ชนวนปัญหาการเมือง!!! "ชัยธวัช"รับเคส"ทักษิณ"ถูก อสส.สั่งฟ้องคดี ม.112 สร้างเอฟเฟกต์ลามเข็น กม.นิรโทษกรรม เหมาเข่งคดี ม.112 ยัน กมธ.เร่งพิจารณาเนื้อหาส่งสภาฯ ก.ค.นี้
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการขับเคลื่อนนิรโทษกรรมในคดีมาตรา 112 ว่า ยอมรับว่ามีอุปสรรคมากขึ้น หลังจากที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกอัยการสูงสุด (อสส.) สั่งฟ้องในคดีความผิดตามประมวลกฎหมาอาญามาตรา 112 ซึ่งเรื่องนี้ใน กมธ.ยังไม่ได้หารือ แต่ส่วนตัวมองว่าจะมีผลกระทบ
เมื่อถามว่า การศึกษาของกมธ.ฯ จะวางหลักอย่างไร เมื่อมีประเด็นผูกโยงกับกรณีของนายทักษิณ และกมธ.มีคนของพรรคเพื่อไทยเป็นเสียงข้างมาก นายชัยธวัช กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่ากรณีของนายทักษิณ จะทำให้การเสนอพิจารณานิรโทษกรรมมีปัญหาทางการเมืองมากขึ้น แต่การทำงานของกมธ. ที่จะประชุมวันนี้ (30 พ.ค.) ประเด็นของมาตรา 112 ไม่ใช่วาระหลักที่จะพิจารณา แต่มีประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ กลไกกรรมการที่ทำหน้าที่พิจารณาคดีที่จะได้รับการนิรโทษกรรม ทั้งองค์ประกอบ อำนาจ หน้าที่ ของกรรมการเป็นอย่างไร ซึ่งมอบหมายให้อนุกรรมการไปศึกษา
“ในรูปแบบคณะกรรมการที่จะพิจารณาคดีที่จะได้รับการนิรโทษกรรม แทนการบัญญัติฐานความผิดให้นิรโทษกรรมโดอัตโนมัติ เพราะอาจไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่มีคดีความต่อเนื่องยาวนาน อย่างไรก็ดีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ากรรมการอาจมีอำนาจเหนือศาลหรือรัฐบาลนั้น ข้อเท็จจริงกฎหมายนิรโทษกรรมคือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ผ่านอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และสามารถทำได้ ซึ่งทำมาทุกครั้ง เช่น การนิรโทษกรรมในอดีต ในคดีมาตรา 112 สามารถออกพระราชกำหนดแบบสั่งให้คดีหมายเลขนี้ ที่อยู่ในชั้นศาลให้ปล่อยตัวได้” นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามว่าในการทำงานได้วางหลักการของผลศึกษาออย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องเสนอแนวทางของการออกกฎหมายที่มีรายละเอียด ไม่ใช่เสนอแค่กรอบกว้างๆ จับต้องไม่ได้ คือ ต้องมีการพิจารณาในกรอบคดีที่ควรได้รับการพิจารณา กรอบเวลากระบวนการนิรโทษกรรม รวมถึงทางเลือก ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงรายละเอียดว่านิรโทษกรรมจะกินความแค่ไหน จะรวมถึงการล้างมลทินให้บุคคลที่เคยได้รับคำพิพากษาหรือได้รับโทษเสร็จสิ้นหรือไม่ เป็นต้น
เมื่อถามย้ำถึงการกำหนดบัญชีแนบท้ายเพื่อนิรโทษกรรมความผิด นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ถกเถียงเช่นกันว่าจะมีบัญชีแนบท้ายหรือไม่ หากพิจารณาให้มีกรรมการแล้วบัญชีแนบท้ายไม่จำเป็น อีกทั้งการเสนอบัญชีความผิดใน 25 ฐานความผิด รวมกันแล้วมีมากถึง 2 ล้านคดี ซึ่งการใส่บัญชีนั้นมีข้อจำกัดในตัวเอง
“กมธ.จะเร่งทำงานเพื่อทำให้เกิดรูปธรรม และสรุปว่าจะใช้กลไกแบบไหนเพื่อพิจารณานิรโทษกรรม รวมถึงมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขบางคดี หรือบางประเภทเพื่อเป็นเงื่อนไขหรือกระบวนการเบื้องต้นก่อนได้รับพิจารณานิรโทษกรรมหรือไม่ หรือเป็น เอมเนสตี้โปรแกรม เพื่อพิจารณาเรื่องที่ละเอียดอ่อนทางการเมือง ซึ่งหลังจากนี้จะประชุมทุกสัปดาห์เพื่อทันส่งให้สภาฯ พิจารณาช่วงเปิดสมัยประชุม เดือน ก.ค. นี้” นายชัยธวัช กล่าว
////
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี