วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘กป.อพช.’ ยื่นสภาฯชง ’ร่างกฎหมายโลกร้อน’ ฉบับภาคประชาชน

‘กป.อพช.’ ยื่นสภาฯชง ’ร่างกฎหมายโลกร้อน’ ฉบับภาคประชาชน

วันพฤหัสบดี ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 13.56 น.
Tag : กฎหมายภาคประชาชน กฎหมายโลกร้อน โลกร้อน
  •  

‘กป.อพช.’ ยื่นสภาฯชง ’ร่างกฎหมายโลกร้อน’ ฉบับภาคประชาชน

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2567 ที่รัฐสภา นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.) ยื่นร่างกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือกฎหมายโลกร้อน ฉบับภาคประชาชน ต่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง 


โดยตัวแทนกล่าวถึงสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ยั่งยืนและเป็นธรรม ซึ่งมีประชาชนเตรียมเข้าชื่อกว่า 10,000 รายชื่อ เพื่อเสนอต่อรัฐสภา ดังนี้ 

1.เจตนารมณ์มุ่งให้รัฐแก้ปัญหาวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เร่งลดก๊าซเรือนกระจกโดยเฉพาะจากภาคพลังงานและอุตสาหกรรมที่เป็นภาคส่วนหลักในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และให้ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่มีส่วนรับผิดชอบต่อผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อประชาชน ชุมชน กลุ่มเปราะบาง และธรรมชาติ

2. มุ่งฟื้นฟูรักษาระบบนิเวศ โลกร้อนและรักษาธรรมชาติ คุ้มครองชนเผ่าพื้นเมือง ชุมชนท้องถิ่น ในฐานะผู้มีบทบาทรักษาระบบนิเวศ เพื่อสร้างสมดุลทางสภาพภูมิอากาศอย่างมีนัยสำคัญ

3. เน้นที่หลักการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของประชาชนต่อสภาพภูมิอากาศ อันเป็นไปตามหลักสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดีของประชาชน โดยกำหนดสิทธิไว้ถึง 14 ประการ ครอบคลุมสิทธิทุกกลุ่มประชาชนที่เปราะบาง และสิทธิในเนื้อหาและกระบวนการ และกำหนดหน้าที่รัฐให้คุ้มครองสิทธิทั้งหมด

4. นิยาม “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ไว้อย่างชัดเจนถึงสาเหตุ โดยนิยามว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีสาเหตุจากพลังงานฟอสซิลเป็นสาเหตุหลัก เพื่อกำหนดเป้าหมายการจัดการให้ชัดเจน (มาตรา 4)

5. กำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สหประชาชาติ โดยเร่งเป้าหมายให้เข้าสู่คาร์บอนเป็นกลางในปี 2035 (มาตรา 16 (10)) และก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์สุทธิ ในปี 2050 (มาตรา 16 (11)) และสามารถทบทวนให้เร็วขึ้นได้กว่าแผนเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกที่รัฐเสนอต่อสหประชาชาติ

6. ใช้โครงสร้างการบริหารจัดการร่วมระหว่างรัฐกับสังคม โดยกระจายอำนาจสู่สังคมและท้องถิ่น มีคณะกรรมการนโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วม (มาตรา 12) มีคณะกรรมการกำกับ ที่เป็นกลไกกึ่งอิสระ (มาตรา 43) เพื่อตรวจสอบให้รัฐดำเนินตามเป้าหมาย และมีสมัชชาประชาสังคม (มาตรา 21) เพื่อสร้างความเข้มแข็งประชาชน และสร้างการมีส่วนร่วมนโยบายทุกระดับ อันทำให้เกิดธรรมาภิบาล

7. ใช้หลักความรับผิดชอบที่แตกต่าง กำหนดให้ภาคส่วนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ เช่น อุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิล ต้องมีความร้บผิดชอบต่อระบบนิเวศ สังคมของโลกและประเทศด้วยการปรับลดการปล่อยคาร์บอนฯ ตามสัดส่วนที่คณะกรรมการนโยบายชาติกำหนด ภายเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก และจะถูกคิดภาษีคาร์บอนฯ เพื่อควบคุมการปล่อยคาร์บอนฯ

8. แยกขาดระหว่างความรับผิดชอบและการสร้างแรงจูงใจลดก๊าซฯ ออกจากกัน จะไม่ใช้หลักการชดเชยคาร์บอนด้วยการเอาการสร้างแรงจูงใจ เช่น คาร์บอนเครดิตที่ไปลงทุนหาซื้อมาไปชดเชยกับการปล่อยคาร์บอนของตนเอง เพราะเป็นการลดทอนหรือเบี่ยงเบนความรับผิดชอบในการลดปล่อยคาร์บอนฯ ระบบความรับผิดชอบของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ การถูกควบคุมจำกัดการปล่อยคาร์บอนตามเป้าหมาย และการเสียภาษีคาร์บอน ส่วนระบบแรงจูงใจของร่าง พรบ.ฉบับนี้มาจากการเข้าถึงกองทุนเปลี่ยนผ่านสีเขียวเพื่อนำไปปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้ลดปล่อยคาร์บอนโดยเร็ว

9. ใช้ระบบภาษีคาร์บอนเป็นเครื่องมือเศรษฐศาสตร์ในการลดคาร์บอนโดยเฉพาะกับกลุ่มพลังงานฟอสซิลและอุตสาหกรรมรายใหญ่ (มาตรา 80-82) เพื่อป้องกันการฟอกเขียวอันอาจเกิดจากระบบตลาดคาร์บอนและคาร์บอนเครดิต และภาษีที่ได้จากภาคส่วนที่ปล่อยคาร์บอนรายใหญ่จะมาเข้ากองทุนเปลี่ยนผ่านสีเขียว อันเป็นการสอดคล้องกับหลักความรับผิดชอบที่แตกต่างซึ่งไม่เพียงแต่จะรับผิดชอบลดคาร์บอนของตนเอง แต่เม็ดเงินที่ได้จากภาษีจะเอามาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง คนจน ชุมชน ประชาชนในการปรับตัวต่อภูมิอากาศเป็นหลัก

10. เน้นลดก๊าซเรือนกระจกที่ต้นเหตุ เช่น ภาคพลังงานฟอสซิลและอุตสาหกรรมรายใหญ่ แต่การใช้ธรรมชาติเช่น การฟื้นฟูป่า ธรรมชาติ และอื่น ๆ เป็นเรื่องสำคัญ แต่เป็นเพียงส่วนเสริม และจะไม่นำไปชดเชยกับเป้าหมายและหน้าที่การลดปล่อยคาร์บอนของแต่ละภาคส่วน

11. มุ่งเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซของภาคส่วนต่าง ๆ ยึดหลักระวังไว้ก่อน (มาตรา 58) และหลักสิทธิประชาชนต่อสภาพภูมิอากาศตามมาตรา 6

12. มีกองทุนเปลี่ยนผ่านสีเขียวที่ได้จากภาษีคาร์บอน มาจัดสรรเพื่อแก้ไข เยียวยา ผลกระทบ ส่งเสริมการปรับตัวของประชาชน กลุ่มเปราะเบางไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50  ของกองทุน (มาตรา 85)

ด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดการประชุมสภาฯ มาในสมัยนี้ มีกฎหมายภาคประชาชนเข้าสู่สภาฯ หลายฉบับ ตัวอย่างกฎหมายที่มาจากภาคประชาชนประสบผลสำเร็จไปแล้วคือ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ดังนั้น จึงจะเห็นได้ชัดว่ากฎหมายที่ประชาชนได้ริเริ่มเสนอนั้น สามารถนำไปเป็นปากเป็นเสียง และนำไปสู่การแก้ไขในมาตราที่สำคัญได้ ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรับร่างกฎหมายฉบับประชาชนเข้าสู่กระบวนการทางนิติบัญญัติ และมั่นใจว่าประชาชนทั่วไปและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เห็นด้วยกับการมีร่างกฎหมายนี้ เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้ในกระบวนการถัดไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สภารับร่างตั๋วร่วม  เดินทางบัตรเดียว  ลดใช้จ่าย/โลกร้อน  ตั้งกมธ.แปรญัตติ สภารับร่างตั๋วร่วม เดินทางบัตรเดียว ลดใช้จ่าย/โลกร้อน ตั้งกมธ.แปรญัตติ
  •  

Breaking News

'พปชร.'ขอบคุณมวลชนชุมนุมท่ามกลางฝน ชี้เสียงปชช.สะท้อนความไม่ไว้ใจนายกฯ

จับแก๊งแว้นซิ่งจยย.ก่อความเดือดร้อนรำคาญ

‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้

วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอนกระตุ้นท่องเที่ยว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved