อ้างพรรคประชาชนตั้งสาขาไม่ครบทุกภาค
ขู่ร้องยุบพรรค
‘หมอวรงค์’บี้กกต.ตรวจสอบ
‘สส.ภคมน’สวน‘หมอวรงค์’
ยันข้อมูล‘กกต.’ไม่อัปเดต
โพลล์เชื่อมั่นรัฐบาลลดลง
งานเข้าอีกแล้ว“หมอวรงค์”เสนอ กกต.ยุบพรรคประชาชน หลังพบหลักฐานสำคัญ สาขาพรรคมีไม่ครบทุกภาค ขณะที่“อมรัตน์”สวนกลับไม่รู้จักอัปเดตข้อมูล เผยยอดบริจาค พรรคประชาชน ทะลุ 20 ล้าน สมาชิกพรรคพุ่ง 40,000 คน สวนดุสิตโพลชี้การเมืองแย่ลง ความเชื่อมั่นรัฐบาล“เศรษฐา”ต่ำ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ยังแก้ไขอะไรไม่ได้
เมื่อวันที่11สิงหาคม2567 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า #ทำไมต้องเสนอยุบพรรคประชาชน (ปชช.) ตามที่สื่อเสนอข่าวว่า พรรคประชาชนเกิดจาก การที่นำพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มาเปลี่ยนชื่อพรรค เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นสถาบันสำคัญ ของระบอบประชาธิปไตย ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ จากการตรวจสอบผ่านเว็บ กกต.พบว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งเป็นพรรคต้นกำเนิด ของพรรคประชาชน มีสาขาพรรค 3 สาขา ภาคเหนือ 2สาขา และภาคกลาง 1 สาขา ไม่มีสาขาภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฏหมายพรรคการเมือง กำหนดไว้ว่าพรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพ ถ้ามีสาขาพรรคการเมือง เหลือไม่ถึงภาคละ1สาขา เป็นระยะเวลาติดต่อกัน1ปี นั่นหมายความว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ต้องมีสาขาครบทั้ง4ภาค ห้ามขาดหายไปติดต่อกัน1ปี ถ้าไม่ครบพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลต้องสิ้นสภาพ ข้อมูลหน้าเว็บกกต. พบว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคเพียงแค่ 2ภาค ซึ่งไม่ครบ4ภาค และจัดตั้งตั้งแต่ปี2555
เพื่อความโปร่งใส กกต.ต้องตรวจสอบและชี้แจง ให้ประชาชนได้รับทราบ รายละเอียดการมีสาขาในแต่ละปี ถ้าพรรคถื่นกาขาวมีสาขาไม่ครบ4ภาค ติดต่อกัน1ปี จะเข้าข่ายการสิ้นสภาพของพรรคตามกฏหมาย นั่นหมายความว่าพรรคประชาชน จะไม่สามารถนำพรรคที่สิ้นสภาพ มาดำเนินการเปลี่ยนชื่อพรรคได้ พรรคไทยภักดีจะไปยื่นเรื่องดังกล่าว ให้กกต.ตรวจสอบ และดำเนินการต่อไปให้เป็นไปตามกฏหมาย
โต้หมอวรงค์ไม่อับเดตข้อมูล
ในประเด็นดังกล่าวล่าสุด นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ผ่าน X ชี้แจงนพ.วรงค์ โดยระบุว่า #พรรคประชาชน มีสาขาครบถ้วนทั้ง 4 ภาค คือภาคเหนือที่จ.นครสวรรค์ ภาคกลางจ.ราชบุรี ภาคอีสานที่จ.สกลนคร และภาคใต้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่งั้นกกต.คงไม่อนุญาตให้พรรคมีการตั้งกรรมการสรรหา จดแจ้งเปลี่ยนชื่อพรรคและธุรกรรมอื่น ๆ ข้อมูลที่ หมอวรงค์ เตรียมไปยื่น เป็นข้อมูลที่ไม่อัพเดท
แนะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง
น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เตรียมยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบพรรคประชาชน เพราะมีสาขาพรรคไม่ครบ 4 ภาคเป็นระยะเวลาติดต่อกันเกิน 1 ปี อันเป็นเหตุให้พรรคประชาชนต้องสิ้นสภาพหรือยุบพรรคไป ว่า พรรคประชาชนมีสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สกลนคร, ภาคกลาง จ.ราชบุรี, และภาคเหนือ จ.นครสวรรค์ ดังนั้น เรื่องการตั้งสาขาพรรคเรามีครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดแน่นอน แต่ข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ของ กกต.อาจจะอัปเดตฐานข้อมูลในช่วงรอยต่อของการยกเลิกสาขา ครบวาระ หรือตั้งสาขาใหม่ จึงทำให้ระบุสาขาพรรคไม่ครบถ้วน
น.ส.ภคมนกล่าวต่อไปว่า ขอฝากถึงคุณหมอวรงค์ว่าได้รับข้อมูลอะไรมาอย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปและตีฟูเป็นประเด็น แต่ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน มิเช่นนั้นก็จะเกิดสถานการณ์หน้าแตกดังที่เห็น เข้าใจว่าการแพ้เลือกตั้งซ้ำซากหลายสมัยอาจทำให้คุณหมอรู้สึกหงุดหงิด ดังนั้นในการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ขอเชิญชวนให้คุณหมอมาลงสมัครด้วย จะได้รู้ให้ชัดว่าประชาชนยังคงสนับสนุนคุณหมออยู่ หรือชีวิตทางการเมืองของคุณหมอนั้นอวสานไปนานแล้ว
“พรรคประชาชนขอเตือนด้วยความหวังดีว่า การจ้องแต่จะร้องยุบพรรคคนอื่นคือวิถีของคนขี้แพ้ ที่ไม่สามารถชนะเลือกตั้งด้วยตัวเองได้ ขอให้คุณหมอเอาเวลาไปทำอย่างอื่นและใช้เวลาในการพัฒนาพรรคของตัวเองบ้าง น่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า”น.ส. ภคมนกล่าว
ยอดบริจาคทะลุ40ล้านบาท
เพจเฟซบุ๊ก พรรคประชาชน แจ้งข่าวระบุ ยอดบริจาคทะลุ 20 ล้านบาทใน 32 ชั่วโมง ชาวส้มยังปังไม่หยุด 20 ล้านแตกภายใน 32 ชั่วโมง ภายในเวลาไม่ถึง 2 วันหลังการเปิดตัวพรรคประชาชน มีผู้สมัครสมาชิกพรรคแล้วเกือบ 40,000 คน และยอดบริจาคทำสถิติ 20 ล้านบาทภายใน 32 ชั่วโมง และดูเหมือนว่าในช่วงวันหยุด ประชาชนจะยิ่งหลั่งไหลกันมาสมัครสมาชิกอย่างต่อเนื่องท่วมท้นกว่าเดิม
เปิดรับบริจาคต่อเนื่อง
โดยวันนี้ ยังมีการเปิดจุดรับสมัครสมาชิกและบริจาคแบบใช้กระดาษ (offline) ใน 38 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเต็มที่ สามารถสมัครได้ในพื้นที่ใกล้บ้านท่าน ยอดการรับสมาชิกและบริจาคแบบออฟไลน์ยังไม่ได้นำมารวมกับยอดที่อัพเดทแบบเรียลไทม์ในเว็บไซต์ แต่เราจะทยอยนำข้อมูลเข้าระบบโดยเร็วที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามการเติบโตของพรรคอย่างใกล้ชิด สมกับเป็นพรรคของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน เว็บไซต์ของเรายังเพิ่มข้อมูลเพื่อให้ผู้บริจาคเงินสามารถเห็นสัดส่วนรายจ่ายของพรรค และทราบได้ว่าเงินที่ท่านบริจาคให้กับเรา สามารถนำไปต่อเติมการทำงานของพรรคได้อีกมากแค่ไหน ทุกบาททุกสตางค์ และสมาชิกใหม่ทุกคน คือก้าวต่อไปของการสร้างพรรคที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ขอบคุณจากใจ
เปิดตัวโพล์คลงซ่อมพิษณุโลก
นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติให้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่างลง และให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครดำเนินการสรรหาตามข้อบังคับพรรคและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการเปิดรับสมัคร “โฟล์ค ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์” เป็นผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง และจะได้มีการทำไพรมารีโหวตในวันที่ 12 สิงหาคม2567ต่อไป“โฟล์ค ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์” มีอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจ และร่วมทำงานการเมืองกับอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลมาตลอด โดยพรรคประชาชนมีความมั่นใจในอุดมการณ์และจุดยืนของโฟล์ค ณฐชนน เพราะมีความชัดเจนและทำงานใกล้ชิดกับหมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา โดยเฉพาะงานพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนแทนหมออ๋อง ในช่วงที่หมออ๋องต้องรับหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร
พท.ขอเคลียร์พปชร.ก่อน
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งคนลงเลือกตั้งซ่อมสส.พิษณุโลก เขต 1 ว่า ตอนนี้ทางพรรค พท. ได้ถามไปยังพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่ามีความพร้อมหรือไม่เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเขาได้รับคะแนนเสียงเป็นพรรคอันดับ 2 ในพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการพูดคุยกัน เพราะยังไม่มีการเคาะวันสมัครรับเลือกตั้งออกมาว่าจะเป็นเมื่อไหร่ เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยกับพรรค พปชร. เมื่อไหร่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่า ไม่ว่าจะส่งลงในนามของพรรค พท. หรือพรรค พปชร.จะสามารถชิงเก้าอี้ได้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรามั่นใจ หากตัดสินใจที่จะส่งแล้วก็ต้องสู้เต็มที่ ซึ่งเบื้องต้นพรรค พท.ก็ได้สอบถามไปยังผู้สมัครที่เคยลงสมัครและได้พูดคุยกันแล้วว่าในพื้นที่พร้อมหรือไม่ และพร้อมขนาดไหน แต่ยังไม่ได้คำตอบ
อวยพร”บิ๊กป้อม”กระหึ่ม
ที่มูลนิธิอนุรักษฺป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สวมชุดวอมร์และเสื้อแจ๊กเก็ตสีชมพูสดใส ต้อนรับบรรดาคนสนิท ที่เข้าอวยพรวันเกิด 79 ปี ก้าวสู่ปีที่ 80 โดยตั้งแต่ช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร ได้ เดินทางไปทำบุญกระดูกบรรพบุรุษที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กทม.ก่อนจะเดินทางกลับมายังที่มูลนิธิอนุรักษฺป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พร้อมออกมานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับคนสนิทด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายกับน้องรัก โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต รมว.มหาดไทย สมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ อดีตประธานที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
นอกจากนี้ ยังมีบรรดาคนสนิทจากทุกแวดวง ไม่ว่าจะเป็น คนการเมือง เช่น นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานวุฒิสภา นายสุรทิน พิจารณ์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายวัน อยู่บำรุง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมถึงอดีตสมาชิกวุฒิสภายุค คสช.หลายคน ก็มาร่วมอวยพรวันเกิด พล.อ.ประวิตร ด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับของชำร่วยที่ พล.อ.ประวิตร มอบให้กับแขกที่เข้าร่วมอวยพรในวันนี้ ผู้ชายเป็นผ้าห่มลายไก่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ปีเกิดของ พล.อ.ประวิตร ส่วนผู้หญิงจะได้รับเป็นผ้าพันคอลายไก่ ลายเดียวกัน ทั้งนี้ บรรยากาศในวันนี้งดให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน
บิ๊กป้อมย้ำปกป้องสถาบัน
สำหรับงานวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร ในวันนี้ บรรยากาศ เป็นแบบเรียบง่ายเป็นกันเองทุกคนทุกคณะมาด้วยความเคารพรัก ความผูกพัน ที่เคยมีมาอย่างยาวนาน เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตากับทุกคน เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ รวมทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ วันนี้ จึงเป็นอีกวันหนึ่ง ที่นับเป็นวัน“รวมพลคนรักลุงป้อม”ก็ว่าได้ ซึ่งจะทำให้ พล.อ.ประวิตร เจ้าของวันเกิดได้รับพลังอันบริสุทธิ์ ให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่มีอุดมการณ์ ยึดมั่น ปกป้องเทิดทูนสถาบันฯ เป็นสถาบันทางการเมือง และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นกลไกหนึ่ง ที่จะช่วยขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องประชาชน กินดีอยู่ดี มีความสุข ต่อไป
เชื่อมั่นรบ.เศรษฐาลดลง
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “สถานการณ์การเมืองไทยณ วันนี้” ระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,147 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างสนใจข่าวการเมืองในช่วงนี้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 43.42 โดยสนใจข่าวยุบพรรคก้าวไกลเป็นพิเศษ ร้อยละ 75.65 เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์การเมือง ณ วันนี้กับช่วงที่ผ่านมา คิดว่าแย่ลง ร้อยละ 67.57 ด้านความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลเศรษฐา กลุ่มตัวอย่างรู้สึกไม่ค่อยเชื่อมั่น ร้อยละ 63.73 ด้านกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีก็เห็นว่าควรปรับ ร้อยละ 55.62 สุดท้ายมองว่าทิศทางการเมืองไทยต่อจากนี้น่าจะแย่ลง ร้อยละ 68.44
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลสะท้อนความวิตกกังวลของประชาชนต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะการยุบพรรคก้าวไกลที่กระตุ้นความสนใจข่าวการเมือง การมองว่าการเมืองแย่ลงสะท้อนถึงความไม่พอใจต่อการบริหารงาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจแม้จะมีความคืบหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตก็ยังไม่เพียงพอ ความเชื่อมั่นในรัฐบาลที่ต่ำและการสนับสนุนการปรับคณะรัฐมนตรีแสดงถึงความคาดหวังในการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นความท้าทายที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี