ยันไม่ปล่อย‘เศรษฐา’ท้าทายคุณธรรม

สว.ชนแหลกนายกฯ

‘ดิเรกฤทธิ์’ประกาศย้ำอีกรอบ

ยอดมือกฎหมายก็ช่วยไม่ได้

คุณธรรม-จริยธรรมค้ำจุนโลก

‘เทพไท’ฉะ‘พท.’ตระบัดสัตย์

“สว.ดิเรกฤทธิ์”ย้ำ ยอดนักกฎหมายก็ช่วยไม่ได้ คดี 40 สว.ยื่นถอดถอนยันไม่ปล่อยให้“เศรษฐา”ท้าทายคุณธรรม ปมตั้ง“พิชิต”เพราะ“คุณธรรม-จริยธรรม”ค้ำจุนประเทศชาติ “เทพไท” ชี้“เพื่อไทย”ล้มละลายความน่าเชื่อถือ ปมตั้ง’เนติบริกร’นั่งกุนซือนายกฯ ตอกย้ำตระบัดสัตย์ 8 เรื่อง เย้ยกลับกลอกเหมือนลิงหลอกเจ้า เลขาฯ พท.ปลื้ม!โพลปชช.ถูกใจนโยบายรบ.เหตุเริ่มเข้าถึงปชช.ปัดหักล้างโพลพระปกเกล้า ชี้อนาคตจะมีอย่างอื่นคลอดตามมา‘อนุสรณ์’เชื่อ‘เงินดิจิทัล’เดินหน้าเมื่อไหร่ คะแนนนิยมรบ.พุ่งสูงอีกแน่

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)หนึ่งใน40 สว.โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า“เราจะไม่ยอมให้ผู้บริหารประเทศ ท้าทายคุณธรรมจริยธรรม เพราะคุณธรรมและจริยธรรมเท่านั้น ที่ค้ำจุนประเทศชาติของเรา และค้ำจุนโลก เหตุผล และจุดยืนนี้ จึงทำให้ผมเป็น 1 ใน 40 สมาชิกวุฒิสภา ที่ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบคุณธรรม และจริยธรรมของรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน”

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายดิเรกฤทธิ์ ได้โพสต์ข้อความด้วยว่า “มีประเด็นที่ควรพูดคุยให้ประชาชนเข้าใจ หลายจุด 1. ศาลและองค์กรตาม รธน.มีบุคลากรและระบบที่เป็นอิสระ เป็นเสาหลักของบ้านเมืองที่ไม่มีใครจะสั่งการและใช้ไปต่อรองทางการเมือง(ดีล)กับใครหรือฝ่ายใดได้ 2.กรณีเรื่อง 40 สว.ร้องต่อ ศรธน.ให้ตรวจสอบความซื่อสัตย์ของ นรม.และ รมต.เป็นประเด็นหัวใจของประชาธิปไตยไทย 3.การต่อสู้คดีใน ศรธน.ของ นรม.มีจุดเป็นหรือตายที่ข้อเท็จจริงการกระทำที่ผ่านมาแล้ว ใครก็ช่วยไม่ได้ ยอดนักกฎหมายก็ช่วยไม่ได้ครับ”

‘สว.วันชัย’เดือดอัดพวกมีอคติ‘แม้ว’

ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ สว.โพสต์เฟซบุ๊กว่ามนุษย์ที่หากินกับความขัดแย้ง...จะเป็นจะตายกับความสงบ เท่าที่ผมสังเกต... มันมีคนอยู่ประเภทหนึ่ง ที่ทำมาหากินอยู่กับความขัดแย้งในสังคมไทย...พวกนี้จะมีความสุขสนุกสนานและความมันส์ กับการทะเลาะเบาะแว้งของคนในสังคม... ถ้าบ้านเมืองสงบเรียบร้อย คนพวกนี้จะเป็นโรคซึมเศร้าเหงาหงอย กระเสากระแสะหมดเรี่ยวหมดแรง อาการที่ปรากฏของคนพวกนี้ คือ1. เป็นพวกอคติ มีความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงเข้ากระดูกดำ 2. เป็นพวกจินตนาการเพ้อฝัน ดันทุรังอยู่กับอดีต 3. หาเรื่องปรุงแต่งไปเรื่อย ฟุ้งซ่าน ไปวันๆ เอาแต่ด่า ด่า ด่า 4. จับแพะชนแกะ โยงไปโยงมา หาเรื่องให้วุ่นวาย 5. ยิ่งเห็นคุณทักษิณไปโน่นมานี่ มีคนแห่แหน จะมีอาการเนื้อเต้นเส้นกระตุก หัวใจสั่น หูหนาตาแดง ปัสสาวะฉุนขุ่นเหลือง ...ก็ไม่รู้จะเยียวยาอย่างไร สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม... ไปสงบจิตสงบใจ ไหว้หลวงพ่อสัมฤทธิ์ประสิทธิโชค วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน บ้างก็ดีนะ...

‘เทพไท’ซัด’เนติบริกร’นั่งกุนซือนายกฯ

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าพรรคเพื่อไทย : ความน่าเชื่อถือล้มละลาย ว่า“ผมเข้าใจเพื่อน สส.หลายคนในพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาแสดงการ ไม่ยอมรับนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมา สส. พรรคเพื่อไทยในสมัยเป็นฝ่ายค้าน ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายวิษณุ เครืองาม ในหลายประเด็นอย่างรุนแรง เมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชิญนายวิษณุมาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ก็น้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ออก เกรงใจผู้ใหญ่ในพรรค บางคนจึงเกิดอาการจุกอกได้แต่ทำใจยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น เมื่อนายเศรษฐาไปอ้อนวอนทาบทามนายวิษณุ มาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย มีบทบาทเทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายสำเร็จแล้ว หลายคนในพรรคเพื่อไทยบอกว่า ไม่รู้จะตอบคำถามกับสังคมอย่างไร เป็นเหมือนกับการเล่นเกม หลอกลวง ตบตาประชาชนและไม่แคร์ความรู้สึกของสังคมเลย

ตอกย้ำ’เพื่อไทย’ตระบัดสัตย์ 8 เรื่อง

อดีตสส.นครศรีธรรมราชยังระบุว่าซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ถูกกล่าวหาว่าตระบัดสัตย์ หักหลังประชาชนมาแล้ว จนถูกตั้งฉายาว่า เพื่อไทยการละคร และนโยบายที่ประกาศบนเวทีหาเสียง ก็ไม่สามารถทำได้ตามที่โฆษณาหาเสียงไว้ในหลายอย่าง เช่น 1.การไม่จับมือกับ3ป. คนทำรัฐประหารร่วมรัฐบาล 2.จะปิดสวิตช์ สว. แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยภายในหนึ่งปี 3.แจกเงินดิจิทัลวอลแล็ตให้กับคนไทย อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาททุกคน 4.ค่าไฟฟ้าครัวเรือนที่แพงอยู่ จะถูกลงทันที 5.ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด จะไม่มีการขึ้นราคา 6.ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท จะเติมให้ครอบครัวละ20,000บาททันที 7.จะขึ้นค่าแรง 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี เดือนละ 25,000 บาท 8.จะแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดไปทันที แต่ตอนนี้ยาเสพติดแพร่ระบาดไปทั้งเมือง

เย้ยล้มละลายความน่าเชื่อถือ

“ซึ่งนโยบายที่หาเสียงไว้ทั้งหมด ยังไม่มีนโยบายใดทำสำเร็จได้เลย การโฆษณาว่าเป็นรัฐบาลมืออาชีพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ก็ไม่ได้เป็นจริง สินค้าก็ขึ้นราคาทุกวัน ประชาชนก็ไม่มีรายได้เพิ่ม สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จนมีกระแสของแพงทั้งแผ่นดิน ดังกระหึ่มสื่อโซเชียล ล่าสุด กลับนำเอา นายวิษณุ เครืองาม มาใช้งานเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ยิ่งเป็นการตอกย้ำความตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง การกลับไปกลับมา กลับกลอกเหมือนลิงหลอกเจ้า ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยล้มละลายในเรื่องคำพูด ขาดความเชื่อถือจากประชาชนโดยสิ้นเชิง”นายเทพไท ระบุ

พท.ปลื้มโพลปชช.ถูกใจนโยบายรบ.

นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจประชาชนที่พอใจผลงานรัฐบาลในรอบ 6เดือนและถูกใจนโยบาย 30บาทรักษาทุกที่ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคพท.แกนนำรัฐบาลด้วย ว่า จริงๆก็เป็นแค่ผลสำรวจ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่านโยบายเริ่มเข้าถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลอดเวลา 8-9 เดือนที่ผ่านมาที่รัฐบาลนี้อยู่ในอำนาจ และปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรค พท. ซึ่งเมื่อปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมก็เป็นสิ่งที่ทำให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าสามารถจับต้องได้ ซึ่งตนเคยลงพื้นที่กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรี หากนโยบายนี้สามารถทำได้ทั่วประเทศก็จะสะดวกสบายมากขึ้น

ทั้งนี้ จากผลสำรวจที่ออกมาจะเห็นได้ชัดเลยว่า อันดับหนึ่งเป็นเรื่องนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ที่ประชาชนเริ่มเห็นแล้ว และตนเชื่อว่าในอนาคตจะตามมาอีกในเรื่องของนโยบายที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้พี่น้องประชาชนในเรื่องพลังงาน ต้นทุนการผลิตในทางเกษตรและราคาผลผลิตทางการเกษตร

ปัดหักล้างผลสำรวจพระปกเกล้า

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าการเปิดเผยผลสำรวจดังกล่าว เพื่อหักล้างผลโพลของพระปกเกล้าก่อนหน้านี้ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยว มันถึงรอบที่เขาจะต้องทำผลสำรวจ ตนเคารพผลโพลทุกสถาบัน เราก็นำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นบทเรียนและเป็นสิ่งที่จะต้องกระตุ้นในการทำงาน ไม่ได้นำมาเป็นผลลบ ซึ่งจากที่คุยกันในพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. ก็บอกว่าในเมื่อผลสำรวจออกมาเช่นนี้ ในฐานะที่เราเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราก็ต้องกระเตื้องการทำงานเพื่อให้ประชาชนได้เห็นผลงาน

พท.ขอบคุณปชช.พอใจรบ.ทำงาน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีสำนักงานสถิติแห่งชาติแถลงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลรอบ 6 เดือนภาพรวมพอใจมากถึงมากที่สุด และนโยบาย 30บาทรักษาทุกที่ ครองใจประชาชนเป็นอันดับ 1ว่าขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชน ที่ช่วยสะท้อนความคิดเห็นต่อการทำงานของรัฐบาล ในรอบ 6 เดือน เชื่อว่ารัฐบาลน้อมรับทุกความคิดเห็น รับฟังเสียงของพี่น้องประชาชนที่สะท้อนออกมาในช่องทางต่าง ๆโพลแต่ละสำนัก อาจมีระเบียบวิธีวิจัยและกรอบแนวคิด การกำหนดประชากรกลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะได้รับผลการประเมินอย่างไร รัฐบาลก็พร้อมรับฟัง

เชื่อเงินดิจิทัลเดินหน้าได้-นิยมยิ่งพุ่ง

“ส่วนตัวเชื่อว่าจากนี้ไปประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการขับเคลื่อน และผลักดันนโยบายสำคัญๆ ของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ครองใจประชาชนเป็นอันดับ 1 นโยบายเรือธงต่าง ๆ ของรัฐบาลจะทยอยออกมา โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทที่จะมาในไตรมาส 4 ของปีนี้ เชื่อว่าเมื่อนโยบายต่างๆได้เดินหน้า คะแนนความนิยมและความเชื่อมั่นรัฐบาลจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก” นายอนุสรณ์ กล่าว

‘เพื่อไทย’จัด20ขุนพลอภิปรายงบ’68

นายสรวงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568ว่าเบื้องต้นเตรียมขุนพลไว้ 20 คนเราจะพูดถึงภาพรวมทุกกระทรวง ภาพรวมทั้งประเทศว่าภาพรวมเป็นอย่างไร คงไม่ได้เจาะไปที่กระทรวงที่พรรคพท.เป็นรัฐมนตรีอยู่ ขณะนี้บุคคลที่เราเตรียมไว้กำลังทำการบ้านกันอยู่ คงจะมีการติวและพูดคุยกันภายในรวมถึงอภิปรายดูด้วยว่าเป็นอย่างไร ซึ่งการเป็นรัฐบาล หากจะพูดในสภาในเรื่องของงบประมาณนั้นก็ค่อนข้างจะมีเพดานอยู่ ไม่เหมือนตอนที่เป็นฝ่ายค้านที่สามารถพูดได้เต็มที่ การเป็นรัฐบาลเราจะต้องระมัดระวังเรื่องการพูดของเราพอสมควร

ไม่ห่วง‘ฝ่ายค้าน’ถล่ม/มั่นใจรมต.แจงได้

เมื่อถามว่ากังวลเรื่องการท้วงติงจากฝ่ายค้านหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่าไม่มี วันที่เราได้มีการพูดคุยกันในการประชุมร่วมของคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ฝ่ายค้าน ก็ตกลงว่าจะอภิปรายเป็นรายกระทรวง ไม่ได้ข้ามไปข้ามมา และจะพยายามให้อยู่ในประเด็น ซึ่งก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะเราก็ทำงานในนามรัฐบาลมาเกือบจะปี และมีประสบการณ์แล้ว

เมื่อถามว่าหากฝ่ายค้านอภิปรายเจาะลึกไปรายกระทรวงมั่นใจหรือไม่ว่ารัฐมนตรีจากพรรค พท. จะสามารถชี้แจงและตอบคำถามได้ นายสรวงศ์กล่าวว่า “ได้อยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นคนเดิมที่อยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่เริ่ม อาจจะมีบางท่านที่เปลี่ยนเข้ามาบ้าง แต่ผมมั่นใจว่าทุกท่านจะสามารถตอบคำถามในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณได้หมด”

‘ก้าวไกล’คัดขุนพลชำแหละงบฯ68

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึง การวางขุนพลในการอภิปรายงบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2568วาระแรกว่าขณะนี้ยังไม่ได้วางตัวผู้อภิปราย งเรากำลังศึกษาในเชิงเนื้อหาว่างบประมาณจะสะท้อนถึงการแก้ปัญหาประเทศหรือไม่ งบฯตอบโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่ของประชาชนหรือไม่ งบฯ ลงทุนสะท้อนถึงความทะเยอทะยานในการพัฒนาประเทศที่ถูกต้องหรือไม่ ความโปร่งใสของงบฯ ว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะเริ่มกระบวนการคัดเลือกผู้ที่สนใจจะอภิปรายงบฯ โดยพิจารณาจากเนื้อหาสาระเป็นหลัก และจะจัดสัดส่วนของผู้อภิปรายให้มีทั้งผู้อภิปรายเดิมและผู้อภิปรายใหม่ร่วมกัน