'ไทยสร้างไทย'จวกรัฐบาลแก้ปัญหามลพิษจากไฟไหม้โรงงานสารเคมี จ.ระยอง ล่าช้า ไม่ทันการณ์ความเดือดร้อน-ฤดูฝนกำลังมา แนะใช้งบกลางขจัดมลพิษ สุขภาพอนามัยและชีวิตประชาชนต้องมาก่อน
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2567 นายศักดิ์ณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นต่อการแก้ไขปัญหาการบำบัดสารเคมีร้ายแรงตกค้างในดิน ในน้ำ และใต้ดิน ตลอดจนการย้ายสารเคมีของ บ.วิน โพรเสส จ.ระยอง ที่ถูกเพลิงไหม้ ว่าล่าช้า ไม่ทันการณ์ขณะที่ฤดูฝนกำลังย่างเข้ามา ที่สำคัญชาวบ้านยังรวมตัวกันร้องเรียนต่อจังหวัด และกระทรวงอุตสาหกรรมให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ตนเห็นความเดือดร้อนของประชาชนที่เพียรพยายามร้องเรียนด้วยความเห็นใจอย่างยิ่ง เท่าที่ติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหา มีปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง คืองบประมาณ การขจัดมลพิษซึ่งเป็นสารเคมีร้ายแรงอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากลต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก การใช้งบประมาณปกติของกระทรวงอุตสาหกรรม และการฟ้องร้องจาก บ.วิน โพรเสส น่าจะไม่ทันการณ์ความเดือดร้อนประชาชนในขณะที่ฤดูฝนย่างเข้ามา
ดังนั้น หนทางเดียวที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชนต้องยกปัญหาด้านสุขภาพอนามัยและชีวิตประชาชนเป็นปัญหาสำคัญสูงสุดและถือเป็นภัยพิบัติ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องรีบแก้ไข ซึ่งกรณีดังกล่าวเข้าหลักเกณฑ์การใช้งบกลาง ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการมีงบกลางก็เพื่อแก้ไขปัญหาภัยพิบัติฉุกเฉินที่พี่น้องประชาชนได้รับอย่างทันท่วงที
เท่าที่ได้ติดตามสถานการณ์พบว่าสารเคมีร้ายแรงของ บ.วิน โพรเสส ไม่ได้รับการบำบัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชา ได้ไหลจากบ่อพักสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ลงทั้งน้ำและดินรอบๆ บริเวณโรงงาน นอกจากนั้น ก็ควรตรวจสอบว่ามีการลักลอบปล่อยสารเคมีร้ายแรงโดยไม่ผ่านการบำบัดลงยังชั้นใต้ดินหรือไม่ โดยควรให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลขุดเจาะสำรวจน้ำใต้ดินว่ามีสารเคมีร้ายแรงจากโรงงานปนเปื้อนในชั้นน้ำใต้ดินหรือไม่ เพราะหากมี จะเป็นอ้นตราย ยิ่งเมื่อมีการนำน้ำนั้นไปใช้ในการอุปโภค บริโภค
"ขอเสนอแนะว่า กระทรวงอุตสาหกรรมควรของบกลางจากรัฐบาลมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทันการณ์ พรรคไทยสร้างไทยขอเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบว่า รัฐบาลจะใช้งบกลางอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่ ยิ่งขณะนี้มีข่าวว่า รัฐบาลจะใช้งบประมาณปี 2567 ส่วนหนึ่ง ไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นกรณีที่เราจะต้องคัดค้านอย่างแข็งขัน เฉพาะอย่างยิ่ง หากนำงบกลางที่จะต้องเตรียมไว้เพื่อแก้ไขปัญหาภัยพิบัติของพี่น้องประชาชนไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง เป็นเรื่องที่พรรคไทยสร้างไทยและประชาชนรับไม่ได้ และต้องคัดค้านอย่างแน่นอน
ส่วนการแก้ไขปัญหาโรงงานอุตสาหกรรม สร้างปัญหามลพิษแก่ประชาชน และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวนั้น ขณะนี้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในระบบราชการ ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมควรนำวิกฤตที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นโอกาสที่จะยกเครื่องกระบวนการจัดตั้ง และการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมให้ได้มาตรฐานสากล เพราะปัจจุบันโลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ประเทศของเราและพี่น้องประชาชนจะอยู่ยากหากประเทศไทยก้าวไม่ทันกับพัฒนาการของโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี