‘จตุพร’ชำแหละรอพรรคแตก
ซัดพท.ร้าวหนัก
‘เทพไท’ตอก‘อุ๊งอิ๊ง’
ยังขาดวุฒิภาวะผู้นำ
เพื่อไทยปัดขับ‘เฉลิม’
“เพื่อไทย” ยังป่วน! หลัง “เหลิม” ท้าขับพ้นพรรค“ภูมิธรรม” รีบยกมือปัดพัลวันไม่ขอพูด “เกรียง” เชื่อไม่มีปัญหาใน พท. ด้าน “จตุพร” ชำแหละเทียบกรณี“วัน-วรชัย” แปลกใจ มีอะไรเบื้องหลัง “อุ๊งอิ๊ง”ไม่เรียก“วรชัย” ไปสั่งสอน ทำเสียปกครอง เชื่อ “เฉลิม”เดือดสุดขีด!ไม่มีทางเคลียร์จบ ซัด‘เพื่อไทย’ปริร้าวภายในหนัก รอเวลาแยกครั้งใหญ่ ด้าน’เทพไท’ส่องความขัดแย้ง’เพื่อไทย’สะท้อน ภาวะผู้นำ‘อุ๊งอิ๊ง’ตัดขาด‘อยู่บำรุง-ชินวัตร’
เมื่อวันที่ 12กรกฎาคม2567 นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ท้าให้พรรคเพื่อไทยขับออกจากพรรค หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่พอใจ ที่มีภาพนายวัน อยู่บำรุง บุตรชายไปลุ้นคะแนนเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ที่บ้านของ พ.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ซึ่งเป็นคู่แข่งของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย จะมีผลกระทบภายในพรรคหรือไม่ว่า เชื่อว่าไม่มี เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว
เมื่อถามย้ำว่าหาก ร.ต.อ.เฉลิม จะออกจากพรรคเพื่อไทย ก็จะไม่มีผลกระทบภายในพรรคใช่หรือไม่ นายเกรียง กล่าวว่า ใครก็คงบังคับไม่ได้ และคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ทั้งนี้การที่จะขับออกจากพรรค จะเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะพิจารณา เมื่อถามว่าภายในพรรคได้มีการพูดคุยถึงกรณีดังกล่าวหรือไม่ นายเกรียง กล่าวว่า ไม่มี เพราะร.ต.อ.เฉลิม ถือเป็นผู้อาวุโสภายในพรรค เป็นความเห็นของท่าน คงไม่มีใครอยากไปคุยเรื่องนี้หรอก
“ภูมิธรรม”โบกมือปัดพัลวัลไม่ขอพูด
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกรณีดังกล่าว โดยรีบยกมือปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ระบุเพียงสั้นๆว่า “ไม่เอาๆ ไปล่ะ”
‘จตุพร’มึน‘อิ๊ง’ไม่เรียก‘วรชัย’สั่งสอน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 11 ก.ค.67 ว่า “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกนายวัน อยู่บำรุง ไปตำหนิกรณีไปบ้าน “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในวันนับผลคะแนนเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เท่ากับตำหนิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ด้วย เพราะไปด้วยกัน เชื่อว่าหลังจากนี้คงไม่มีการเคลียร์กันเป็นครั้งที่ 2 อีกแล้ว จึงอยู่ที่ว่าจากนี้ไปใครจะทนใครได้มากกว่ากัน ดังนั้นต้องจับตาพรรคเพื่อไทยให้ดี หากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่รอดจากการถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนแล้ว จะเกิดปรากฎการณ์พรรคเพื่อไทยแพแตก ซึ่งอาจจะใหญ่กว่าพรรคก้าวไกลเสียอีก การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาคำรามกันรอบนี้ โอกาสคืนดีกันคงจะยากแล้ว เพราะอุ๊งอิ๊ง อ้างหลักการปกครองคนหมู่มาก จึงต้องตำหนินายวัน อีกอย่างกรณีนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ วิจารณ์นายเศรษฐาอุ๊งอิ๊งยังไม่เรียกไปตำหนิเลย นายวรชัย เหมะ วิจารณ์นายกฯ ซึ่งทางการเมืองใหญ่กว่ากรณี ร.ต.อ.เฉลิม กับนายวัน ไปปรากฏตัวที่บ้านบิ๊กแจ๊ส กลับถูกอุ๊งอิ๊งตำหนิว่าเสียการปกครอง แต่ไม่เรียกนายวรชัย ไปตำหนิ ทั้งที่เป็นเรื่องทางการเมืองที่ใหญ่กว่าเสียอีก แต่ไม่ต่อว่าเสียการปกครอง
ฉะนายกฯเซลล์แมนเดินสายสูญเปล่า
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดที่สภาถึงการให้สิทธิ์ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปีเพราะต่างชาติร้องขอนั้น เรื่องที่ดินไม่ใช่จะร้องขอกันได้ง่ายๆ เพราะคนได้ประโยชน์คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างคอนโดมิเนียมขายไม่ออก 1.3 ล้านยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 ล้านล้านบาท มากกว่างบประมาณรายปีเสียอีก การพยายามให้ซื้อคอนโดฯพร้อมที่ดินอยู่นาน 99ปีนั้น เป็นรอยต่อจากการดันดิจิทัลวอลเล็ตให้สำเร็จ เพื่อใช้เงินดิจิทัลแบบโทเคนหรืออย่างอื่นมาซื้อขายกันที่ฮ่องกง เพราะไม่ต้องพิสูจน์ที่มาของเงินว่าเป็นเงินสีเทา หรือดำหรือไม่ ดังนั้นหลักคิดต่างๆเช่นนี้ ประเทศไม่ได้อะไรเลย นอกจากบริษัทอสังหาฯเท่านั้นที่ได้เต็มๆ“เรื่องนี้จะให้เกิดขึ้นไม่ได้ โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต แม้จะขัดใจประชาชนที่ยากลำบากกันถ้วนหน้าอยู่แล้ว แต่ต้องใจแข็งให้มากเพราะถ้าได้เงินหมื่นบาทแจกไปซื้อสินค้าในราคา 3,500 บาท เมื่อประเทศใช้หนี้กลับต้องใช้ถึง 30,000 บาท รวมแล้วจะเป็นหนี้มากถึง 1.8 ล้านล้านบาท ชั่วลูกหลานก็ใช้หนี้ไม่หมด ทั้งที่ต้นทุนมีแค่แสนกว่าล้านเท่านั้นเอง” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า ที่คัดค้านเงินดิจิทัลนั้น ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากให้ประชาชนได้ แต่การได้เงินแจกกลับเป็นความเสียหายของประเทศและยังมีคนกลางได้กอบโกยผลประโยชน์ที่มากกว่าด้วย สิ่งสำคัญนายกฯกลับเก็บงบประมาณไว้เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัล โดยไม่นำไปกระตุ้นเศรษฐกิจ เท่ากับซ้ำเติมประชาชนให้ลำบากมากขึ้น ส่วนการลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหา แต่ไม่ได้นำมาแก้ไขจึงไม่เกิดประโยชน์อะไร
อีกอย่างนายกฯ ไปต่างประเทศทำตัวเป็นเซลล์แมนให้ประเทศ แสดงถึงการทำหน้าที่ผิดบทบาท รัฐบาลควรใช้ทูตพาณิชย์ทำหน้าที่ เมื่อเจรจาสำเร็จนายกฯ จึงไปปิดงานน่าจะเหมาะสมกว่า ดังนั้น 10 เดือนที่ไปต่างประเทศและลงพื้นที่ในไทยกลับไม่มีผลงานอะไรเลย จึงเป็น 10 เดือนที่สูญเปล่า ดังนั้นผมจึงหวังลมๆแล้งๆว่าสิงหาคมนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
‘เทพไท’ชี้สะท้อนภาวะผู้นำ‘อุ๊งอิ๊ง’
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก“เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย บทพิสูจน์ภาวะผู้นำของอุ๊งอิ๊ง” ความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย : บทพิสูจน์ภาวะผู้นำของอุ๊งอิ๊ง ตอนนี้เกิดภาพความขัดแย้งขึ้นในพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเรื่องของคนภายในพรรคล้วนๆ ไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย เช่น กรณีของ นายวรชัย เหมะ แกนนำคนเสื้อแดง และเป็นอดีต สส.พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชชยชัย ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย แต่ผลงานไม่เกิดขึ้น จนได้รับการตอบโต้จากนายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรงว่า เพราะไม่ได้ใกล้ชิดนายกฯจึงไม่รู้ว่าทำงานหนัก และมีสมาชิกเพื่อไทยอีกหลายคนมาแสดงความเห็นผสมโรงด้วย
กรณีที่สอง ความขัดแย้งที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เรียกนายวัน อยู่บำรุง มาตำหนิ กรณีไปให้กำลังใจ บิ๊กแจ๊สพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในนับคะแนนเลือกตั้งนายกอบจ. ปทุมธานี จนนายวัน อยู่บำรุง ต้องพิจารณาตัวเอง ลาออกจากผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และสมาชิกพรรค ด้วยแรงกดดันจากคุณอุ๊งอิ๊ง ร้อนถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ออกมาฟาดงวงฟาดงา ท้าทายให้ขับออกจากพรรค
ชัดเจนตัดขาด‘อยู่บำรุง-ชินวัตร’
ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ย้ำอีกครั้งว่า ได้ตำหนิจริง จะไม่ไปปรับความเข้าใจถึงบ้านอีกแล้ว เป็นสัญญาณการตัดขาดกันระหว่าครอบครัวอยู่บำรุง กับครอบครัวชินวัตร ทางการเมืองแล้ว ภาพเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพรรคตอนนี้ เป็นการพิสูจน์ภาวะผู้นำของคุณอุ๊งอิ๊ง ที่พยายามสร้างภาพ ความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา ให้เป็นที่ยอมรับของสมาชิกพรรค การตำหนิ นายวัน เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู โชว์ความเด็ดขาดและความเป็นผู้นำหญิงแกร่ง ให้สมาชิกคนอื่นๆได้เห็นถึงความมีภาวะผู้นำ แต่ในทางตรงข้ามการแสดงบทบาทของ คุณอุ๊งอิ๊ง เกิดภาพลบมากกว่าภาพบวก เพราะบทบาทแบบนี้ น่าจะเป็นบทบาทของเลขาธิการพรรค มากกว่าบทบาทหัวหน้าพรรค เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดขึ้นในพรรคอื่น หัวหน้าพรรคจะไม่มายุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นแม่บ้านพรรคเคลียร์ปัญหา ไม่ต้องให้หัวหน้าพรรคเปลืองตัว แต่กรณี คุณอุ๊งอิ๊ง คงจะเข้าใจว่า พรรคเพื่อไทย เป็นเหมือนบริษัทภายในครอบครัว การเป็นหัวหน้าพรรคก็เหมือนซีอีโอบริษัท จึงมีอำนาจเต็ม สามารถสั่งการได้อย่างเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว จึงอยากให้คุณอุ๊งอิ๊ง ซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองไม่มากนัก ยังขาดวุฒิภาวะทางการเมือง ได้สั่งสมประสบการณ์ ในการนำพาพรรคเพื่อไทยให้เป็นที่ยอมรับของคนภายในพรรคและบุคคลภายนอกในโอกาสต่อไป
กมธ.นิรโทษฯเสียงแตกความผิด112
นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พรบ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมเมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ว่า มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112และ110 ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหว รวมถึงมาตรา289 โดยการพิจารณาได้ให้ กมธ.ฯ ทุกคนให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าสมควรที่จะรวมความผิดเกี่ยวกับมาตรา112และมาตรา110 ในการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ ซึ่งมีการตกลงกันว่า จะไม่ลงมติ แต่เป็นการเก็บความเห็นของกมธ.แต่ละคนไว้ในรายงานเพื่อที่จะเปิดเผยต่อสภาฯ ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นแตกต่างกันแบ่งเป็น 3แนวทางคือ 1.ไม่เห็นด้วยที่จะรวมความผิดทั้งสองมาตราไว้ในการนิรโทษกรรม 2.รวมความผิดทั้งสองมาตราในการนิรโทษกรรมแต่มีเงื่อนไขเป็นพิเศษและ3.รวมความผิดทั้งสองมาตราในการนิรโทษโดยไม่มีเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะรับฟังความเห็นต่อสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีกมธ.บางคนไม่ได้เข้าประชุม เพราะติดภารกิจ จึงให้มาให้ความเห็นในสัปดาห์หน้า หรือหากสัปดาห์หน้ามาไม่ได้ และเนื่องด้วยเวลามีจำกัดจึงจะให้ส่งความเห็นมาเป็นเอกสารเพื่อประกอบในรายงานสรุปเรื่องดังกล่าว ฉะนั้น จึงจะได้ข้อสรุปเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ความผิดเกี่ยวกับมาตรา289 ไม่ได้มีประเด็นอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่เห็นว่าไม่รวมอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี