ผบ.เหล่าทัพชูคนกลาง

คุมเลือกตั้ง

ต้อนรับกปปส.ชื่นมื่น

“เทพเทือก”จี้เลือกข้างให้ชัด

ตอกย้ำความชั่วระบอบทักษิณ

ยืนยัน”ยิ่งลักษณ์”ต้องลาออก

เปิดทางแต่งตั้งรัฐบาลบริสุทธิ์

ปฎิรูปประเทศก่อนหย่อนบัตร

คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.)ได้เปิดเวทีการประชุม”สมัชชามวลมหาประชาชน” ซึ่งมีตัวแทนประชาชนจากเครือข่ายทุกภาคส่วนเข้าร่วมประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นในการปฎิรูปประเทศ  เมื่อเช้าวันที่ 14 ธันวาคม ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ชี้ปชช.ลุกขึ้นสู้ถ้าถูกหักหลัง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.ปราศรัยก่อนว่าประเทศไทยบอบช้ำเสียหายทุกด้านทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม คุณธรรมและจริยธรรมเพราะระบอบทักษิณได้ยึดกุมอำนาจรัฐและบงการประเทศมา10กว่าปี ประชาชนได้รับความเจ็บปวดขมขื่นสะสมในใจเป็นเวลานานซึ่งปะทุพร้อมๆกันในปีนี้โดยมีคนจำนวนมากเข้าใจผิดว่าที่ประชาชนลุกขึ้นมาถูกปลุกขึ้นมาแต่การลุกขึ้นมาต่อสู้กับระบอบทักษิณในคราวนี้เพราะประชาชนชวนรวมถึงการที่รัฐบาลและรัฐสภาได้แสดงพฤติกรรมที่ปรากฏชัดเจนได้หักหลังประชาชนที่มอบอำนาจอธิปไตยให้ไปทำหน้าที่แทนแต่กลับนำไปใช้ประโยชน์แค่เพียงคนไม่กี่คนแทนที่คนทั้งประเทศไม่ทำตามหลักนิติธรรม ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพเสียงประชาชน

เกิดสุญญากาศการเมืองแล้ว          

“โดยเฉพาะที่ชัดเจนคือที่รัฐสภาผ่านกฎหมายนิรโทษฯเพื่อล้างผิดคนโกง การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรวบอำนาจ และทำอย่างกันฉ้อฉล ถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้วแต่คนในรัฐบาลปฏิเสธจึงถือว่าเป็นการก่อการกบฏต่อรัฐธรรมนูญโดยรัฐบาลและปล่อยให้มีการทุจริตอย่างโจ่งแจ้งจนส่งผลเสียหายต่อประเทศ ดังนั้นการโกงเป็นปัญหาที่จะต้องรีบแก้ไขและรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ใช้อำนาจตามเจตนารมณ์ ประชาชน  แต่ยอมให้คนที่ต่างประเทศบงการรัฐบาลทุกขั้นตอน จากพฤติกรรมทั้งหมดนี้รัฐบาล ไม่ชอบธรรมตามกฎหมายและการเมืองอีกต่อไป ในวันนี้ไทยไม่มีรัฐบาลและรัฐสภา เกิดสุญญากาศทางการเมืองเรียบร้อยแล้ว”นายสุเทพ

ลั่นต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง

นายสุเทพปราศรัยว่าเมื่อประชาชนลุกขึ้นทวงคืนอำนาจอธิปไตยเรียบร้อยแล้วจำเป็นต้องเดินหน้าเรื่องสำคัญในการเตรียมตั้งรัฐบาลของประชาชนเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจในช่วงเวลาสั้นๆและจะต้องมีสภาประชาชน เพื่อให้รัฐบาลเดินไปตามเสียงของประชาชนโดยไม่มีพรรคการเมือง ชักใยในการกำหนดความคิดและปฏิบัติเพื่อปฏิรูปเรื่องสำคัญและออกกฎหมายเพื่อให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้ประชาชนวางรากฐานให้แข็งแรง ก่อนการเลือกตั้งตามวิถีทางปกติของประชาธิปไตย ขอยืนยันว่าคณะกรรมการ กปปส.ทุกคน ไม่มีความประสงค์ทำเพื่อใครแต่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ประชาชนต้องกอดคอผนึกกำลังและร่วมมือกันในสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ต้องเอาประเทศให้รอดและต้องเปิดใจให้กว้าง พร้อมอ้าแขนรับทุกฝ่ายโดยตนและคณะ กปปส.จะรับฟังความเห็นของประชาชนหลอมรวมเป็นประโยชน์ในอนาคต 

ยึดแนวทาง สันติ อหิงสา

ทั้งนี้ ตนมอบหมายให้กลุ่มแพทย์ชนบท ประสานงานในต่างจังหวัด เพื่อรวมตัวเป็น กปปส. ในทุกจังหวัด ทำให้องค์กรประชาชนมีความเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และขอให้ประชาชนยึดหลักการต่อสู้แบบ สันติ อหิงสาต่อไปต้องอดทนต่อคำวิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามในทุกรูปแบบ แม้ตนก็ถูกบีบบังคับสารพัดแต่เป็นคนที่แน่วแน่และคนในครอบครัวก็เข้มแข็งจึงจะไม่ยอมผ่อนผันต่อรองกับกลุ่มใดๆจนกว่าประชาชนบรรลุเป้าหมาย ขอให้ประชาชนหลอมหัวใจเพื่อชาติและประชาชน เป็นแกนกลางในการเผยแพร่แนวคิดเพื่อการปฏิรูปประเทศ ขอให้เชื่อมั่นในพลังประชาชน ขอเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย

ชี้โอกาสดีปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง 

จากนั้น ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เริ่มเวที‘สมัชชามวลมหาประชาชน ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ คณบดี คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่าตั้งแต่ไทยเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นประชาธิปไตย ปีนี้ถือเป็นโอกาสที่ประชาชน ต้องชี้ทิศทางของบ้านเมือง ในอดีตชนชั้นนำ มากำหนดทิศทางประเทศมาตลอด หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาแล้ว40ปี ประชาชนออกมาขับไล่เผด็จการทหารในปีพ.ศ.2516 จากนั้นอีก40ปีต่อมา ได้มีเผด็จการแบบใหม่โดยปรับตัวจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี พ.ศ.2535คือเผด็จการรัฐสภาของนายทุน ขณะนี้จิตวิญญาณในการต่อสู้ได้เติบโตขึ้นแล้ว ใครก็ตามที่คิดสู้พลังบริสุทธิ์ของประชาชนมันผู้นั้นไม่ชนะแต่การต่อสู้มือเปล่า ไม่สำเร็จในระยะเวลาอันรวดเร็วแต่ชัยชนะจะเป็นของประชาชนซึ่งประเทศ จำเป็นจะต้องปฏิรูปก่อน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ก่อนการปฏิรูปเสร็จสิ้น มีสาเหตุหลายประการ เช่นรัฐบาลนี้ไม่มีความชอบธรรมใดๆในการจัดการเลือกตั้ง เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลหลายๆชุดในอดีตมีความชอบธรรมในการจัดการเลือกตั้ง แต่รัฐบาลนี้ได้ปฏิเสธอำนาจศาล และรัฐธรรมนูญ เป็นประเด็นที่ประชาชน มีชอบธรรมในการปฏิรูปการเมืองก่อนจะมีการเลือกตั้ง

เลื่อนเลือกตั้งไม่ขัดรธน. 

ศ.ดร.บรรเจิด ได้ย้ำว่า ตราบใดที่ประชาธิปไตยของไทยมีต้นทุนสูงจะนำไปสู่การโกงมโหฬารกระบวนการนี้ ควรหยุดได้แล้ว เพราะการโกงเลือกตั้งปัจจุบันนี้เป็นการซื้อเสียงทั้งปีด้วยนโยบายประชานิยมซึ่งเป็นการออกแบบร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลและส.ส.เพื่อโกงงบประมาณ ดังนั้นถ้าจะหยุดการเมืองที่เลวร้าย ต้องหยุดการทุจริตเสียก่อน ซึ่งกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งวันที่2 เมษายน พ.ศ.2549เป็นโมฆะนั้น เหตุผลการวินิจฉัยที่สำคัญคือการเลือกตั้งครั้งนั้นมีประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประมาณ18 ล้านเสียง มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนหรือโหวตโน 9 ล้านกว่าเสียง และ มีบัตรเสีย 1ล้านกว่าใบซึ่งในครั้งนั้นถือว่าประชาชนไม่ประสงค์ให้มีการเลือกตั้งมากกว่า ถ้าขืนให้รัฐบาลไปจัดการเลือกตั้งในครั้งนี้อีกต้องทำให้ประชาชนเห็นพ้องต้องกันก่อน ประเทศจำเป็นต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง มิฉะนั้นงบประมาณ กกต.3พันกว่าล้านบาทสูญเปล่าแน่นอนและยืนยันถ้าเลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ 

ปฎิรูปเกิดได้ถ้าทหารช่วย

ทั้งนี้ เขายังเสนอแนวทางปฏิรูปในอารยะประเทศมี3แนวทาง คือแนวทางที่ 1 เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเห็นประเทศเดินไม่ได้ ต้องปฏิรูปการเมืองแต่ชนชั้นนำในประเทศเห็นแก่ตัวไม่เคยคิดที่จะปฏิรูป ขณะนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างพลังที่ต้องการปฏิรูปกับมวลชนรักษาระบอบ ซึ่งแนวทางนี้เกิดไม่ได้ แนวทางที่2 เกิดในประเทศฝรั่งเศส เมื่อผู้นำประเทศไม่สามารถปกครองได้ ประชาชนกับทหารขอร้องให้นักการเมืองปฏิรูปใน 6 เดือนและมีการปฏิรูปเรื่อยมา จนกระทั่งประเทศฝรั่งเศสเจริญก้าวหน้าในทุกวันนี้ แต่ก็เป็นไปได้ยากเนื่องจากทหารยังตั้งข้อสงสัยการต่อสู้ประชาชนครั้งนี้ และแนวทางสุดท้าย เกิดในประเทศเยอรมันหลังแพ้สงครามโลก ต้องปฏิรูปประเทศบนเศษซากปรักหักพัง ซึ่งประเทศไทยไม่อยากได้การปฏิรูปบนวิกฤติซึ่งส่วนตัวเห็นว่าโอกาสที่ประเทศไทยจะใช้การปฏิรูปแบบฝรั่งเศส มีความเป็นไปได้มากที่สุด ขณะนี้จิตวิญญาณในการปฏิรูปประเทศของประชาชนคนไทยเกิดขึ้นแล้ว ขอให้รักษาเอาไว้จนกว่าประเทศไทยจะปฏิรูปการเมืองสำเร็จ

ซัดเพื่อไทยบีบหมอเป็นขี้ข้า

น.พ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่าก่อนหน้านี้ อ.ธีรยุทธ บุญมี ได้บอกว่าประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิรูป เพราะมีการซื้อเสียง มีการแจกเงินโดยตรงกับประชาชนผ่านนโยบายประชานิยม ในฐานะเคยหนุนนโยบาย30บาทรักษาทุกโรคสมัยรัฐบาลระบอบทักษิณ ก็เห็นว่านโยบายดีเพียงเริ่มแรกเท่านั้น หลังจากนั้นไม่เคยพัฒนาด้านสาธารณสุขเลย ซึ่งได้เอาความไว้วางใจของประชาชนไปทำอะไรตามอำเภอใจ ถ้าปล่อยให้รัฐบาลนี้บริหารต่อไปรัฐบาล ก็จะเดินหน้าทำนโยบาย‘เมดิคัล ฮับ’โดยมีคนในระบอบทักษิณไปกว้านซื้อหุ้นโรงพยาบาลเอกชน มีกระบวนการสร้างแตกแยกคนในวิชาชีพเพื่อให้โรงพยาบาลรัฐล้มเหลวและเมื่อเป็นไปตามนโยบายนี้ ภาครัฐจะไม่สามารถเก็บภาษีกับโรงพยาบาลเอกชนได้ ค่ารักษาพยาบาลสามารถลอยตัวได้เพื่อให้เกิดการแข่งขันระหว่างโรงพยาบาล คนจนหมดโอกาสในการรักษา และระบอบทักษิณมีการโกงทุกรูปแบบ ความศักดิ์สิทธิ์กฎหมาย ลดลง ไร้ยางอายอย่างชัดเจน ข้าราชการสยบยอมการเมืองใครอยากก้าวหน้าในหน้าที่ก็ต้องไปดูไบและกำลังให้หมอเป็นพวกขี้ข้าทักษิณอีกด้วย

ปลุกทุกภาคปฎิรูปประเทศ

น.พ.เกรียงศักดิ์กล่าวว่าในอดีตมีคนที่ทำตัวเป็น‘ไทยเฉย’จึงทำให้ไม่สามารถปฏิรูปได้ แต่วันนี้คนไม่ได้เฉยแล้ว คนที่มาต่อสู้มาชุมนุมใช้สิทธิ์ตามระบอบมาหลายวันแล้ว ถ้ามีการเลือกตั้งตามกำหนดแล้ว ก็เชื่อว่ารัฐบาลชนะภาคประชาชนแน่นอนซึ่งยังคงวงจรเดิมๆต่อไป แม้การปฏิวัติโดยทหาร มีความรวดเร็วก็จริง หลายครั้งก็เสียของ แต่การทำปฏิวัติของประชาชนโดยไม่มีอำนาจหนุนหลัง ต้องอดทนและมีคนร่วมต่อสู้เป็นจำนวนมากจึงจะชนะได้ ก็มีคำถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณเป็นเลขา กปปส.แล้วใครเป็นประธาน กปปส.ตนก็บอกว่าประชาชนทุกคนเป็นประธานซึ่งสภาประชาชนจำเป็นต้องมีคนต่างๆทุกสาขาอาชีพไม่เช่นนั้นการต่อสู้ครั้งนี้เสียของไร้ประโยชน์และต้องมีทุกภาคส่วนตรวจสอบการทำงานตามกระบวนการปฏิรูปด้วย

ยันสภาปชช.มีอำนาจ

ผ.ศ.กิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์ประจำ คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์กล่าวว่าการที่ประชาชนออกมารวมกันจำนวนมากก็ถือเป็นสภาประชาชน แม้ไม่มีกฎหมายรองรับแต่สภาประชาชน มีอยู่โดยข้อเท็จจริงโดยตัวของมันเองจากการที่ประชาชนลุกขึ้นและตื่นตัวขึ้นเช่นกรณีกฎหมายนิรโทษกรรมฯเมื่อ ปชช.เห็นว่าการออกกฎหมาย มีความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการการออกกฎหมาย ประชาชนต่างลุกขึ้นแสดงความไม่เห็นด้วยและตนเชื่อว่าการที่คนจำนวนมากลุกขึ้นสู้โดยมีเจตนารมณ์และเป้าหมายที่ชัดเจนจะมีอำนาจมากกว่าสภาตามกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น

ตั้ง กปปส.จว.สกัดโกงเลือกตั้ง 

นอกจากนี้ เขายังได้เสนอให้มีการจัดตั้ง กปปส.จังหวัดในทุกจังหวัดเพื่อเตรียมตัวจับผิดคนโกงในการเลือกตั้ง หากไม่มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเราก็ไม่ควรกลัวการเลือกตั้งควรให้มีการเลือกตั้ง หากเลื่อนไม่ได้เพราะจะเป็นการล่อให้คนโกงออกมาโกง แล้ว กปปส.ก็ช่วยกันจับคนโกงทั้งประเทศ เหมือนแมวจับหนู จากนั้นเราก็จะทำการปฏิรูประหว่างที่มีการเลือกตั้งเลย การปฏิรูปครั้งนี้ควรเป็นการปฏิรูปที่เกิดจากประชาชนโดยแท้จริง

“เทพเทือก”ชี้แจงผู้นำเหล่าทัพ

เมื่อเวลา 15.00 น.ณ ห้องประชุม ศูนย์ปฎิบัติการสันติภาพ กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานจัดเวทีเสวนาสาธารณะเพื่อความสงบสุขและประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย โดยมี พล.อ.นิพัทธิ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ณรงค์ พัฒนาพิศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ เข้าร่วมเพื่อให้เป็นไปตามที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขา คณะกรรมการ กปปส. ขอเข้าพบผู้นำเหล่าทัพ และคณะกลุ่มบุคคลในภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ อธิการบดีจากมหาวิทยาลัยต่างๆ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) สำนักงานมนุษยชนแห่งชาติ สภาพัฒนาการเมือง สำนักงานข้าราชการพลเรือน สภาทนายความ กลุ่มหอการค้า 7 กลุ่มภาคธุรกิจ นักวิชาการต่างๆคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตัวแทนภาคนักธุรกิจ สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วม เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ จุดยืนและเป้าหมายในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทย  พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็น ซักถามข้อสังสัย

ทุกคนรักชาติเหมือนกัน

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต้อนรับว่า ทุกคนที่มาอยู่ที่นี่มีจิตใจที่รักชาติเท่ากันทุกคน แต่อาจจะมีแนวคิดที่แตกต่างกัน สุดท้ายแล้วเราก็มีเส้นเดียวกันคือความรักชาติ

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า เหตุผลการจัดเสวนาในครั้งนี้ ก็เพราะนายสุเทพ ได้ทำหนังสือมาขอเข้าพบ ผู้นำเหล่าทัพ ซึ่งการเป็นทหารที่ต้องอยู่ในกฎระเบียบ วินัย และประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตย ตนจึงต้องกำหนดกฎระเบียบของตัวเองคือเลือกเวลานอกราชการ จัดเวทีเพื่อได้พบปะและหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ

เชื่อสามารถหาทางออกได้

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในหลายครั้งที่พี่สุเทพ ไปพูดในที่ต่างๆพวกตนไม่ได้ฟังหรือฟังแล้วไม่รู้เรื่อง ต้องยอมรับว่า ตนถูกฝึกมาเพื่อทำงานด้านทหาร ความรู้ในเรื่องการเมือง ยอมรับว่า ไม่รอบรู้ไม่เก่ง เท่ากับหลายคนในที่นี่ และในวันนี้เมื่อได้พูด ตน ผู้ใต้บังคับบัญชา คนทั้งประเทศได้ฟัง แสดงความคิดเห็นกัน นี้คือความเป็นประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ตนมั่นใจว่าเป็นประโยชน์และจะเห็นสิ่งที่ดี ตนเก่งเรื่องการทำแผนทหาร พี่หลายท่านสอนตนมาและให้อยู่ในระเบียบวินัย เป็นไปตามกฎกติกา แผนที่ดีที่สุดก็คือการพัฒนาไปเรื่อยๆ และเมื่อได้ข้อมูลมา ตนมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะไปดำเนินการต่อเพื่อหาทางที่ดีที่สุด

บอกให้ถ้อยทีถ้อยอาศัย

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนในฐานะผู้นำสูงสุดมีความจำเป็นที่ต้องปฎิบัติหน้าที่ ทำงานและหน้าที่ของตนคือการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักษาความมั่นคงของรัฐ ผลประโยชน์ของชาติ ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปฎิบัติตามกฎรัฐธรรมนูญ กฎหมายระเบียบ แบบแผน นี่คือสิ่งที่ตนต้องทำ แต่เราก็ปฎิบัติทุกสิ่งทุกอย่างด้วยเหตุผล ว่าสิ่งเหล่านี้ถ้าเราไม่เดินไปเรื่อยๆก็เหมือนร่างกายขาดอ๊อกซิเจน สมองขาดอ๊อกซิเจนกี่นาที ร่างกายไม่กลับมาเหมือนเดิม ที่ผ่านมาช่วงที่มีการประท้วง ไม่เข้าใจกัน ตนมั่นใจทุกท่านรักประเทศไทยและได้เชิญผู้นำเหล่าทัพ3ประเทศมาเป็นแขกของตน 3 ประเทศในช่วงที่มีเรื่อง ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ เขาเห็นว่าเราทะเลาะกัน เดียวกอดกัน "ผมบอกว่า ยูมาเลยประเทศไทย ไอรับรองว่าเราเป็นประชาธิปไตย "และเขาก็มา ซึ่ง ผบ.สูงสุดต่างประเทศมา แสดงว่าเขาการันตีว่าเรายังเป็นประชาธิปไตย มีความมั่นคงและปลอดภัย พรุ่งนี้ ก็มีอีกคณะหนึ่ง ซึ่งตนก็จะทำหน้าที่ไปอย่างนี้ ฉะนั้น ถ้าทุกคนถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเป็นเรื่องดี ไม่มีใครคิดทำร้ายชาติ

ทหารมีไว้สู้กับอริศัตรู

"ผมมีคน 4แสนกว่าคน 60 เปอร์เซ็นถืออาวุธ ใช้อาวุธ ฝึกระเบิด ทำการรบ สู้กับอริศัตรู ถ้าผมไม่ควบคุมโดยกฎระเบียบวินัย แบบธรรมเนียม ใครอยากให้ผมไปทำอะไรผมก็ไป ผมก็คือกองโจรขนาดใหญ่ และเมื่อผทรับผิดชอบ ผมก็ผิด ในขณะเดียวกันเขาบอกประเทศไทยมีกองโจร4แสนคนอยู่ นั้นคือตรงนั้น จึงอยากเรียนให้ทราบว่าเราต้องอยู่ในกฎกติกาและสิ่งหนึ่งแน่คือผมต้องดูแลปกป้องชีวิตประชาชน ผมไม่ได้ถูกออกแบบให้มาปราบจลาจล เฝ้ายาม รักษาทรัพย์สิน  "ผบ.ทหารสูงสุดกล่าว

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ขอสิ่งที่ดีเข้ามา การเสวนาครั้งนี้เป็นการนำแนวคิดรวบรวมมาใส่กะละมัง แล้วคนจนได้สิ่งที่ดีที่สุดออกไปแล้วนำไปใช้ วันนี้ไม่ถึงขนาดนั้นแต่ก็ได้ประโยชน์เพื่อให้ประเทศไปได้ ที่สำคัญความสงบ รุ่งเรื่องที่จะเกิดต้องเป็นการแก้ปัญหาที่ดี ยั่งยืน อย่านำกลับมาเป็นวงจรเดิม จึงต้องทำให้สมบูรณ์

เทพเทือกย้ำต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ต่อมาเวลา 15.35 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ยืนยันต่อที่ประชุมว่าวัตถุประสงค์เป้าหมายของมวลมหาประชาชน คือ 1.ประชาชนตั้งใจที่จะให้ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ โดยมีในการปฏิรูปประเทศ เช่น การเปลี่ยนแปลงแก้ไขเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งสอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ให้การเลือกตั้งนั้นเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นเพียงพิธีกรรมที่เปิดโอกาสให้คนเข้ามาใช้เงินในการเป็นส.ส.และรัฐมนตรี ทำให้นำไปสู่การทุจริตขนาดใหญ่ ดังนั้นประชาชนทั้งหลายจึงมีความคาดหวังในการเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้ง กฎหมาย และพรรคการเมือง

เร่งกำจัดการทุจริตคอรัปชั่น

2.การกำหนดกำเกณฑ์ กฎหมายในการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่จำเป็นจะต้องมีกฎหมายใหม่ คดีทุจริตคอร์รัปชั่นต้องไม่มีอายุความ หากโดนคดีทุจริตคอร์รัปชั่นแล้วไม่ว่าจะหนีไปอยู่ที่ไหนกี่ปีก็ตามกลับมาแล้วจะต้องดำเนินคดีรับผิดชอบในความผิดและต้องติดคุก

3. เป็นเรื่องของสภาประชาชนในการพิจารณากฎหมาย และการยอมรับในอำนาจประชาชนมากขึ้น โดยการกระจายอำนาจการปกครอง ยกเลิกระบบข้าราชการส่วนภูมิภาค เลือกตั้งผู้ว่าจังหวัดทั่วประเทศ กระจายงบประมาณอย่างยุติธรรม นอกจากนั้นจะต้องมีวาระแห่งชาติโดยไม่ให้โครงการประชานิยม เพราะโครงการประชานิยมที่อ้างว่าจะช่วยคนจนแต่คนจนก็ยังจนเหมือนเดิม เช่น โครงการจำนำข้าวที่ทำให้ประเทศเสียหาย รวมถึงการปรับโครงสร้างตำรวจ ตำรวจจะต้องไม่ใช่กองทัพที่จะรวมศูนย์อำนาจแค่คนๆเดียว คือ ผบ.ตร. ตำรวจต้องเป็นตำรวจของประชาชน ไม่ใช่ตำรวจของคณะรัฐมนตรีหรือคนใดคนหนึ่ง

เอาอำนาจจากรัฐบาลคืน

นายสุเทพ กดล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นอุปสรรคทั้งหมดคือ ระบอบทักษิณ ที่อยู่เหนือกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ใช้เงินซื้ออำนาจเป็นใหญ่จนเป็นที่มาของการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นการปฏิรูปประเทศไทยจะต้องดำเนินการขจัดระบอบทักษิณออกไปให้หมด ในสายตาของกปปส.ถือว่าไม่มีรัฐบาลและรัฐสภา เพราะหมดความชอบธรรมตั้งแต่วันที่คนของรัฐบาลปฏิเสธคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนรู้สึกว่ารัฐสภาไม่ไว้ใจประชาชน จึงได้เอาอำนาจที่ประชาชนมอบให้ไปใช้ในทางที่ผิด นำไปใช้เพื่อประโยชน์ของพวกพ้องตน เช่น การออกกฎหมายนิรโทษกรรม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉล ทุจริตคอรัปชั่นเชิงนโยบาย ที่ร้ายที่สุดคือรัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน เป็นรัฐบาลที่ฟังคำบงการคนที่อยู่นอกประเทศ ดังนั้นประชาชนจึงออกมาแสดงออกว่าไม่ต้องการรัฐบาลนี้ต่อไป แนวทางของกปปส.ที่ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของประชาชน เพื่อต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และต้องทำก่อนการเลือกตั้งทั่วไป การเลือกตั้งไม่มีประโยชน์หากใช้กฎเกณฑ์กติกาเดิมๆก็จะได้รัฐบาลเดิมๆมาทำร้ายประเทศด้วยเรื่องเดิมๆ

ผู้ชุมนุมยึดหลักอหิงสา

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ทางออกคือผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะต้องลาออกและไม่มีใครแต่งตั้งรักษาการณ์ เพื่อให้สภาประชาชนได้ทำหน้าที่เลือกคนดีมาดำเนินการแต่งตั้งประเทศ แต่เชื่อว่าหลายฝ่ายคงไม่ยอมกันง่ายๆ ดังนั้นประชาชนจึงใช้การบังคับโดยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ประชาชนจึงออกมาดำเนินการต่อต้านตามวิธีทางของประชาชน ประชาชนเป็นพลเมืองดีต่อสู้โดยสงบ สันติ อหิงสา ยืนยันว่าเจตนารมณ์ของประชาชนคือ นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะให้ประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัย ดังนั้นจะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อประเทศชาติ สภาประชาชนต้องไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตนได้ประกาศไปแล้วว่าจะทำเรื่องนี้เรื่องเดียวและจะเลิกเล่นการเมืองอีกตลอดชีวิต

ต้องตั้งรัฐบาลประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวทีการสัมนาหนนี้ มีการตั้งคำถามไปยังนายสุเทพว่า      กปปส..จะทำอย่างไรก่อนเลือกตั้ง 1 ปีครึ่ง ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญระดับวัฒนธรรม จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี หากผู้เห็นต่างในการปฏิรูปไม่เห็นด้วย จะดำเนินการได้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องเฉพาะกิจ ต้องตั้งรัฐบาลประชาชน ซึ่งเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ โดยเลือกทำประเด็นสำคัญ 6 ประเด็น สำคัญ เช่น การเร่งปฏิรูปการเลือกตั้ง การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น การยอมรับอำนาจประชาชน และการแก้ปัญหาการเหลื่อมล้ำ หากไม่เร่งดำเนินการประชาชนจะออกมาอีกมากอย่างแน่นอน เพราะตนในฐานะแกนนำได้เดินตามสิ่งที่ประชาชนสั่งให้ทำ ทั้งนี้ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งจะไม่มีวันเกิดขึ้นและไม่สำเร็จ และตนไม่เคยปฏิเสธที่จะปฏิรูปตามแนวทางที่มีคนเสนอ พร้อมจะเจรจาต่อรองกับทุกฝ่าย ยกเว้นระบอบทักษิณและไม่ยอมรับข้อเสนอของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพราะมองว่าเป็นการซื้อเวลาให้รัฐบาล

ย้ำต่อหน้าผบ.สส.”ปู”ต้องออก

ขณะเดียวกันมีคำถามสำคัญจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดถามนายสุเทพว่าา  มีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้สังคมก้าวไปได้โดยบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุด นายสุเทพ กล่าว่า วิธีที่ดีที่สุดคือการจักการรักษาการนายกรัฐมนตรีให้ลาออก และถ้าบ้านเมืองเลวร้ายในอดีตทหารออกมาปฏิวัติแล้วและใช้อำนาจรักษาการ แต่ในวันนี้ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพไม่ออกมาปฏิวัติซึ่งตนก็ไม่อยากให้ออกมาปฏิวัติเช่นกัน แต่วันนี้ประชาชนลุกขึ้นมาบอกว่ารัฐบาลไม่ถูกต้อง แต่หากข้าราชการตัดสินใจโดยเร็วและหันมายืนเคียงข้างประชาชน ตนเห็นว่าประชาชนจะแซ่ซ้อง ตนเข้าใจว่าผบ.สส.ตัดยากที่จะเลือกข้างใดข้างหนึ่ง

ทั้งนี้ผบ.สส.ยังกล่าวด้วยว่า ตนเป็นทหารเรื่องธงชาติสำคัญ เมื่อเห็นธงชาติตกลงไปที่พื้นทหารยอมไม่ได้ เพราะว่าธงชาติต้องโบกสะบัดอยู่บนที่สูง ดังนั้นขอให้ธงชาติที่ล้อมอยู่ที่ทำรัฐบาลอย่าให้เปรอะเปื้อน นายสุเทพกล่าวว่า ทำเนียนจะสวยงามกว่านี้ถ้าหากทหารเข้าไปประจำการและให้ตำรวจออกมาให้หมด ทั้งนี้ นายนิติธร เหลือล้ำ แกนนำกปปส.กล่าวว่า ทางกลุ่มคปท.จะไปดำเนินการให้ธงชาติไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม

กองทัพชูคนกลางคุมเลือกตั้ง

เมื่อเวลา 17.30 น.พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เปิดแถลงข่าว โดยผู้สื่อข่าวถามจะยอมรับข้อเสนอของ กปปส.หรือไม่ ทางผบ.สส.ตอบว่าต้องนี้ตอบไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกัน และเลือกหนทางที่ดีที่สุด ทุกคนต้องมีการแลกเปลี่ยนกันอย่าเอาแต่หลังชนฝากัน ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่เกิดสงครามกลางเมือง เพราะทุกคนพูดกันรู้เรื่อง

“ปัญหาของประเทศจะต้องถามว่าเห็นของประชาชนว่าคิดอย่างไร ทั้ง 60 ล้านคน เพราะเป็นภาระหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องรับผิดชอบตามกฎกติกา ทั้งนี้ทุก ๆ คนอยากให้ประเทศชาติดีขึ้นทั้งนั้น ส่วนการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ทางนายสุเทพ กังวลว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส ก็ให้หากรรมการกลางขึ้นมา ก็อยากให้คิดว่าทำอย่างไรให้โปร่งใส เพื่อให้มีการเลือกตั้งไปตามพระราชกฤษฎีกา แต่นายสุเทพ ก็ยืนยันว่า จะปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะเรียกเป็นโมเดลของกองทัพในการตั้งกรรมการกลางก่อนนำไปสุ่การเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ต้องฟังนักวิชาการที่มีความรู้เรื่องนี้  พร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกส่วน  และเชื่อใจกัน ซึ่งกรรมการจะต้องเป็นคนไว้ใจต้องมีคนศรัทธา และไม่ยุ่เงกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการเมือง

ปฎิวัติ!ไม่มีอะไรแน่นอน

เมื่อถามว่า โอกาสที่จะมีการปฎิวัติประชาชนได้หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ตนตอบตรงนี้ไม่ได้จะเป็นการชี้นำ ตอนนี้สถานการณ์ในไทยเป็นที่สนใจของคนทั้งโลก คนไทยต้องให้ความสนใจ และ คนตัดสิน ข้อเสนอของใครแฟร์หรือเปิดกว้างและมีความจริงใจก็ต้องเป็นไปตามนั้น

“กองทัพไม่ได้บอกว่าจะไปปฏิวัติ ทางที่ถูกต้องคือทางทีดีที่สุด แต่จะต้องมีกฎกติกาจะทำอะไรก็ทำ แต่ทุกอย่างจะต้องตามระบบ ยืนยันว่า ผบ.เหล่าทัพคิดเหมือนกัน อยากให้ประเทศสงบสุข มีแต่ความเจริญ จะดีหรือไม่ดี อยู่ที่พวกเราทุกคน ทุกคนอาจจะไม่เก่ง แต่รวมตัวกันจะเก่งเหมือนกับตะเกียบถ้ามารวมกันจะหักได้ยาก กองทัพพร้อมที่จะรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อรักษากฎกติกาเพื่อความสงบสุขของประเทศ” พล.อ.ธนะศักดิ์ ระบุ

สุเทพหารือกับแกนนำ

ทางด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขา กปปส.ภายหลังชี้แจงการโค่นระบอบทักษิณกับผู้นำเหล่าทัพแล้ว  ได้เดินทางรถบัสโดยสาร จากกองทัพไทย มาถึงยังเวทีการชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประมาณ18.00   น. โดยนายสุเทพมีสีหน้าเรียบเฉย โดยทันทีที่มาถึงนายสุเทพพร้อมด้วยแกนนำกปปส.ได้เข้าไปหารือภายในรถบัสซึ่งจัดเป็นห้องวอร์รูมสำหรับประชุมแกนนำบริเวณด้านหลังเวที

ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย คณะกรรมการ กปปส. ปราศรัยบนเวทีตอกย้ำว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ยืนยันกับกองทัพว่าต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างละมุนละม่อม ถ้ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ยอมลาออกจากรักษาการ การชุมนุมจะไม่ยุติและจะมีประชาชนออกมาร่วมชุมนุมมากขึ้น

ยืนยันยิ่งลักษณ์ต้องออก

ต่อมา 21.10 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นเวทีปราศรัยเล่าถึงการไปพบผู้นำเหล่าทัพอธิบายถึงความชั่วช้าของของระบอบทักษิณ และยืนยันว่า นส.ยิ่งลักษณ์ ต้องลาออกจากรักษาการนายกฯเพื่อเปิดทางปฎิรูปประเทศก่อนจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่

“ไม่มีวันที่ประชาชนจะถอย และไม่มีวันที่จะเลือกตั้งในช่วงนี้แน่นอน ที่ยิ่งลักษณ์ทำอยู่ตอนนี้คือถ่วงเวลาเพื่อเจรจาแต่เราไม่เจรจา”นายสุเทพ ระบุและว่าประชาชนเสียสละมามากแล้ว “

ยันไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน

เลขาธิการ กปปส.ย้ำด้วยว่า สิ่งที่พูดกับผู้นำเหล่าทัพวันนี้ หนักแน่นและชัดเจน โดยยืนยันไปว่า ยุบสภาแล้วไปเลือกตั้งนั้น ประชาชนไม่ไปเลือกตั้งแน่นอน จนกว่าจะปฎิรูปประเทศก่อน และถ้าใครแข็งขืนดึงดันให้มีการเลือกตั้ง ตนขอบอกเลยว่า จะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเด็ดขาด และย้ำว่า ท่าทีของนายกฯและรัฐบาลพยายามทำในการเจรจา เป็นเพียงการซื้อเวลา ยืนยันไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆทั้งสิ้น และประชาชนลุกขึ้นมาแล้ว คงไม่ถอยจนกว่าจะชนะ  วันที่ 9 ธ.ค.คนมามากแล้ว แต่ถ้าจำเป็นอาจต้องมากกันมากถึง 10 ล้านคนและมวลชนที่มาไม่มีหมดแรง และสู้ได้เป็นปี มั่นใจว่า ในที่ประชุมวันนี้ เห็นด้วยกับมวลชน 80%

จี้ผู้นำเหล่าทัพเลือกข้างรอฟังคำตอบ

อีกทั้ง ยังบอกให้ผบ.สส.ไปถามคนที่บ้านด้วยว่าจะเลือกข้างใด มั่นใจจะได้คำตอบว่าเลือกยืนข้างประชาชน

“บอกด้วยว่า มาชี้แจงครั้งนี้ไม่ใช่การกดดัน แต่สถานการณ์ขณะนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างระบอบทักษิณกับประชาชน ขอให้ทหารไปตัดสินใจจะเลือกอยู่ข้างไหน ไม่มีตรงกลาง แต่ต้องเลือกว่าอยู่ข้างไหน  ให้เวลาไปตัดสินใจจะรอฟังคำตอบ นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า ถ้านายกฯไม่ยอม ก็ไม่มีทางเลือก ประชาชนคงต้องใช้กำลังบังคับเอา”นายสุเทพ ระบุ