรื่องว่าไม่เห็นอะไรเลย บางเรื่องกว่างบประมาณจะมา บางเรื่องกว่าจะทำความเข้าใจทุกองคาพยพ ล้วนมีเงื่อนเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ตนอยากเห็นในฐานะที่ น.ส.แพทองธาร ดูแลเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ คือการแต่งตัวที่บ่งบอกความเป็นไทยออกงานมากกว่านี้
ซึ่งตนก็เข้าใจหัวอกคนมีเงินและชอบแต่งตัว รู้ว่าอยากแต่งตัวที่เป็นตัวเองและอยากสวย แต่เมื่อมาอยู่บนเส้นทางการเมืองและมีฐานะเป็นประธานซอฟต์เพาเวอร์ อีกทั้งยังเน้นส่งเสริมผ้าไทย ก็ต้องหาจังหวะและโอกาสนำเสนอ อย่างน้อยคนก็เห็นว่าซอฟต์เพาเวอร์คือผ้าไทย น.ส.แพทองธาร นำผ้าไทยที่ถูกมองว่ามีแต่ผู้สูงอายุที่ใช้มาสวมใส่ ซึ่งหากมีคนตัดชุดให้ก็ดูเก๋ แล้วขยับจากเผ้าไทยมาเป็นเครื่องประดับ เช่น ตุ้มหู หยิบมานำเสนอก็สามารถทำได้ แต่เนื่องจากชีวิตปกติทั่วไป น.ส.แพทองธาร สวมใส่แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนม
“มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่วันนี้คุณทำงานภายใต้ประธาน มีบทบาท ว่าที่อาจจะเป็นนายกฯ หญิง คนก็คาดหวัง แล้วพอมาเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ที่มันเชื่อมกับเรื่องของการแต่งตัว ทุกคนก็อยากเห็นว่า อ้าว!..แล้วอย่างไรล่ะ? แล้วพอเป็นนักการเมือง ทั้งหมวกทั้งเสื้อ คนก็ทำเป็นคอนเทนต์คอยวิจารณ์ แล้วมันก็ไม่เป็นบวกกับตัวเอง อันนี้พูดในลักษณะของการติเพื่อก่อ เพราะไม่อยากให้นักการเมืองคนไหนก็ตาม โดยเฉพาะผู้หญิง ถูกจับจ้องในเรื่องเล็กๆ แบบนี้ แต่เล็กๆ แบบนี้ มันค่อยๆ กัดกร่อนความนิยมของนักการเมืองไปทีละนิดๆ” น.ส.รัชดา กล่าว
น.ส.รัชดา ยังกล่าวอีกว่า ในทางกลับกัน คนที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับของ น.ส.แพทองธาร วันหนึ่งเห็น น.ส.แพทองธาร ไปลงพื้นที่แล้วแต่งตัวธรรมดาๆ และเป็นของไทยๆ เขาก็อาจรู้สึกว่ามันดูดีนะ ก็มีแต้มบวกเกิดขึ้น ตนมองว่าเราต้องลดความรู้สึกว่าก็ฉันมีอิสระ หรือฉันก็คนคนหนึ่ง เพราะในเมื่อมาเป็นนักการเมืองและคาดหวังว่าจะมีตำแหน่งสูง ก็ต้องคิดว่าประชาชนจะมองตัวเราอย่างไร
ชมคลิปเต็มได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=9gwEN2sdejU
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี