'ศิริกัญญา'บอกรัฐบาลลุยไฟเพิ่มงบฯ 1.22 แสนล้านเสี่ยงผิดกฏหมาย จี้พรรคร่วมโหวตคว่ำ

'ศิริกัญญา'บอกรัฐบาลลุยไฟเพิ่มงบฯ 1.22 แสนล้านเสี่ยงผิดกฏหมาย จี้พรรคร่วมโหวตคว่ำ

วันพุธ ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 12.29 น.

‘ก้าวไกล’ ชี้รัฐบาลเลือกเสี่ยงลุยไฟขอสภาฯผ่าน‘งบฯ 1.22 แสนล้านบาท หนุน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต‘ เตือนระวังเสี่ยงผิดกฎหมายวินัยการเงินการคลัง วอนพรรคร่วมรัฐบาลโหวตคว่ำ

17 ก.ค.2567 เมื่อเวลา 09.50 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน1.22แสนล้านบาท วาระแรก ซี่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอเพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต


โดยน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เป็นการเสนอร่างพ.ร.บ.ที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ หลายมาตรา  อาทิ  มาตรา 21 ซึ่งกำหนดว่าการจัดทำงบรายจ่ายเพิ่มเติม เพื่อใช้ในระหว่างปีงบประมาณ ไม่ใช่ใช้ข้ามปีและไม่สามารถรอใช้ในปีต่อไปได้  แต่การเสนอของบเพิ่มเติม จะทำให้มีเงินออกไปใช้หลังจากที่ พ.ร.บ.งบฯ67 สิ้นสุดลง ในวันที่ 30 ก.ย.นี้  มาตรา 43 ว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันที่กำหนดให้ทำไว้ก่อนสิ้นปี  หากรัฐบาลจะชี้แจงว่า การลงทะเบียนคือการก่อหนี้ผูกพัน ตนมองว่าไม่ใช่ เพราะการก่อหนี้ผูกพันต้องมีสัญญา 2 ฝ่าย  แต่การลงทะเบียนคือ การทำสัญญาฝ่ายเดียวหากรัฐบาลคิดว่าเป็นการก่อหนี้ จะทำให้เกิดบรรทัดฐานที่ผิด และมีหน่วยงานรัฐเอาอย่าง เมื่อใช้งบไม่ทัน จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน

“ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น ทำไมรัฐบาลไม่แก้ไขกฎหมายวินัยการเงินการคลังให้เรียบร้อย เพราะฝ่ายรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา ที่สามารถขอ แก้ไขมาตรา 21 เพิ่มวรรคท้าย คือ เว้นมีเหตุให้เป็นอย่างอื่น โดยได้รับความเห็นชอบจาก ครม. เพื่อให้เป็นความรับผิชอบของฝ่ายการเมืองหรือกำหนดว่า ได้รับความเห็นชอบของนายกฯ แต่ตอนนี้พบว่าเป็นการเดินหน้าลุยไฟทำผิดกฎหมาย คนที่เดือดร้อน คือ ข้าราชการประจำที่ลงนามเรื่องต่างๆ โดยฝ่ายการเมือง ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในการตัดสินใจที่เสี่ยงผิดกฎหมาย” น.ส.ศิริกัญญา อภิปราย

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ขณะที่งบกลาง เงินสำรองจ่ายไม่พอสามารถเบิกจ่ายทุนสำรองจ่ายได้ ซึ่งกำหนดไว้ในมาตรา 45 ใช้ได้เมื่องลกลางสำรองจ่ายไม่เพียงพอ จึงกล้าลดวงเงิน 4.5 แสนล้านบาท เพราะวงเงินทุนสำรองจ่าย 5 หมื่นล้านบาท ใช้ได้เมื่อจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ราชการแผ่นดิน จะเร่งด่วนจริงหรือไม่ เพระต้องใช้ในไตรมาสสี่  

“มีคำถามคือ จะมีความจำเป็นเร่งด่วนจริงหรือไม่ ดิฉันมองว่ามีเพียงอย่างเดียวคือ รักษาหน้าของรัฐบาล ทั้งนี้ งบฯส่วนดังกล่าวหากเบิกจ่ายจริง ต้องใช้คืนในปี 2569 ถือว่าเป็นการยืมเงินข้ามปี” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา อภิปรายด้วยว่า ในประเด็นที่เสี่ยงผิดกฎหมาย ยังมีคือ การตีความว่าโครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเป็นงบรายจ่ายลงทุนหรือไม่ ทั้งนี้นิยาม คือซื้อสิ่งของ สร้างสิ่งปลูกสร้าง อายุเกิน 1 ปี หรือค่าจ่ายสิ่งปลูกสร้าง แต่ของดิจิทัลวอลเล็ต ใช้เพื่ออุปโภคบริโภค แต่กลับตีความว่าเป็นรายจ่ายลงทุนสูง 80%  แต่หากไม่นับเป็นรายจ่ายลงทุน จะผิดต่อพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 20  คือ รายจ่ายลงทุนจะมีไม่ถึง 20% และเป็นตัวเลขที่มากกว่าการขาดดุลงบประมาณ  หากบอกว่างบเพิ่มเติมไม่ใช้เกณฑ์เดียวกันกับงบประจำปี ถือว่าฟังไม่ขึ้น และรัฐบาลต้องแก้ไขทำให้ถูกต้อง ทำไมรัฐบาลไม่เลือกแก้กฎหมาย เพราะอยู่ในวิสัยที่ทำได้แต่เลือกทางเสี่ยง ทางลุยไฟ ตนมองว่ารัฐบาลไม่พร้อม เนื่องจากอีก 15 วัน จะเปิดให้ลงทะเบียน ขณะที่ตอนนี้ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ เพราะในเอกสารที่เสนอของบเพิ่มยังระบุเป็นภาพรวม 

“โครงการนี้บอกได้คำเดียวว่าการลงทุนไม่รู้เท่าไร ตีไว้ 5 แสนล้านบาท ที่ลงทุนไป ได้รักษาหน้า ว่าได้ทำตามที่หาเสียง แม้หน้าตานโยบายไม่เหมือนที่หาเสียงตั้งแต่ต้น เพิ่มจีดีพี เต็มที่ 1.8% หรือได้คืน 3.5แสนล้านบาท การได้คืนเท่านี้ เรียกว่าคุ้มหรือไม่ แต่สิ่งที่ได้คือเพิ่มความเสี่ยงของประเทศไม่มีปัญญารับมือปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคต และต้องทำผิดกฎหมายหลายข้อ หากทำต่อไปจะสร้างบรรทัดฐานที่ผิดต่องบประมาณ นอกจากนั้นยังเอื้อค้าปลีกรายใหญ่ กีดกันรายย่อยไม่รู้ตัว รวมถึงเสียโอกาสการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชนเพราะต้องใช้เงินปลายปี อีกทั้งยังเสียอีกหลายโอกาส ที่จะเกิดในงบประมาณปี 69 และ 70 ทำให้งบที่ใช้พัฒนาประเทศที่จะมีศักยภาพลดลง ทั้งนี้ถือเป็นกระสุนนัดใหญ่ นัดสุดท้ายของรัฐบาลนัดเดียวที่จะเป็นปัญหา ทั้งนี้ขอส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาลจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดที่สุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมาย และทำให้เกิดปัญหาในอนาคต ขอให้ สส.รัฐบาลคว่ำร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว” น.ส.ศิริกัญญา อภิปราย

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top