สถาปนาระบอบอำนาจนิยม!!! "ชัยธวัช"ชี้พัฒนาการ"ยุบพรรค"น่ากลัวมากขึ้น จวก"ฉ้อฉล-ไม่ได้มาจากเลือกตั้ง"ครอบงำ"ระบอบประชาธิปไตย"
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณารายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เรื่อง ข้อเสนอในการส่งเสริมสถาบันพรรคการเมือง ให้ยึดโยงกับประชาชน โดยมีการเปิดให้สมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.จากพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นสลับกันอภิปราย
โดนเมื่อเวลา 16.50 น.นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รายงาน กมธ.ฉบับนี้ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อพวกตน ไม่มีผลกระทบต่อชะตาชีวิตพวกตน เป็นเรื่องทุกพรรค และผลประโยชน์ประชาธิปไตยไทย ปัญหาใหญ่คือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. .... พยายามออกแบบให้ดูดี ควบคุมให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันของประชาชน แต่ไม่บรรลุเจตนารมณ์ เพราะออกแบบจากฐานคิดต่อต้านประชาธิปไตยโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ไม่ไว้วางใจนักการเมือง และอำนาจจากการเลือกตั้ง มองพรรคการเมืองเป็นความเลวร้ายของการเมืองไทย ทุกอย่างจึงกลับตาลปัตรไปหมด เจตนารมณ์ที่อยากให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนไม่เกิดขึ้น กลับเป็นของกลุ่มทุนที่หาประโยชน์ พรรคที่มาจากอุดมการณ์ประชาชนจริงๆเกิดยากมก ดังนั้นขอสนับสนุนหลักพรรคเมือง "เกิดง่าย ดำรงอยู่ง่าย ยุบยาก" ต้องยุบโดยประชาชนเท่านั้น แต่รายงานฉบับนี้ไม่ควรเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การแก้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง เท่านั้น แต่ควรไปสู่การออกแบบสถาบัน กติกา การเมืองทั้งหมดที่มีปัญหาจากฐานคิดชุดเดียวกันที่พยายามทำให้สังคมไทยเชื่อโดยไม่รู้ตัวว่า ปัญหาการเมืองไทยเกิดจากพรรคการเมือง นักการเมือง อำนาจการเลือกตั้ง แต่ปิดซ่อนเร้นอำนาจฉ้อฉลที่ไม่เคยถูกตรวจสอบจากอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สถานการณ์ปัจจุบันกำลังต่อสู้กับความพยายามสถาปนาระบอบการเมืองที่ทำให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอยู่เหนืออำนาจการเลือกตั้ง นี่คือปัญหาใจกลางสำคัญของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง รวมถึงความคิดปลูกฝังต่อประชาธิปไตยแบบไม่รู้ตัว โดยโยนความผิดให้พรรคการเมือง
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ส่วนการยุบพรรคนั้น อยากสื่อสารว่า พัฒนาการยุบพรรคน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การทำลายสถาบันการเมืองของประชาชน แต่ยังเริ่มเห็นอาการยุบพรรคการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสถาปนาระบอบอำนาจนิยม หรือเผด็จการแบบไทยๆที่เรียกว่า นิติรัฐแบบไทยๆ แปลกแยกออกจากออกหลักการพื้นฐานจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมากขึ้นทุกวัน เป็นอันตรายที่หลายคนอาจไม่สังเกต แต่ลองไปอ่านดูคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหลายฉบับที่ผ่านมาร เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หลวงกว่าการคิดแค่จะแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง เพื่อให้ระบบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เป็นของประชาชน มีความหมายจริงๆ ไม่ใช่มีอยู่ในตัวอักษรเท่านั้น ถูกตีความและบังคับใช้โดยที่ไม่ประชาชนอยู่ในสมการ
จนกระทั่งเวลา 17.30 น.หลังจากที่สมาชิกอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว นายพิเชษฐ์ ประธานในที่ประชุม กล่าวว่า จากการอภิปราย ทุกคนเห็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องลงมติ ขอให้ส่งรายงานไปยัง ครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี