“เศรษฐา”เผย“อุ๊งอิ๊ง”ยืนยัน ทักษิณสบายดี มั่นใจไม่หนีคดีไปนอก ชี้ 17 ปี ในต่างแดนนานพอแล้ว บอกคดีใหม่เป็นขวากหนามที่เข้ามา เชื่อพร้อมสู้ ด้าน“หมอวรงค์”เตือนเพื่อไทยเดินหน้านิรโทษกรรม ม.112 ระวังจะล้มทั้งกระดาน

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนในกรณีที่มีข่าวพรรคเพื่อไทย (พท.) พยายามผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยจะมีการล้างความผิดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีมาตรา 112 ด้วย ว่า ตามที่บอกไปแล้ว ได้พูดไปแล้ว เรียบร้อยแล้ว ไม่อยากพูดอีกในเรื่องนี้ เมื่อถามอีกว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังโดนคดีนี้อยู่ นายเศรษฐา กล่าวย้ำว่า ได้พูดไปเยอะแล้ว ขอไม่พูดเรื่องนี้ คำถามต่อไปเลยครับ เมื่อถามว่าล่าสุดมีคณะกรรมาธิการ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของสภา ได้มีการพิจารณาประเด็นนี้ จะเข้าข่ายความผิดทางการเมืองหรือไม่ เพราะสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยมีเรื่องนี้แล้วต้องสูญเสียอำนาจไป นายเศรษฐา กล่าวว่า จุดยืนชัดเจนแล้วครับ ตนพูดไปแล้วเรื่องนี้

เมื่อถามว่านายกฯช่วยดับข่าวลือได้หรือไม่ว่านายทักษิณยังอยู่ในประเทศ ไม่ได้หนีออกไปต่างประเทศดังที่มีข่าวได้มีการติดต่อกันหรือไม่ นายกฯหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ได้เจอ คุณอุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในงานเมื่อเช้า ก็ได้ถามถึงคุณพ่อ ซึ่งคุณอุ๊งอิ๊งได้บอกว่าพ่อสบายดี”

“ผมมั่นใจท่านไม่ได้ออกนอกประเทศ และผมคิดว่าท่านพร้อมสู้เพราะไปอยู่ต่างประเทศมา 17 ปีแล้ว มันนานพอแล้วแหละครับผมว่า และเชื่อว่าวันนี้ท่านก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นขวากหนามที่มันต้องเข้ามา มันก็ต้องว่ากันไป แต่ผมพูดแทนท่านไม่ได้ แต่ก็คิดว่าท่านคงไม่ได้คิดจะไปไหนหรอกครับ” นายเศรษฐา กล่าว

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงการนิรโทษกรรมในคดี ม.112 ว่า แล้วแต่กระบวนการทางสังคมจะพิจารณา ที่ต้องรับฟังทุกกลุ่ม และจะผ่านเข้าสู่ระบบของรัฐสภา ยืนยันว่า จะต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ เพราะรัฐสภามาจากตัวแทนของประชาชน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็จะมีการพูดคุยกันภายในพรรค ก็ต้องฟังเสียงคนในพรรคเช่นกัน เมื่อถามว่า ต้องฟังเสียงคนในกองทัพด้วยหรือไม่ นายสุทิน ยืนยันว่า จะต้องฟังเสียงจากทุกฝ่าย

ส่วนการนิรโทษกรรมจะต้องมีให้ผู้ที่สำนึกผิด แต่ผู้ต้องคดีบางคนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก นายสุทิน กล่าวว่า ก็ต้องมีการแยกแยะกลุ่มบุคคล ว่าควรหรือไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม เพราะมีเกณฑ์ชี้วัดอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่ากลุ่มคนที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรมใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มีกระบวนการคัดแยก เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าหากมีการนิรโทษกรรมจะนำไปสู่การยึดอำนาจ นายสุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้มองไปขนาดนั้น มันไม่ง่ายหรอก และยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเอง ก็จะดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง เพราะในอดีตเราก็เคยมีบทเรียน และให้ฟังเสียงของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งประเมินทุกอย่างทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ทั้งนี้ การนิรโทษกรรมต้องดูประเภทการทำความผิด สิ่งไหนที่สังคมรับได้ และความผิดไหนที่สังคมรับไม่ได้เราก็ต้องแยกแยะไปตามนั้น

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดีโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า #หยุดโหนเจ้าเพื่อมาทำลายหลังจากที่นายทักษิณ ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีมาตรา112 เราได้เห็นคนของพรรคเพื่อไทย ประกาศจุดนืน ที่จะพยายามนิรโทษกรรมคดีมาตรา112 แม้ในช่วงแรก ยังแสดงท่าทีไม่ชัดเจน ต่อมาก็แสดงออกชัดว่า ความผิดตามมาตรา112 เป็นผลพวงการรัฐประหาร หรือมีแรงจูงใจทางการเมือง สมควรได้รับการนิรโทษกรรม ทั้งๆที่สถาบันเบื้องสูง ท่านอยู่เหนือการเมือง และเป็นกลางทางการเมือง การเอาเรื่องรัฐประหารมาผูกกับแรงจูงใจทางการเมือง และโยงมาตรา112 เท่ากับว่าคนของพรรคเพื่อไทย กำลังกล่าวหาว่าเบื้องสูง เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารหรือเกี่ยวข้องกับการเมือง

ล่าสุดมาอ้างปีมหามงคล ว่าสมควรนิรโทษกรรมทั้งหมด รวมทั้งความผิดมาตรา112 ด้วย เท่ากับว่าคนของพรรคเพื่อไทย จะอ้างปีมหามงคล เพื่อนิรโทษให้กับ พวกที่มีความคิดล้มล้างสถาบัน ซึ่งเหตุผลนั้นย้นแย้งและฟังไม่ขึ้น ขณะนี้คนของพรรคเพื่อไทย กำลังดิ้นทุกทางเพื่อนำไปสู่การนิรโทษกรรมมาตรา 112 เพื่อช่วยนายตนเอง หลังจากที่นายทักษิณถูกดำเนินคดี พฤติกรรมแบบนี้เขาเรียกว่า โหนเจ้าของแท้ คือโหนเจ้าเพื่อมาทำลาย ระวังจะพังทั้งกระดาน