"อนาคตไกล"ฟาด"สว.นันทนา"เป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสี ไม่รู้จักหน้าที่ตนเอง ชี้"ก้าวไกล"แปลงร่าง"พรรคประชาชน" หากสืบสานอุดมการณ์ ยักไหล่ แล้วไปต่อล้มล้างการปกครอง แก้ไขมาตรา 112 อาจโดนยุบพรรคอีก
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ที่พรรคอนาคตไกล นายภวัต เชี่ยวชาญเรือ โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า ตามที่ สว.นันทนา นันทวโรภาส ที่อ้างตนเป็น สว.พันธ์ใหม่ ออกมาขับเคลื่อนเรื่องล่ารายชื่อคัดค้านในการยุบพรรคก้าวไกลและจะแถลงคัดค้านการยุบพรรคก้าวไกล ต่อมากระแสตีกลับโดยอ้างว่า ไม่รู้บทบาทหน้าที่ของ สว. ล่าสุดออกมาโพสต์เกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกล ในทำนองว่า องค์กรอิสระทั้งหลาย จะใช้อำนาจเหนือองค์กรหรือคณะบุคคลที่มาจากประชาชน...”
ก่อนอื่น ตนไม่รู้จัก สว.นันทนา นันทวโรภาส และไม่อยากเอ่ยนามถึง เพราะมาจากผู้สมัครเลือกกันเองไม่กี่คน ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง แต่เท่าที่ทราบเป็นผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาเอกสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ที่ผ่านการสอนหนังสือด้านการเมืองการปกครอง เหตุใดสอนสื่อสารการเมือง ไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญ ทำความเข้าใจกับบทบาทของสมาชิกวุฒิสภา คุณให้ความเห็นทางการเมืองได้ ไม่มีกฎหมายห้าม แต่ถึงขั้นเป็นแกนนำหลักในการคัดค้านการยุบพรรคก้าวไกลในการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรม รัฐธรรมนูญ มาตรา 113 วุฒิสภา ต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้พรรคการเมืองใดๆ และในมาตรา 185 สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งสมาชิกวุมิสภา กระทำการใด ก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่นหรือของพรรคการเมือง (1) ในการทำหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรหนึ่งของรัฐ ตามหมวด 11 และ กกต.เป็นองค์กรอิสระ ตามหมวด 12 ส่วนที่ตามความในรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งสองหน่วยงานถือว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ ถามว่า สว.นันทนาฯ บอกว่า ไม่รู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง ประชาชนทางบ้านเขาฝากถามมาว่าตำแหน่งรองศาสตราจารย์พิเศษ ท่านได้แต่ใดมา
การให้ความเห็นตามสื่อต่างๆ ก่อนดำรงตำแหน่ง สว.แสดงว่าให้ความเห็นทางการเมือง โดยไม่มีความรู้ทางด้านรัฐธรรมนูญอย่างนั้นหรือ ส่วนที่สถาปนาตนเอง สว.พันธ์ใหม่ น่าจะท่าดีทีเหลว พอเข้าสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา สำแดงตนเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีทันที ไหนว่าเป็น สว.ของประชาชน เห็นออกมาขับเคลื่อนคัดค้านยุบพรรคก้าวไกล ตนขอตั้งฉายาว่า “สว.กลายพันธ์(พันธ์ทาง)” ที่ออกมาให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่า งานแรก แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แน่นะวิ ให้ไปอ่านว่า การออกแบบสถาปนารัฐธรรมนูญแบบจำกัด เขาใช้วิธีการใดก่อนที่จะเสนอแก้ไข ถ้าไม่รู้จะสอนมวยให้ การยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มีแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องสอบถามประชาชนก่อนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และอีกครั้ง ภายหลังร่างเสร็จ จะต้องไปสอบถามประชาชนว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบหรือไม่ ค่าใช้จ่ายในการจัดทำประชามติ สว.นันทนา ออกงบประมาณในการจัดทำประชามติหรือไม่ เพราะไม่ได้แก้ไขรายมาตรา ประกอบการการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มี 3 ช่องทาง โดยไม่ได้เริ่มต้นจาก สว.ควรไปศึกษารัฐธรรมนูญก่อนออกมาพูดหรือออกมาโพสต์ก่อน ไม่ควรไปแทรกแซงการทำหน้าที่ขององค์กรอื่น เดี๋ยวจะถูกสอยก่อนครบ 5 ปี ก่อนเตือนองค์กรอิสระอื่น ควรเตือนตนเองก่อน อย่าฝักใฝ่พรรคการเมืองสีส้ม
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ก้าวไกลย้ายไปสังกัดพรรคประชาชน โดยมี ส.ส.เท้ง ณัฐพล เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค มีความเห็นอย่างไร โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า โดยข้อกฎหมาย มาตรา 101(10) เป็นบทบังคับต้องไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ภายใน 60 วันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย แต่ให้สังเกตว่า ในครั้งนี้ พลพรรคก้าวไกล รีบย้ายพรรคเพราะกลัวงูเห่าเลื้อยหนี รีบชิงตัดจบไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ แต่หากพิจารณาถึงสมการทางการเมือง พรรคผสมรัฐบาลถือครองเสียง 300 กว่าเสียง เบ็ดเสร็จในสภา งูเห่าสีส้ม จึงไร้ราคา ใครจะไปจ่ายเงินเพื่อซื้องูเห่าเข้าพรรคไปต่อรองเป็นตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลเสียงไม่ปริ่มน้ำ ส่วนพรรคการเมืองที่ไปสังกัดไม่ว่าจะชื่อ "พรรคประชาชน" หรือชื่อพรรคใดก็ตาม หากไม่ปรับเปลี่ยนอุดมการณ์ทางการเมือง ยังยักไหล่ แล้วไปต่อ สืบสวนอุดมการณ์ล้มล้างการปกครองหรือกระทำปฏิปักษ์การปกครอง แก้ไขมาตรา 112 เชื่อว่าพรรคจะชื่ออะไร จะถูกยุบพรรคอีกเช่นเดิม ควรปรับเปลี่ยนอุดมการณ์ใหม่ ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับแก้ไข มาตรา 112 อีก ส่วน กรณี 44 ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ลงชื่อเสนอญัตติ ที่มี ส.ส.เท้ง ณัฐพล เรืองปัญญาวุฒิ และ ส.ส.ไหม ศิริกัญญา ตันสกุล มีรายชื่ออยู่ด้วย ทราบว่า เลขาธิการ ปปช.ให้สัมภาษณ์ว่า คดีมีมูลเบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนเรียก 44 ส.ส.แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมชี้แจ้งข้อกล่าวหา ตรงนี้ ในมุมมองตน ควรให้ความเป็นธรรมแก่ ส.ส.ที่ถูกกล่าวหาด้วย เพราะพฤติการณ์ร้ายแรง แต่ละคนไม่เท่ากัน อาจมีผลในเรื่องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ตามความในมาตรา 235 วรรคหนึ่ง (1) หาก ปปช.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้อง ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา ทั้งนี้ บทบัญญัติมาตรา 235 วรรคสาม มีข้อยกเว้นให้เป็นดุลพินิจของศาล
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี