ยื้อยาวแต่รอดยาก!!! "นิพิฏฐ์"มอง"ทักษิณ"ถูกฟ้องคดี"112" สุดท้ายต้องพึ่ง"เพื่อไทย-ก้าวไกล"จับมือเข็นนิรโทษ
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ทนายความ และอดีต ส.ส.พัทลุง หลายสมัย โฟนอินให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในประเด็น ทีมกฎหมายของ นายทักษิณ ชินวัตร ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด กรณีสั่งฟ้องนายทักษิณในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยอ้างว่า คณะทำงานที่ทำคดีนี้ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2558 ดำเนินการเพราะถูกข่มขู่โดยรัฐบาลทหารคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ตนฟันธงได้เลยว่าอัยการสูงสุดจะไม่ทบทวน เพราะเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาจากอัยการสูงสุดมาแล้วถึง 2 ท่าน
ดังนั้น วันที่ 18 มิ.ย. 2567 นายทักษิณก็ต้องไปศาล เว้นแต่ว่านายทักษิณจะติดเชื้อโควิด-19 อีกรอบหนึ่ง หรือที่คิดอยู่ยังรักษาไม่หาย อะไรก็ว่ากันไป แต่การยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมแบบนี้ คดีทั่วๆ ไปก็สามารถยื่นได้อยู่แล้วตามปกติ อย่างตนทำคดีมา 30 กว่าปี ก็เคยยื่นให้ลูกความบ่อยๆ แต่การยื่นซ้ำหลายๆ ครั้ง ที่เคยเห็นก่อนหน้านี้จะเป็นกรณีคดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง และล่าสุดก็คือกรณีของนายทักษิณ
ส่วนที่นายทักษิณบอกว่า มีการข่มขู่คณะทำงานสอบสวนคดีนี้จาก คสช. ตนมองว่านายทักษิณพูดโดยไม่ระมัดระวัง อย่างตนเห็นสีหน้านายทักษิณตอนพูด ดูมีสีหน้าเคร่งครียด ซึ่งตนไม่ค่อยเห็นนายทักษิณเครียดแบบนี้ แต่เรื่องนี้ต้องมีหลักฐานว่าใครถูกบังคับ เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อใด และปกติใครก็ตามที่ถูกรู้สึกว่าถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องไปแจ้งความเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง ซึ่งตนก็คิดว่าคงไม่มีตำรวจหรืออัยการคนใดที่ไปแจ้งความว่าถูกข่มขืนใจให้ทำคดีนี้
แต่เรื่องนี้หากตนเป็นพนักงานสอบสวนก็คงฟ้องนายทักษิณ เพราะทำให้ตนเสียหาย แต่ยุคนี้ใครจะไปทะเลาะกับนายทักษิณ ก็เงียบๆ กันไป ดังนั้นโดยสรุปแล้ว วันที่ 18 มิ.ย. 2567 นายทักษิณต้องไปรายงานตัวต่อศาล เว้นแต่จะมีเหตุ เช่น ป่วยหนักไม่สามารถไปได้ ส่วนคำถามว่า อัยการสูงสุดควรออกมาชี้แจงหรือไม่ ตนมองว่า นักกฎหมายทั่วไปก็เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ ดังนั้นหากอัยการสูงสุดตั้งโต๊ะแถลงข่าวก็เสียเวลามาก
“เมื่อไปศาลแล้ว จะมีปัญหาว่าคุณทักษิณจะได้หรือไม่ได้ประกัน ผมยังเข้าข้างคุณทักษิณอยู่นะว่าคุณทักษิณควรจะได้ประกัน เพราะว่าเวลาขึ้นศาล เวลาถูกฟ้อง หลักของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าด้วยการปล่อยตัวชั่วคราว หลักคือได้ประกัน ในการไมได้ประกันเป็นข้อยกเว้น เช่น เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสำคัญ มีอิทธิพลจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาจะหลบหนี ถ้าเป็นอย่างนี้ศาลมีโอกาสที่จะไม่ให้ประกันได้” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่จะทำให้นายทักษิณมีโอกาสไม่ได้รับการประกันตัวมากที่สุด คือการมีประวัติเคยหลบหนีคดี แต่เรื่องนี้ก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล แต่ในความเห็นของตนคาดว่าศาลน่าจะให้ประกันตัว แต่จะมีเรื่องเล็กๆ ที่ทำให้นายทักษิณเสียหน้าและคงไม่อยากให้ใครเห็น คือระหว่างที่นายทักษิณรอการประกันตัว โดยเมื่อส่งฟ้องศาลแล้วศาลจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการพิจารณา ซึ่งคดีของบุคคลทั่วไปก็จะประมาณนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว นายทักษิณต้องไปนั่งรอที่ห้องควบคุมใต้ถุนศาล
ส่วนคำถามที่ว่า กรณีเป็นบุคคลระดับวีไอพี ศาลอาจจะจัดห้องแยกคุมตัวต่างหากหรือไม่ ตนมองว่าศาลคงไม่ทำเช่นนั้น เพราะสมมติศาลบอกว่า นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ให้แยกไปคุมตัวในอีกห้องหนึ่งโดยจัดกำลังตำรวจเฝ้าไว้ ไม่ต้องไปนั่งรอรวมกับผู้ต้องหาคดีปล้น ฆ่า ข่มขืน แบบนี้หากมีภาพหลุดออกไปจะส่งผลกระทบต่อศาลอย่างมาก ดังนั้นศาลคงไม่เสี่ยง และนายทักษิณก็คงต้องไปรอที่ห้องควบคุมรวมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ อนึ่ง นายทักษิณไปคุยกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ บอกใครไม่มีทนายก็จะช่วยหาทนายให้ แบบนี้ยังได้คะแนนกว่าไปอยู่ห้องวีไอพี
และแม้นายทักษิณจะได้รับการประกันตัว แต่ตนก็คาดว่าศาลต้องสั่งติดกำไลอีเอ็ม เพราะเคยมีประวัติหลบหนีคดีมาแล้ว เพราะคดีอื่นๆ ที่ผู้ต้องหามีประวัติหลบหนีแล้วยังให้ประกันตัว ศาลก็จะสั่งในลักษณะนี้เช่นกัน เพราะหากหลบหนีออกจากเหตุพื้นที่ที่กำหนด ก็จะมีการแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูได้ ซึ่งการติดกำไลอีเอ็มนั้นสำหรับตนเห็นว่าดีกับทุกฝ่าย เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย
ดังนั้น วันที่ 18 มิ.ย.2567 ศาลจะต้องคิดหนักอยู่ 2 เรื่อง 1.นายทักษิณจะถูกควบคุมตัวที่ห้องขังใต้ถุนศาลหรือไม่ กับ 2.นายทักษิณจะถูกสั่งติดกำไลอีเอ็มหรือไม่ หากไม่มีเหตุผลที่คนรับได้ ปัญหาจะตกอยู่ที่ศาล แต่ตนก็คิดว่าศาลมีดุลพินิจที่ถูกต้อง ทั้งนี้ การให้ประกันตัวแล้วติดกำไลอีเอ็มเป็นขั้นตอนที่ทำกันโดยทั่วไป อย่างผู้ต้องหาคดี ม.112 หลายคนศาลก็ใช้มาตรการนี้ หรือคดีเว็บพนันออนไลน์ แม้แต่ดาราบางคนไปร้องเพลงก็ยังโชว์ว่าติดกำไลอีเอ็มอยู่ แต่อย่าไปบอกว่าตนฟันธงว่าศาลจะให้ประกันตัวนายทักษิณ เดี๋ยวศาลจะว่าเอา ซึ่งตนพูดไปตามหลักการเท่านั้น
โดยตามขั้นตอนนั้น ศาลจะถามนายทักษิณว่ายอมรับหรือปฏิเสธตามข้อหาที่ถูกฟ้อง หากนายทักษิณบอกว่าปฏิเสธ ศาลก็จะออกหมายขัง ให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปไว้ที่ห้องควบคุม และในระหว่างนั้นทนายความก็จะยื่นขอประกันตัว ส่วนคำถามว่าคดีนี้จะยืดยาวไปนานเพียงใด เพราะดูเหมือนฝ่ายกฎหมายของนายทักษิณจะพยายามยื้อให้ได้นานที่สุด ตนมองว่า ทีมทนายของนายทักษิณ ในบางคดีก็เคยปะทะกันตนมาแล้ว ดังนั้นตนฟันธงได้เลยว่ามียื้อคดีแน่นอน
“ยื้อในระหว่างที่จะไปศาล แล้วก็ยื้อในระหว่างพิจารณาคดี ผมว่าก็ยื้อร่วมๆ 2 ปีนะเรื่องนี้ ทำเป็นเล่นไป ก็รอกฎหมายนิรโทษกรรม ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยเอานิรโทษกรรม เอา 112 เข้าไปด้วยแน่ คุณทักษิณปลอดภัยที่สุดคือกฎหมายนิรโทษกรรมมาตรา 112 แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยเล่นมาตรา 112 แล้วเอาไปนิรโทษกรรมเมื่อไร ผมว่ารัฐบาลก็พังเมื่อนั้น” นายนิพิฏฐ์ ระบุ
นายนิพิฏฐ์ ยังกล่าวอีกว่า แต่อย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ตนยังไมได้ดูตัวเลข เพราะห่างตรงนี้มานาน แต่อยากให้ลองไปดูตัวเลขของทั้ง 2 พรรค รวมกันแล้วเกินกึ่งหนึ่ง หรือเกิน 250 หรือไม่ ถ้า 2 พรรคนี้รวมกันแล้วเกิน 250 กฎหมายนิรโทษกรรมก็ผ่าน ส่วนพรรคอื่นอยากค้านก็ค้านไป ซึ่งพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยอาจร่วมมือกันเฉพาะเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ไม่ร่วมกันเรื่องจัดตั้งรัฐบาลก็ได้ เพราะทางฝั่งพรรคก้าวไกลเอง หากไม่ผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมคะแนนของเขาก็จะหายไปเยอะเหมือนกัน ส่วนเพื่อไทยหากไม่ทำเรื่องนี้นายใหญ่ก็อาจติดคุกได้
โดยสรุปแล้ว หากเป็นการต่อสู้กันภายใต้กฎหมาย ตนไม่กังวลอะไร ทีมกฎหมายของนายทักษิณจะพยายามยื้อคดีก็ให้ยื้อไป แต่สิ่งที่ตนอยากเรียกร้องกับทุกฝ่ายในกระบวนการยุติธรรม คือทุกคนต้องเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะหากไม่เสมอภาคแล้ว ระบอบประชาธิปไตยและกระบวนการยุติธรรมก็จะล่มสลาย นี่คือเรื่องที่ตนกังวลมากที่สุด
และสำหรับฉากจบของเรื่องนี้ ในสิ่งที่ตนคิดเอง การที่ระดับอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ต้องมีพยานหลักฐานเกินครึ่งหนึ่งที่ให้เชื่อได้ว่าคดีมีมูล เพราะหากอัยการสั่งฟ้องแล้วอัยการชนะก็ไม่เป็นไร แต่หากอัยการแพ้คดี เรื่องนี้ก็น่าคิดเหมือนกัน ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นคนนอกที่ดูอยู่ สิ่งที่อยากบอกคือหากตนเป็นทนายทำคดีให้นายทักษิณ เรื่องนี้ตนคงยอมแพ้เพราะสู้ยาก เท่าที่ได้แอบๆ ฟังคลิปเสียงซึ่งเป็นที่มาของการฟ้องคดี ม.112 นายทักษิณ เรื่องนี้ค่อนข้างชัด
“ถ้าเกิดคดีแบบนี้พูดอย่างนี้ไม่ผิดมาตรา 112 เชื่อผมเถอะ ต่อไปจะมีเด็ก 12 13 14 15 เอาคำพูดเหล่านี้มาพูดเกลื่อนตลาดเลย
ชมคลิปเต็มได้ที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=qs-GWk4goMU (นาทีที่ 14.37-29.28)
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี